Skip to main content
sharethis

นักกิจกรรม “โคราชมูฟเม้นท์” ถูกตำรวจคุมระหว่างพยายามชูป้าย “ปล่อยเพื่อนเรา” “คน = คน คนเท่ากัน” ที่ขบวนเสด็จของพระเทพฯ ก่อนปล่อยตัวกลับก่อนประกบตามซ้ำตอนออกไปทำธุระ นักกิจกรรมแจงโดนติด CCTV รอบบ้านพร้อมนอกเครื่องแบบเฝ้ามาตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.แล้ว

9 พ.ย.2565 แฟนเพจของกลุ่มนักกิจกรรม “โคราชมูฟเม้นท์” ถ่ายทอดสดกิจกรรมชูป้ายระหว่างสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จเยี่ยมโรงเรียนบุญวัฒนา ในจังหวัดนครราชสีมา พวกเขาชูป้ายที่เขียนว่า “ปล่อยเพื่อนเรา” “คน = คน คนเท่ากัน” ท่ามกลางตำรวจนอกเครื่องแบบหลายนายรุมล้อมอยู่ โดยในคลิปความยาว 15 นาทีปรากฏภาพของการยื้อแย้งป้ายกันด้วย

เปเปอร์(สงวนชื่อนามสกุล) อายุ 15 ปีสมาชิกของกลุ่มเล่าว่าวันนี้เธอและเพื่อนไปแสดงออกที่บริเวณโรงเรียนที่พระเทพฯ เสด็จมาโดยเตรียมป้ายไปด้วย แต่มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 2-3 นายตามประกบและขอให้เธอกับเพื่อนอีกคนไปรวมกลุ่มกับสมาชิกของกลุ่มอีก 2 คนที่อยู่อีกบริเวณหนึ่งโดยตำรวจบอกว่าจะพาพวกเธอทั้งหมดไปบริเวณที่จัดไว้รับเสด็จ แต่เมื่อเธอได้เจอเพื่อนอีกสองคนแล้วพวกเธอเจรจากับตำรวจว่าจะไม่ย้ายไปจุดที่มีประชาชนคนอื่นๆ รอรับเสด็จอยู่

เวลาผ่านไปสักพักเมื่อเห็นว่ามีขบวนออกมาตำรวจเลยต้อนพวกเธอทั้ง 4 คนให้ห่างออกไปจากขบวนอีก เพื่อนของเธอพวกเธอจึงได้ชูป้ายขึ้นได้เป็นเวลาไม่นานนักตำรวจก็เจรจาว่าได้ชูเสร็จแล้วก็กลับกันได้แล้วแต่พวกเธอยืนยันจะอยู่ชูต่อ ตำรวจก็เลยเกี่ยวแขนและดันเพื่อนสองคนที่มีป้ายเพื่อให้เอาลง โดยคนหนึ่งอายุ 17 ปีและอีกคนอายุ 19 ปี

เปเปอร์เล่าต่อว่า นอกจากตำรวจจะพยายามไม่ให้พวกเธอทำกิจกรรมต่อแล้วยังแจ้งว่าจะคุมตัวเพื่อนอีกคนที่ชื่อ “ฟ้า” (สงวนชื่อนามสกุล) ไปโดยอ้างว่าฟ้าเป็นคนที่เอาป้าย “เสด็จไปไหนก็เป็นภาระ” ไปติดหน้าโรงแรมที่พระเทพฯ ประทับอยู่ทั้งที่ไม่ได้มีการแสดงหมายและหลักฐานอะไรมาก่อน แต่สุดท้ายแล้วพอขบวนผ่านไปหมดแล้วตำรวจก็ปล่อยตัวพวกเธอกลับทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเพื่อนของเธอคนที่เพิ่งถูกเรียกไปสถานีตำรวจเรื่องติดป้ายที่โรงแรมเดินออกจากบ้านไปเพื่อไปทำธุระบริเวณคูเมืองปรากฏว่าถูกตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าประกบและเรียกคุย แต่บังเอิญเพื่อนอีกคนที่เพิ่งนั่งแกร๊บออกไปก็ไปเจอเพื่อนคนที่ถูกตำรวจประกบพอดีเลยโทรศัพท์เรียกตามคนอื่นๆ ไปด้วยจนเป็นเหตุการณ์ในการถ่ายทอดสดครั้งที่สอง แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่าตำรวจจราจรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันก็เข้ามาขอตรวจใบขับขี่และเอกสารประจำรถก่อนจะออกใบสั่งเสียค่าปรับมาแล้วจะนำตัวพวกเธอทั้งหมดไปสถานีตำรวจเหตุการณ์นี้เกิดอยู่ราวๆ 15 นาที พวกเธอจึงยอมไปที่สถานีกับตำรวจโดยระหว่างนี้ก็ติดต่อทนายความไปด้วย

เปเปอร์เล่าต่อว่าเมื่อไปถึงสถานีตำรวจแล้วเพื่อนคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนไปติดป้ายที่โรงแรมที่พระเทพฯ ประทับตำรวจก็พยายามดำเนินคดีข้อหาตามพ.ร.บ.ความสะอาดฯ แทนเพื่อนของเธอจึงปฏิเสธให้การทางตำรวจจึงให้ลงบันทึกประจำวันว่าถูกนำตัวมาที่สถานีแล้ว ก่อนจะปล่อยตัวพวกเธอกลับมาทั้งหมด

เปเปอร์เล่าเพิ่มเติมว่าในช่วงที่พระเทพฯ เสด็จมาอยู่ในจังหวัดนับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.เป็นต้นมามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามและเฝ้าอยู่บริเวณบ้านของกลุ่มพวกเธอตลอดเวลา อีกทั้งก่อนถึงวันที่เสด็จยังมีการติดกล้องวงจรปิดหลายตัวและหันมาทางบ้านของพวกเธอด้วยทำให้พวกเธอรู้สึกถูกคุกคามอย่างมาก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net