ประชาไท19 ส.ค. 48 เอ็นจีโอสายสิ่งแวดล้อมยื่นหนังสือเรียกร้องประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก ภายหลังรัฐบาลมีโครงการสร้างเขื่อน 2 เขื่อนในพื้นที่ป่า "ดงพญาเย็น-เขาใหญ่" ซึ่งเป็นมรดกโลกเพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้งในภาคตะวันออก
วันนี้ ที่สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมประกอบไปด้วยมูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ และมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพันธุ์พืชในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกับสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาฯ ได้ร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง "ความสำคัญของดงพญาเย็น-เขาใหญ่" และยื่นหนังสือต่อนาย
ทั้งนี้ โครงการสร้างเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนได้แก่ โครงการอ่างเก็บน้ำคลองใสน้อย-ใหญ่ และโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยโสมง เป็นโครงการสร้างเขื่อนในพื้นที่ป่า "ดงพญาเย็น-เขาใหญ่" ซึ่งเพิ่งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ด้านนายอดุลย์ ซึ่งเข้าร่วมการเสวนาระบุว่า อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ต่อกรณีดังกล่าวคือทำความเห็นเสนอต่อรัฐบาลว่าโครงการดังกล่าวจะเป็นการคุกคามต่อมรดกโลก แต่การตัดสินใจจะดำเนินการอย่างไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายรัฐบาล
นายอดุลย์ชี้แจงต่อไปว่า การดำเนินโครงการที่มีผลคุกคามต่อมรดกโลกนั้น ถึงแม้ว่าจะมีการประเมินผลกระทบและมีมาตรการแก้ปัญหาและใช้ได้ตามกฎหมายสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยเอง แต่นั่นก็เป็นบริบทของพื้นที่ที่ไม่ใช่มรดกโลก เพราะพื้นที่มรดกโลกมีกฎเกณฑ์ต่างหาก มีคณะกรรมการพิจารณาต่างหาก
ทั้งนี้ นาย
โดยนายอดุลย์กล่าวว่า หากถึงที่สุดแล้ว รัฐบาลยังยืนยันและมีมติที่จะเดินหน้าโครงการเขื่อนทั้ง 2 โครงการ ตนก็คงต้องปฏิบัติตามหน้าที่โดยต้องแจ้งข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการมรดกโลก ส่วนคณะกรรมการมรดกโลกจะวินิจฉัยถอดถอนป่าเขาใหญ่ออกจากการเป็นมรดกโลกหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- แถลงการณ์มูลนิธิสืบฯ ขอให้ปกป้องมรดกโลก
- ข้อเสนอแนะต่อการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในภาคตะวันออก
- กก.สิทธิฯ เสนอรัฐ ศึกษาผลกระทบก่อนเริ่มแผนผันน้ำตะวันออก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)