ประชาไท—1 พฤศจิกายน 2548 กมธ.พัฒนาสังคมฯ วุฒิสภา ออกมาคัดค้านแผนลอกบึงบอระเพ็ด และถมดินสร้างเกาะกลางทำรีสอร์ท ของ อบจ.นครสวรรค์ ที่จะชิงเสนอใน ครม.สัญจรวันนี้ ชี้จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งยังขัดกับกฎหมาย ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ และไม่มีการการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA)

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์เตรียมเสนอโครงการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร จ.นครสวรรค์ วันนี้ โดยอ้างเหตุความแล้งแห้งความเสื่อมโทรมของธรรมชาติและขาดการบริหารจัดการ ทำให้ไม่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้  จึงเสนอทางแก้ไขโดยวิธีขุดลอกบึงเพื่อเพิ่มปริมาณกักเก็บน้ำ (ทำแก้มลิง) และผันน้ำเข้าบึง ใช้งบประมาณ 897 ล้านบาท โดยดินที่ได้จากการขุดลอกจะนำมาถมเป็นเกาะกลางบึง มีพื้นที่ประมาณ 2,300 ไร่  เพื่อให้เอกชนเช่าพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โรงแรม รีสอร์ท สปา ลากูน สนามกอล์ฟ ฯลฯ 

ทั้งนี้ นางเตือนใจ ดีเทศน์ รองประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา และประธานอนุกรรมาธิการความมั่นคงของฐานทรัพยากร ออกมาแถลงคัดค้านโครงการดังกล่าว เพราะจะทำให้ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตชาวบ้านในพื้นที่ อีกทั้งการเปิดให้เอกชนเข้ามาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ยังขัดกับกฎหมายที่ดินซึ่งประกาศให้บึงบอระเพ็ดเป็นพื้นที่หลวง (นสล.) เพื่อเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ แต่กลับถูกนำเสนอต่อ ครม. อย่างเร่งด่วน ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ ทั้งยังไม่มีการการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA)

นางเตือนใจ กล่าวถึงบึงบอระเพ็ดว่า เป็นบึงน้ำจืดใหญ่สุดของภาคเหนือตอนล่าง ทำให้มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีคุณค่าทางการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ปัจจุบันบึงบอระเพ็ดถูกกำหนดให้เป็นเขตรักษาพืชพันธุ์ มีเนื้อที่ 132,737 ไร่ และยังได้รับประกาศให้เป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด 66,250 ไร่ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กมธ.พัฒนาสังคมฯ ยังชี้ให้เห็นว่า "ความผิดพลาดซึ่งจากการอนุมัติโครงการอย่างเร่งด่วน โดยผ่านวาระ ครม.สัญจร เคยปรากฏมาแล้ว  เมื่อครั้ง ครม.สัญจร ที่ จ.พะเยา และ จ.สกลนคร ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุ่มน้ำ คือ กว๊านพะเยาและหนองหาน"