สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผลการศึกษาพบว่า ผู้หญิงที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดมีโอกาสสูงในการปวดศีรษะ ทั้งการปวดจากไมเกรน และปวดจากไม่ได้เป็นไมเกรน
ดร.คาเรน แอดจิเดียส แห่งศูนย์ศึกษาการปวดศีรษะแห่งนอร์เวย์ หัวหน้าทีมการวิจัย กล่าวว่า มีผู้หญิงหลายคนที่ปวดไมเกรนระหว่างมีประจำเดือน เพราะระดับโฮร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ผู้หญิงกลุ่มนี้ค่อนข้างจะเป็นไมเกรนขณะที่กำลังกินยาเม็ดคุมกำเนิดด้วย เพราะยาคุมกำเนิดจะเพิ่มระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายให้สูงขึ้นถึง 4 เท่าจากระดับปกติ เป็นผลทำให้ระดับเอสโตรเจนตกลงอย่างรุนแรงเมื่อมีรอบเดือน
การศึกษานี้ศึกษาข้อมูลครอบคลุมผู้หญิง 13,944 คนในนอร์เวย์ ซึ่งกินยาคุมกำเนิดและมีอาการปวดศีรษะ
ผู้วิจัยรายงานในวารสาร Neurology ว่า มีผู้หญิงร้อยละ 40 ที่ปวดไมเกรนระหว่างกินยาเม็ดคุมกำเนิด และอีกร้อยละ 20 ที่ปวดศีรษะแบบไม่ได้เป็นไมเกรน
อย่างไรก็ตาม คณะทำงานพบว่า ไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างจำนวนของฮอร์โมนที่มีในยา และความเสี่ยงในการปวดศีรษะ
ทีมวิจัยแนะนำว่า คนไข้ที่ปวดศีรษะขณะที่กินยาคุมฯ แพทย์ควรสั่งแผ่นแปะฮอร์โมนเอสโตรเจนให้ใช้ 2-3 วันก่อนมีประจำเดือน เพื่อที่ระดับของฮอร์โมนเอสโตรเจนจะไม่ลดลงอย่างรวดเร็ว
นอจากนี้ ผู้หญิงที่รับฮอร์โมนเอสโตรเจนอย่างต่อเนื่อง 3 เดือน จะมีอาการปวดศีรษะเพียงปีละ 4 ครั้งแทนที่จะปวดทุกเดือน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)