Skip to main content
sharethis


 


"ดาหวัน เสาเสนา" หญิงชาวบ้านตองกาย ที่ถูกผลกระทบโดยตรงจากโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เธอต้องติดคุกถึง 2 ครั้ง ถูกข่มขู่คุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐ กรณีปัญหาเวนคืนที่ดินเพื่อการสร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี 


 


บ้านตองกาย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ มีอาณาเขตอยู่ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และอยู่ติดกับเขตพื้นที่โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีทางด้านทิศใต้ อาชีพของชาวบ้านที่นั่น ส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทำสวน ทำไร่ และหาของป่ากันมาช้านาน


 


ครั้นพอมีโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเกิดขึ้น หลายคนรู้สึกตื่นเต้น ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านทุกคนคาดหวังกันว่าทุกคนจะอยู่ดีกินดี แต่สุดท้ายกลับตาลปัตร เมื่อสิ่งที่ได้รับนั้นคือ การสูญเสียที่ดิน การข่มขู่ และการถูกจองจำ


 


และนี่คือบทสนทนาระหว่าง "ประชาไท" กับเธอ "ดาหวัน เสาเสนา"


 


ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยว่า ทำไมถึงต้องถูกเวนคืนที่ดิน ทำไมจึงเกิดปัญหา?


ที่ดินผืนนี้ชาวบ้านได้อาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายมานานแล้ว และก็ได้ปลูกต้นไม้ใหญ่ ไผ่ ผลไม้ มะม่วง มีการทำสวน พืชผักสวนครัวเต็มไปหมด ในที่ดินของดิฉันก็ได้ปลูกกระต๊อบเอาไว้ในสวนเอาไว้  ต่อมานายกฯทักษิณ ได้ประกาศว่า จะให้ป่าผืนนี้เป็นสวนสัตว์กลางคืนหรือเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมมีการบอกกับชาวบ้านจะทำให้ทุกคนอยู่ดีกินดี จะทำถนน จะทำไฟฟ้า น้ำประปาอะไรให้ จะสร้างร้านค้าให้ชาวบ้านได้ขายของฝากที่ระลึก


 


กระทั่งมีเจ้าหน้าที่เข้ามาและประกาศว่า ใครที่มีที่ดินอยู่ตรงนั้น ให้มาประชุมที่วัด พร้อมกับบอกว่า ใครเดือดร้อนอย่างไร ใครเห็นด้วย ใครไม่เห็นด้วย ซึ่งยอมรับว่าในตอนนั้นทุกคนก็อยากได้เงิน และคิดกันว่าถ้ามาทำความเจริญให้พวกเรา ให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี แต่เราก็บอกว่า ถ้าจะมาเอาที่ดินทำกินของชาวบ้าน เราไม่ยอมนะ


 


ซึ่งต่อมาทางการก็บอกว่า จะจ่ายค่าชดเชยให้ บอกให้นับต้นไม้ที่ปลูกมีกี่ต้น และจะตีประเมินราคาต้นไม้ที่ชาวบ้านปลูก ทุกคนก็ตกลง แต่พอมีการเวนคืนที่ดินของดิฉันจำนวน 1 ไร่ 3 งาน ก็ให้เงินมาจำนวน 25,400 บาท ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จากสำนักพื้นที่บริหารที่16 ได้มาขอที่ดินเพิ่มอีก 2ไร่ เพื่อนำที่ดินผืนนั้นไปขุดสระลูกแรก แต่ไม่ได้ให้เงินมา ซึ่งก็ได้ถามไปว่า คนอื่นยังได้เงินค่าชดเชย แต่ทำไมตนถึงไม่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ป่าไม้อ้างว่า ไม่สามารถทำเรื่องเวนคืนได้ทัน


 


นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังได้บอกให้แผ้วถางพื้นที่ใหม่ที่อยู่ติดกับพื้นที่เดิม ก็เลยถามไปว่า อ้าว แล้วมันไม่ผิดกฎหมายหรือ ที่ให้เราไปถางพื้นที่ใหม่ เขาก็บอกว่าไม่ผิด ไม่เป็นไร เพราะว่ามีชื่ออยู่ในกระทรวงแล้ว ดิฉันและสามีก็ถางพื้นที่ใหม่และปลูกพืชปลูกปักทำกินมาเป็นปี กระทั่งถูกจับกุมด้วยข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า"


 


ทราบข่าวว่าถูกติดคุก 2 ครั้ง?


ใช่ ถูกฟ้องคดี 2 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงปี 2546 ถูกฟ้องกล่าวหาว่าไปตัดไม้ทำลายป่า และยังกล่าวหาว่าค้าไม้ นำไม้ไปขาย ทั้งที่ดิฉันและและสามีนั้นปั่นจักรยาน ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่าๆ เข้าไปทำสวน ปลูกผัก พวกเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ทำงานในไนท์ซาฟารีก็เห็นเราอยู่ทุกวันๆ ก็อนุญาตให้เราเข้าไปทำกินในพื้นที่ได้ แต่ดิฉันต้องถูกจับคุกถึง 2 ครั้ง และปัจจุบัน ต้องถูกควบคุมความประพฤติ ให้ไปรายงานตัวเดือนละครั้ง ทั้งที่เราไม่ได้ทำผิดอะไรเลย


 


อย่างที่เล่าให้ฟังว่า ถึงแม้เขาจะเวนคืนที่ดินไปสองครั้ง แต่ที่ดินของดิฉันก็ยังมีเหลืออยู่ในบริเวณนั้น แต่พอถูกฟ้องดำเนินคดี ถูกติดคุกกลับมา ปรากฎว่า พวกเขาได้เข้าไปยึดที่ดินของดิฉันทั้งหมด เข้าไปสร้างกระต๊อบคนงานเต็มไปหมด พอจะเข้าไป ก็เข้าไปไม่ได้


 


ต้องเสียค่าใช้จ่ายกรณีถูกฟ้องเยอะไหม?


จำได้ว่า ครั้งแรกที่ถูกจับ ทั้งตัวดิฉันและสามีถูกจับเข้าห้องขังในสถานีตำรวจภูธรอำเภอหางดง 2 คืน และตัวดิฉันต้องไปนอนในคุกผู้หญิงอีก 2 คืน และเสียเงินไปแต่ละครั้งประมาณหมื่นกว่าบาท ยังไม่นับการเรื่องค่าใช้จ่ายต่อสู้คดี ซึ่งรวมแล้วมากกว่าเงินที่ได้รับค่าเวนคืนที่ดินทั้งหมดเสียอีก และล่าสุด ทนายความสิ่งแวดล้อม ของมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชฯ รับปากว่าจะเข้ามาช่วยเหลือ


 


เคยยื่นเรื่องร้องเรียนถึงนายกรัฐมนตรี?


เคย ยื่นหนังสือร้องเรียนไปหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีใครรับ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีก็เคย ยื่นหนังสือร้องเรียนตั้งนานแล้ว แต่สุดท้ายก็เงียบ แต่ก็ยังดีที่มีคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ เข้ามาช่วยเหลือในตอนหลัง


 


เคยถูกข่มขู่บ้างไหม?


บ่อยมาก อย่างกรณีที่ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ถึงคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งก็ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่เข้ามาข่มขู่ถึงในบ้านสามสี่ครั้ง ขนาดที่ดิฉันจะเข้าไปขุดหน่อไม้ เก็บกล้วย จะออกจากบ้านก็ไม่ได้ ก็จะมีคนติดตาม มีคนรายงานตลอด ทั้งๆ ที่สวนตรงนั้นเป็นของดิฉันแท้ๆ บางครั้งถึงกับพยายามจะฆ่าดิฉัน จำได้วันนั้น ไม่สบาย อยู่ในบ้าน  มีคนนำขนมปอเปี๊ยะมาให้ดิฉัน แต่ดิฉันไม่กิน พอให้สุนัขที่ลูกสาวนำมาฝากให้เลี้ยงที่บ้านกิน ปรากฎว่าหลังจากนั้น สุนัขเกิดน้ำลายฟูมปากตายไปหมดทั้ง 2 ตัว พี่รู้สึกเจ็บปวดมาก ที่มีคนคิดร้ายขนาดนี้


 


มีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ที่ถูกกระทำเช่นนี้?


รู้สึกเสียใจมาก ที่ถูกคนของรัฐ ถูกโครงการของรัฐทำอย่างนี้ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน แม้กระทั่งต้องเข้าไปติดคุก เสียเงินค่าประกันตนเอง ค่าปรับ รวมแล้วประมาณ 1 แสนบาท และต้องไปรายงานตัวตลอด อีกทั้งพอคนเรามีคดีติดตัวเช่นนี้ ก็เหมือนตายทั้งเป็น เพราะว่าพอจะไปทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครเอาเราหรอก ตอนนี้ ดิฉันจะเข้าพื้นที่ที่ดินของตัวเองก็ไม่ได้ มีป่าไม้คอยดูแล และสอดส่องดูว่า ตนเองไปไหนบ้าง หรือเข้าไปแล้ว ยังมีคำถามว่า เข้ามาทำไม ก็ได้แต่มองที่ดินของตัวเองแล้วรู้สึกเสียดาย ทุกวันนี้ก็ยังถูกข่มขู่และบอกว่าบุคคลคนนี้เป็นคนที่จะมาล้มไนท์ซาฟารี ซึ่งทำให้ดิฉันรู้สึกเจ็บปวด และดิฉันไม่ได้บอกว่ารัฐแกล้ง คนของรัฐแกล้ง แต่ตามความเป็นจริง คนอื่นมองอยู่แล้วว่า เขาเอาของที่ของดิฉันไป


 


และนี่เป็นเพียงบางเสี้ยวชีวิต บางครอบครัวของคนท้องถิ่น ที่ถูกผลกระทบจากการดำเนินการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net