7 ก.ย. 2549 -เจ้าชายเซอิด อัล ฮุสเซน แห่งจอร์แดน และเป็นทูตจอร์แดนประจำองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศร่วมชิงตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็น เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 49 โดยเจ้าชายเซอิดถือเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งรายที่ 5  

ผู้สมัครรายล่าสุดนี้เป็นถึงเป็นพระญาติของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน จึงถูกจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีประสบการณ์เป็นนักการทูตที่ได้รับการยอมรับจากหลายฝ่าย ทั้งยังเคยรับผิดชอบด้านกิจการการเมือง ในคณะรักษาสันติภาพของยูเอ็น ที่ดูแลเรื่องเหตุการณ์ไม่สงบในยูโกสลาเวีย ระหว่างปี 2537-253 และเป็นผู้สมัครคนแรกในวาระนี้ที่เป็นชาวมุสลิม

นอกจากนี้ เจ้าชายเซอิดทรงให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่าผู้สมัครมุสลิมนับว่ามีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่โลกต้องเผชิญเหตุการณ์หลายอย่างในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา หรือการที่อิหร่านไม่ยอมระงับการแปรรูปยูเรเนียม

นายโคฟี อันนัน เลขาฯยูเอ็น จะหมดวาระในวันที่ 31 ธันวาคม นักการทูตส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่าเลขาฯคนต่อไปควรมาจากเอเชีย ยูเอ็นจัดให้จอร์แดนเป็นประเทศในกลุ่มเอเชีย แต่บางชาติอาจมองว่าจอร์แดนอยู่ในตะวันออกกลางมากกว่า

ทั้งนี้ ผู้สมัคร 4 คนที่ประกาศชิงตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ได้แก่ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย รักษาการรองนายกรัฐมนตรีของไทย, นายบัน คี-มูน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้, นายชยันธา ธนาพาลา ชาวศรีลังกา อดีตหัวหน้าฝ่ายปลดอาวุธของยูเอ็น และนายซาชี ธารูร์ ชาวอินเดีย รองเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายข้อมูลข่าวสาร

เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิก 15 ชาติในคณะมนตรีความมั่นคงได้หยั่งเสียงรอบแรกเพื่อหาผู้เหมาะสมในตำแหน่งเลขาธิการยูเอ็น ปรากฏว่านายบัน คี-มูน ได้คะแนนนำ ส่วนดร.สุรเกียรติ์อยู่อันดับ 3 และการหยั่งเสียงรอบใหม่คาดว่าน่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนกันยายน โดยการสรรหาเลขาธิการคนใหม่จะเป็นหัวข้อสำคัญที่มีการหารือกันระหว่างการประชุมระดับรัฐมนตรี สมัชชาใหญ่ ในวันที่ 19 กันยายนนี้ด้วย