11 ม.ค.51 -  เมื่อวันที่ 10 ม.ค. เวลา 15.15 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองของพรรค ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยังคงยึดถือกฎกติกามารยาททางการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่มีการปกครองโดยระบบรัฐสภา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้ให้เกียรติพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้ง มีโอกาสรวบรวมเสียงข้างมากเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน โดยจะไม่จัดตั้งรัฐบาลแข่งใดๆ  ทั้งสิ้น เนื่องจากตนอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้า

นอกจากนี้ยืนยันให้ประชาชนสบายใจด้วยว่าในกรณีที่มีสมาชิกพรรคคนหนึ่งไปฟ้องร้องต่อศาลฏีกา ให้วินิจฉัยการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2550 ไม่ชอบด้วยกฎหมายและให้เพิกถอนการนับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 เป็นโมฆะ  เป็นการกระทำส่วนตัว ไม่ได้เป็นมติของพรรคแต่อย่างใด ทั้งนี้ทางพรรคได้ขอให้นายไชยวัฒน์ ไปถอนฟ้องในประเด็นดังกล่าวแล้ว คาดว่านายไชยวัฒน์จะดำเนินการได้ภายใน 1-2 วันนี้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า  ในการวินิจฉัยกรณีที่มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยากเรียกร้องให้ดำเนินการที่เป็นไปตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 และวินิจฉัยให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ และทันก่อนการเปิดประชุมสภา ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ เพื่อให้รัฐสภามี ส.ส ที่เป็นมือบริสุทธิ์เข้าไปชี้อนาคตของบ้านเมืองต่อไป ทั้งนี้ ขอวิงวอนให้ทุกฝ่ายเปิดโอกาสให้องค์กรต่างๆ ที่มีความเป็นกลาง และดำเนินการตัดสินใจอำนาจหน้าที่ตามข้อเท็จจริงทำหน้าที่ของตนเองอย่างตรงไปตรงมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชเสนอให้พรรคพลังประชาชนและพรรคประชาธิปัตย์ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล  นายอภิสิทธิ์ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เพียงกล่าวว่า กลัวว่าจะเกิดความสับสนขึ้น ใครจะเป็นรัฐบาลสูตรไหนอย่างไรไม่เป็นไร ยังมีเวลาที่จะรอดูว่ามีอะไรเกิดขึ้น หากแสดงความคิดเห็นตอนนี้อาจจะทำให้เกิดเงื่อนไขได้ว่า จะมีการตอบโต้ขัดแย้งปฏิเสธกัน ช่วงนี้อยากให้พรรคพลังประชาชนเดินหน้ารวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน

ด้านนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค.2550 ไม่ชอบด้วยกฎหมายและให้เพิกถอนการนับคะแนนเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2550 เป็นโมฆะ โดยใช้สิทธิ์ในฐานะผู้เสียหาย  การที่นายอภิสิทธิ์ระบุว่าอยากให้ถอนฟ้องประเด็นนี้ก็เป็นเพียงการสแสดงความคิดเห็นของนายอภิสิทธิ์ต่อสังคม 

ส่วนที่ระบุว่าตนทำไปโดยไม่ได้ปรึกษาหัวหน้าพรรคนั้น เป็นเพราะช่วงที่ตนไปร้องต่อศาลนั้นใกล้จะหยุดเทศกาลปีใหม่ จึงเกรงว่าถ้านำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของพรรค จะไม่ทันเวลา จึงตัดสินใจไปฟ้องร้องทันที แต่จากนั้นได้แจ้งเรื่องดังกล่าวให้ผู้ใหญ่ในพรรคได้รับทราบแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครมีปัญหาอะไร

นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้จะยังไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น เพราะในการฟ้องร้องกรณีดังกล่าว ได้มีผู้สมัครจากพรรคอื่น อาทิ นายสราวุธ ทองเพ็ญ เลขาธิการพรรคความหวังใหม่และอดีตผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 3 พรรคความหวังใหม่ เป็นต้น ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งจะมีการไต่สวนในวันที่ 11 ม.ค.นี้ ซึ่งคิดว่าต้องให้เกียรติกับผู้ที่ยื่นฟ้องร้องในประเด็นนี้ก่อน ซึ่งถ้าศาลมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร ก็จะนำมาทบทวนอีกครั้งว่าจะถอนฟ้องหรือไม่

ทางด้านพรรคพลังประชาชน นายยืนหยัด ใจสมุทร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ถอนเรื่องที่ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะว่าคงเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องการให้ กกต.เป็นจำเลยร่วม แต่ต้องการให้พรรคพลังประชาชนเป็นจำเลยตามลำพัง เพราะมิฉะนั้น กกต.ต้องสู้ทุกประเด็น โดยเฉพาะการเลือกตั้งล่วงหน้าใน กทม.ถ้าถูกเพิกถอนไปด้วยจะมีผลต่อเก้าอี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งพรรคพลังประชาชนยังสงสัยในคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าว่า มีอะไรที่ผิดปกติบ้างหรือไม่

"ประเด็นนี้ถ้านายชัยวัฒน์ไม่ถอนก็เป็นผลร้ายต่อพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทางศาลฎีกาต้องสอบถามพรรพลังประชาชนและ กกต.ก่อนว่าจะคัดค้านการขอถอนเฉพาะบางข้อหาหรือไม่  ซึ่งฝ่ายกฎหมายต้องปรึกษาก่อนว่าเรื่องนี้จะเห็นอย่างไร แต่แนวโน้มน่าจะคัดค้านไม่ให้ถอนเฉพาะประเด็น แต่ต้องถอนทุกข้อด้วย"นายยืนหยัด กล่าว