การเมือง

พลังแม้วไม่ฟังเสียง หมักยันประชามติก่อนแก้รธน.

ผู้จัดการรายวัน - นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะคณะกรรมการประสัมพันธ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงรายงานข่าวว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แจ้งระหว่างการรับประทานอาหารร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า จะไม่จัดการออกเสียงประชามติแล้ว เพราะต้องการปล่อยให้เป็นเรื่องของสภาว่า ตนเห็นว่านายกรัฐมนตรีกำลังเข้าใจผิด เพราะอาจจะไม่ได้ดูรายละเอียดของญัตติด่วน การตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการใช้และปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ว่ามีเล่ห์อะไรซ่อนอยู่บ้าง ซึ่งพรรคพลังประชาชนมีโอกาสพิจารณาญัตติดังกล่าว ของพรรคประชาธิปัตย์แล้วพบว่า ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาว่ามีประเด็นใดควรที่จะแก้ไขบ้าง แต่ตั้งขึ้นเพื่อศึกษาตรวจสอบจับผิดว่า ประเด็นใดมีผล ไม่มีผลทางกฎหมาย และมีประเด็นใดบ้างที่องค์กรและรัฐบาลละเลยในการออกกฎหมายลูก ซึ่งกรณีนี้จะทำให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน เนื่องจากกฎหมายรัฐธรรมนูญในหลายมาตรา ยังไม่มีการนำมาใช้

 

นายสุทิน กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่าเรื่องการตั้งกมธ.วิสามัญศึกษานี้ วิปรัฐบาล และวิปฝ่ายค้าน จะหารือกัน เพื่อขอให้พรรคประชาธิปัตย์แก้ไขญัตติการตั้งกมธ.วิสามัญ เพื่อให้สอดคล้องกัน ทั้งนี้ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงดึงดันที่จะยื่นญัตตินี้ เชื่อได้ว่าญัตติดังกล่าวจะไม่ผ่านการพิจารณาในวาระแรกอย่างแน่นอน เพราะส.ส.ส่วนใหญ่คงไม่มีใครเอาด้วย

 

"นายกฯไม่ได้ดูรายละเอียด และท่านก็ใจซื่อ คิดว่าจะเป็นไปตามนั้น คิดไปว่าถ้าสภาตั้งกรรมธิการร่วมก็ไม่จำเป็นที่จะทำประชามติ แต่ที่จริงไม่ใช่ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เล่นเล่ห์ และผมยืนยันว่าการทำประชามติ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะยุติความขัดแย้ง และเป็นทางออกของประเทศได้ เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่าการรับฟังสียงส่วนใหญ่ของประเทศ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เชื่อว่าฝ่ายกฎหมายรัฐบาลในพรรคพลังประชาชนได้เรียนนายกฯให้รับทราบแล้ว"นายสุทิน กล่าว

 

มาร์คขอพบหมักวันนี้ หารือแก้ปัญหาวิกฤติชาติ

ผู้จัดการรายวัน -  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมการ

ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรม นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม ว่า เป็นการทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าไม่เอาใจใส่แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องเศรษฐกิจ ของแพง และราคาน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน รวมทั้งปัญหา 3 จ.ชายแดนภาคใต้ ก็ไม่แสดงความเอาใจใส่เท่าที่ควร

         

ส่วนจะอภิปรายเรื่องวุฒิภาวะผู้นำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ด้วยหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า "หากพูดเรื่องนี้เดี๋ยวนายกฯ ก็จะหน้าบูดบึ้งอีก ผมไม่อยากจะพูด"

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วานนี้ (11 มิ.ย.) วิปฝ่ายค้าน นำโดยนายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กว่า 10 คน ได้เดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้เปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมรัฐสภา ตามมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญโดยในหนังสือลงนาม โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรค ระบุว่า ขณะนี้บ้านเมือง  เกิดวิกฤติทางด้าน การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เกิดภาวะสินค้าอุปโภคบริโภคราคาแพงน้ำมันเพิ่ม ประชาชนได้รับความเดือนร้อน รวมถึงวิกฤติความขัดแย้งในสังคมอย่างรุนแรง จากการบริหางานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร เริ่มจากการคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ บริหารประเทศไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล โยกย้ายข้าราชการ ที่ไม่เป็นธรรม ใช้กลไกราชการเพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง จากสถานการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุให้วุฒิสภาจำนวนหนึ่งเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไป

ตามมาตรา 161 เพื่อคลีคลายปัญหา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีความห่วงใย ในสถานการณ์เช่นเดียวกัน จึงอยากให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 179 เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอภิปรายร่วมกันทั้งสองสภา เพื่อลดการเผชิญหน้า และความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ในสังคม พร้อมทั้งหาทางออกและยุติปัญหาวิกฤติ ด้านต่างๆ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร ไม่ได้ลงมารับหนังสือด้วย ตัวเอง แต่ส่งนายประพล มิลินทจินดา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือแทน แต่นายสาทิตย์ กล่าวว่า ลำบากใจมั้ย หากจะช่วยไปเรียนนายกฯ ให้ลงมารับหนังสือสักนิด เพราะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล ขณะที่ นายประพล กล่าว         ว่า ไม่มีอะไร นายกฯ ได้มอบหมายให้มารับแทน ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ทั้งนี้ นายสาทิตย์ ย้ำว่าจะรอยื่นหนังสือกับมือนายกฯ เอง นายประพล จึงเดินไปบนตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อกลับมาก็แจ้งว่า นายกฯ จะไปรอรับที่สภาวันนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 11.30 น. เพราะตอนนี้ท่านติดประชุม

         

นายสาทิตย์ กล่าวว่า หากนายกฯ สะดวกในวันนี้ที่สภา ถ้ามีเวลาผู้นำฝ่ายค้านก็พร้อมจะพูดคุยกับนายกฯในเรื่องนี้ด้วย ขอให้แจ้งกับนายกฯด้วย จากนั้นนายสาทิตย์จึงยื่นหนังสือให้         

 

จักรภพมอบตัวสู้คดีหมิ่นเบื้องสูงพรุ่งนี้

โพสต์ทูเดย์ - พล.ต.ท. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุ ได้มีการพิจารณาตรวจสอบสำนวนคดีหมิ่นเบื้องสูงของนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งมีความเห็นว่า นายจักรภพฯมีการกระทำความผิดจริง ตามที่พนักงานสอบสวนฯ ได้สรุปผลเบื้องต้นมา โดยได้เสนอรายงานส่งไปยังคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับคดีหมิ่นเบื้องสูง ในระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว

ส่วนการออกหมายเรียกนายจักรภพฯ ให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหานั้น พล.ต.ท.สมยศ กล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า นายจักรภพ  เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปมอบตัว ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ในคดีหมิ่นเบื้องสูง  วันพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) เวลา 09.00 น. โดยจะมีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปด้วย ทั้งนี้ นายจักรภพจะไปรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับให้ปากคำ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เห็นว่าฟังไม่ขึ้น นายจักรภพพร้อมไปสู้คดีในชั้นศาล และตนจะใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัว

พปช. เตรียมฟ้องจารุวรรณ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เหตุมีคนให้สินบน 100 ล้านบาท แล้วไม่ดำเนินคดี

แนวหน้า - ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิง จารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ชี้แจงว่าการรับเงินบริจาคแทนกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า ตนขอตั้งข้อสังเกตว่ามีหน้าที่อะไรไปรับเงินบริจาคแทนพันธมิตร ถือว่าเข้าข่ายหมิ่นเหม่กฎหมายหรือไม่ จึงอยากตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมกรณีที่คุณหญิงจารุวรรณ ระบุมีคนเสนอเงินสินบนจำนวน 100 ล้านบาท และคุณหญิงไม่รับ แต่ทางกลับกันไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่เสนอสินบนดังกล่าว ทั้งที่คุณหญิงจารุวรรณเองมีหน้าที่ในการตรวจสอบทุจริต อยากถามว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติเข้าข่ายมาตรา 157 หรือไม่

นายจตุพรกล่าว่า อยากถามว่าคนที่เสนอสินบน100ล้านใช่คนๆ เดียวกับที่มอบเงินจำนวน 1 แสนบาทให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ หรือไม่ อย่างไรก็ตามตนจะให้เวลาคุณหญิงจารุวรรณชี้แจงว่าใครเป็นคนเสนอเงินสินบน 100 ล้านบาท ถ้าหากคุณหญิงไม่ชี้แจงภายใน 1 สัปดาห์ ตนจะดำเนินคดีต่อคุณหญิงจารุวรรณ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งสังคมจะได้รู้ว่าอะไรคือทองแท้ อะไรคือทองชุบ โดยตนจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป

   

สินบนศาล 2 ล้านพันคดีแม้ว

ผู้จัดการรายวัน - นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการศาลยุติธรรม แถลงกรณีมีการเผยแพร่ข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า มีทนายความของนักการเมืองนำกล่องขนมภายในบรรจุเงินสด 2 ล้านบาท มามอบให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงในศาลฎีกาว่า นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว และมีคำสั่งตั้งองค์คณะซึ่งประกอบด้วย ผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ 3 ท่าน ขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ทันทีหลังองค์คณะทั้ง 3 ท่านได้รับคำสั่งแล้ว อย่างไรก็ดี ไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการไต่สวน แต่จะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าใครเป็นผู้นำกล่องขนมมามอบให้ และทางศาลได้เก็บกล่องขนมดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ นายสราวุธ ตอบว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าเป็นเงินสด ก็ได้ส่งคืนให้กับผู้นำมามอบไปแล้ว ส่วนจะมีการถ่ายรูป หรือจดบันทึกไว้เป็นหลักฐานหรือไม่ ตนไม่ทราบแต่จะเป็นหน้าที่ขององค์คณะจะเป็นผู้สอบสวน และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏแล้วว่าผู้กระทำการเป็นใคร ชื่ออะไร ก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

เมื่อซักต่อว่า ศาลจะไม่เปิดเผยรายละเอียดแม้จะรู้ตัวคนที่กระทำผิด นายสราวุธ ตอบว่า ไม่ใช่ว่าจะไม่เปิดเผย เพราะขณะนี้ยังเป็นการรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์ แต่สิ่งที่ศาลทำ คือทำตามกฎหมายหากไต่สวนแล้วได้ความว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล ก็ต้องดำเนินการ ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายก็จะดำเนินการต่อไปแต่ยอมรับว่ามีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นตามที่รายงานข่าวไป โดยมีการนำกล่องขนมมามอบให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกา แต่ส่งตรงไหน ส่งให้ใครตนไม่ทราบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวเข้าข่ายการเสนอให้สินบนหรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า หากข้อเท็จจริงปรากฏว่าเป็นการเสนอให้เพื่อสินบนก็เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งการไต่สวนจะต้องเรียกเจ้าหน้าที่ศาลที่รู้เห็นและพยานอื่นที่เกี่ยวข้องมาไต่สวน ซึ่งหากเรื่องดังกล่าวเป็นการเสนอให้สินบนจริงก็ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก เพราะไม่เคยมีการเสนอให้สินบนถึงในศาลฎีกาเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อน

    

ผู้สื่อข่าวซักต่อว่าในวันเกิดเหตุ (10 มิ.ย.) ตรงกับวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีต้องมารายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีทุจริตที่ดินรัชดา หลังจากกลับจากต่างประเทศ มองว่าอาจมีความเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบโดยองค์คณะที่ทำการไต่สวนว่ามีอะไรเกิดขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีการทำผิดกฎหมายหรือไม่

 

เมื่อถามอีกว่า หากผลสอบข้อเท็จจริงออกมาว่าเป็นการเสนอให้สินบน จะสามารถกลับไปดำเนินคดีกับคนที่เอาเงินมามอบให้หรือไม่ หากข้อเท็จจริงสรุปออกมาเช่นนั้นก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน

 

นายสราวุธ ตอบคำถามที่ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงองค์คณะผู้พิพากษาในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ว่า องค์คณะของศาลฎีกาฯ แต่งตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่ประกอบด้วยผู้พิพากษา กว่า 100 ท่าน ซึ่งตนเชื่อในความซื่อสัตย์ สุจริตของผู้พิพากษาทุกท่าน การเปลี่ยนแปลงองค์คณะจะต้องมีเหตุตามกฎหมาย เช่น เสียชีวิต หรือลาออกจากกการเป็นผู้พิพากษา แต่จะมาเปลี่ยนกลางคันคงไม่ได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีช่องทางที่จะให้ผู้ที่ทราบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว มาแจ้งข้อมูลต่อศาลได้หรือไม่ นายสราวุธ กล่าวว่า สามารถแจ้งโดยตรงที่ ตนเองหรือผ่านทางสำนักงานศาลยุติธรรม เบอร์โทรศัพท์ 0-2512-2315 ซึ่งเชื่อว่าองค์คณะที่ทำการไต่สวนต้องการข้อเท็จจริงจากทุกทาง เพราะเราทำคดีนี้อย่างโปร่งใสและตรงไปตรงมา

 

เศรษฐกิจ

แท็กซี่เฮได้ปรับค่าโดยสาร 2 กม.แรก 40 บาทหรืออัตราเฉลี่ย

คมชัดลึก - ที่ประชุมร่วมระหว่างกรมการขนส่งทางบก กับผู้ประกอบการรถแท็กซี่ เห็นควรให้ปรับขึ้น         ค่าโดยสาร โดยจะเสนอกระทรวงคมนาคมพรุ่งนี้ (12 มิ.ย.) คาดว่าคงจะพิจารณาอย่างรวดเร็วว่าจะปรับขึ้นรูปแบบใด โดยจะเสนอ 2 รูปแบบ ได้แก่ 2 กิโลเมตรแรกยังคงอัตราเดิม 35 บาท จากนั้นจะเฉลี่ยปรับขึ้นตามระยะทาง และ 2 กิโลเมตรแรกปรับขึ้นจาก 35 บาท เป็น 40 บาท จากนั้น ปรับขึ้นตามระยะทาง

ขณะที่แท็กซี่เชียงใหม่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหว ยังยึดอัตราค่าโดยสารเดิมคือ กิโลเมตรแรก 40 บาท ต่อไปกิโลเมตรละ 5 บาท แต่หากราคาน้ำมันในตลาดยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะเคลื่อนไหวเรียกร้องขอขึ้นราคาค่าโดยสารบ้าง

 

ม็อบกระเทียมลั่นปิดสนามบินวันนี้ หลังปิดศาลากลาง-ถนนรัฐยังเฉย

ผู้จัดการรายวัน - เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดแม่ฮ่องสอนปิดศาลากลางจังหวัด พร้อมทั้งปิดถนนสายหลักแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ ทำจราจรอัมพาต น้ำมันตามปั๊มต่างๆเริ่มขาดแคลน จากรถบรรทุกน้ำมันผ่านเข้า-ออกพื้นที่ไม่ได้ ประกาศหากรัฐยังไม่ช่วยตามข้อเรียกร้องให้ประกันราคา 25 บาท/กิโลฯ วันนี้ เคลื่อนปิดสนามบินแน่

 

นายสุวัฒน์ ชีวังกูร ผู้จัดการปั๊มน้ำมันสุขุมเซอร์วิส สาขาแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ขณะนี้ปั๊มมีน้ำมันรวมอยู่ในถังประมาณ 40,000 ลิตรเท่านั้น เกรงว่าจะไม่พอให้บริการแก่ลูกค้า เพราะกลุ่มผู้ประท้วงได้ปิดถนนสายหลักจนรถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถผ่านได้ ส่งผลให้น้ำมันขาดแคลน

 

ด้าน นายธงชัย วงษ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า การที่กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมปิดทางเข้าศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน และปิดถนนสายหลักดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้สัญจรไปมา ขณะนี้จังหวัดได้ส่งตัวแทนไปเจรจากับกลุ่มผู้ประท้วงดังกล่าวแล้ว เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรเปิดช่องทาง

 

นอกจากนี้ จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีหนังสือไปยังคณะกรรมการนโยบายการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ถึงความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่ต้องการให้รัฐบาลรับซื้อกระเทียมแห้งจากเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 25 บาท ซึ่งก็จะต้องรอผลการประชุมของ คชก.ที่กรุงเทพฯ

 

นายนิรันต์ จันทร์แค้น ประธานเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมได้ปิดถนนสายหลัก 2 แห่ง และปิดทางเข้าศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้รัฐบาลรู้ว่ากลุ่มเกษตรกรแม่ฮ่องสอนกำลังได้รับความเดือดร้อน โดยเราจะปิดถนนและศาลากลางฯจนกว่า คชก.จะอนุมัติเงินมารับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร

 

ด้านนายแดง ปฏิพัฒน์กวี หนึ่งในแกนนำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากรัฐบาลยังไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน เรื่องการให้ความช่วยเหลือ กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมที่ปักหลักอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน จะยกพลไปปิดท่าอากาศยานจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อวันนี้( 12 มิ.ย.)

 

 

ต่างประเทศ

สนามบินมะกันติดตั้งสแกนเนอร์มองทะลุเสื้อผ้าเห็นผู้โดยสารเปลือย

คมชัดลึก - คณะกรรมการรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐ (ทีเอสเอ) แถลงเมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.) ว่าได้มีการติดตั้งเครื่องสแกนเนอร์ที่สามารถมองทะลุเสื้อผ้าผู้โดยสารได้ที่สนามบินแล้ว 10 แห่ง อาทิ ท่าอากาศยานแห่งชาติเรแกน และท่าอากาศยานนานาชาติบัลติมอร์-วอชิงตัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สนามบินเคนเนดีในมหานครนิวยอร์ก รวมถึงสนามบินในดัลลาส ลาสเวกัส ลอสแองเจลิส อัลบูเคอร์คิว ไมอามี และดีทรอยต์

 

ผู้โดยสารซึ่งถูกสุ่มเลือกมาจะต้องเดินเข้าไปในตู้กระจกที่มีสแกนเนอร์ติดตั้งอยู่ โดยเครื่องนี้จะปล่อยคลื่นขนาดเล็กที่สามารถชอนไชผ่านเสื้อผ้าเข้าไปค้นหาว่ามีโลหะ พลาสติก เซรามิก สารเคมีหรือวัตถุระเบิดซุกซ่อนไว้ในร่างกายหรือไม่แล้วสร้างภาพ 3 มิติของร่างกายใต้ร่มผ้าของผู้โดยสารคนนั้นออกมา โดยทีเอสเอยืนยันว่าถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ควบคุมเครื่องที่อยู่แยกออกไปอีกห้องหนึ่งจะสามารถเห็นร่างเปลือยของผู้โดยสารได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะเพศหรือรายละเอียดส่วนต่างๆของร่างกาย แต่จะไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของผู้โดยสารที่จะถูกทำให้มัวเอาไว้ และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย ภาพก็จะถูกลบออกจากหน้าจอเป็นการถาวรโดยไม่สามารถพิมพ์ เก็บ หรือส่งต่อภาพออกไปได้

 

ด้านผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของสหภาพสิทธิพลเรือนอเมริกันได้แสดงความวิตกเรื่องนี้โดยกล่าวว่าผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องโชว์เรือนร่างภายในร่มผ้าให้เห็นก่อนจะขึ้นเครื่อง

 

สภาสูงญี่ปุ่นลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯ

ผู้จัดการรายวัน - เอเอฟพี - พวกพรรคฝ่ายค้านที่ครองเสียงข้างมากในสภาสูงของญี่ปุ่น วานนี้(11)ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ยาสึโอะ ฟุคุดะ อันนับเป็นครั้งแรกที่ฝ่ายนิติบัญญัติแดนอาทิตย์อุทัยผ่านญัติติเช่นนี้ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันซึ่งใช้กันมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง

         

อย่างไรก็ตาม ญัตตินี้ไม่ได้มีผลบังคับผูกพันอะไร โดยฝ่ายค้านมุ่งหมายที่จะทำให้ฟุคุดะได้อาย ก่อนหน้าที่เขาจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับผู้นำของกลุ่ม 8 ชาติอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (จี8) ในวันที่ 7-9 เดือนหน้า ตลอดจนเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้นายกรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่นิยมผู้นี้ลาออกหรือไม่ก็ยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่

ทว่าฟุคุดะได้แถลงภายหลังการลงมติของสภาสูงว่า เขายังไม่คิดที่จะยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่ในตอนนี้

 

ทางการสหรัฐฯเพิ่มสอบเข้มน้ำมันแพง

ผู้จัดการรายวัน - รอยเตอร์ - บรรดาหน่วยงานผู้คุมกฎของทางการสหรัฐฯ ตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นสอบสวนหาสาเหตุของการที่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในปีนี้ เนื่องจากการตั้งข้อสงสัยของหลายฝ่ายที่บอกว่าอาจจะมาจากการปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรอย่างขนานใหญ่ของบริษัทการเงินในสหรัฐฯ

 

คณะกรรมการกำกับดูแลตลาดค้าอนุพันธ์ฟิวเจอร์สสินค้าโภคภัณฑ์(ซีเอฟทีซี) ประกาศเมื่อวันอังคาร (10) ว่าคณะกรรมการพิเศษที่ตั้งขึ้นใหม่นี้จะมีตัวแทนจากหลายหน่วยงานนโยบายเข้าร่วม เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ , กระทรวงการคลัง โดยจะร่วมกันประเมินการที่ราคาพุ่งขึ้น รวมทั้งสภาพการซื้อขายของสินค้าโภคภัณฑ์หลายชนิด

 

"ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้นก่อให้เกิดปัญหาอย่างใหญ่หลวงกับครอบครัวของสหรัฐฯ" ซีเอฟทีซีระบุ

หน่วยงานอื่น ๆที่ร่วมอยู่ในคณะกรรมการพิเศษนี้ก็เช่น คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(เอสอีซี) รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากกระทรวงพลังงานและกระทรวงเกษตร

 

ในระหว่างการประชุมกับบรรดาผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดพลังงานวอลล์สตรีท เจ้าหน้าที่ของซีเอฟทีซีผู้หนึ่งกล่าวว่า รัฐบาลจะเข้าสอบสวนราคาน้ำมันที่พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า โดยระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เพิ่งทำไว้เมื่อวันศุกร์(6)ที่ผ่านมา ณ 139.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

"สิ่งที่สำคัญก็คือ เราต้องการเห็นการสอบสวนที่เข้มข้นเพื่อหาสาเหตุที่อยู่เบื้องหลัง เพื่อที่จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตลาดเหล่านี้ ก่อนที่จะตัดสินลงไปว่าอะไรเป็นสาเหตุหรือไม่ได้เป็นสาเหตุของการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรงในช่วงที่ผ่านมา" บาร์ต ชิลตัน กรรมการคนหนึ่งของคณะกรรมการซีเอฟทีซี กล่าวในระหว่างการประชุมคณะที่ปรึกษาตลาดพลังงานของทางซีเอฟทีซีเอง

 

ชิลตันนั้นเป็นเดโมแครต และเขาพูดเรื่องนี้โดยส่อนัยว่าเป็นการตอบโต้คำพูดของรัฐมนตรีคลัง เฮนรี พอลสันที่ยืนยันว่าพวกเก็งกำไรไม่ได้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาน้ำมันไต่ระดับสูงขึ้นตลอดเวลา

บางทีท่านรัฐมนตรีอาจจะมีลูกแก้ววิเศษที่ทำให้เห็นทุกอย่างก็ได้ แต่ผมไม่มี แต่เท่าที่ผมได้เห็นและได้ยินจากตลาด รวมทั้งจากผู้ที่อยู่ในตลาดทั้งหลาย ทำให้ผมคิดว่าการที่รัฐมนตรีกล่าวออกมาเช่นนั้น พูดอย่างน่าฟังหน่อยก็คือเป็นการใจเร็วด่วนชี้ขาดเกินไป"

 

ในขณะเดียวกันจอห์น ไฮม์ลิช จากสมาคมการขนส่งทางอากาศ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะที่ปรึกษาอุตสาหกรรมพลังงานก็ตั้งข้อสงสัยว่าหน่วยงานค้าตราสารที่เป็นแขนขาของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีทต่าง ๆสามารถทำกำไรได้มหาศาลจากการที่ศูนย์วิจัยของบริษัทออกมาทำนายราคาน้ำมันในอนาคตกันบ้างหรือไม่

 

เพราะไฮม์ลิชสังเกตุเห็นว่าในระยะหลังเมื่อมีรายงานทำนายราคาออกมาที่บอกว่าราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นอีก ก็มักจะตามมาด้วยการลงทุนในตราสารน้ำมันอย่างขนานใหญ่ ซึ่งทำให้คนของโกลด์แมนแซคส์ต้องออกมาปฏิเสธว่า หน่วยงานลงทุนของบริษัทนั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศูนย์วิจัยของบริษัทแม้แต่น้อย

 

ก่อนหน้านี้ ซีเอฟทีซีได้ประกาศเปิดการสอบสวนในระดับประเทศขึ้นในเดือนธันวาคมเพื่อตรวจสอบว่ามีการปั่นราคาในตลาดน้ำมันจริงหรือไม่

 

"ซีเอฟทีซีมีหน้าที่ที่จะต้องทำให้ตลาดอนุพันธ์ฟิวเจอร์สของประเทศ มีการค้าอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากที่สุด และจะต้องทำให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์เป็นไปตามกลไกพื้นฐานของอุปสงค์และอุปทาน แทนที่จะขึ้นลงตามการปั่นราคาของพวกเก็งกำไร" วอลเตอร์ ลุคเคนซึ่งเป็นประธานซีเอฟทีซีกล่าว

 

พม่า ชี้ อองซาน ซูจี สมควรถูกเฆี่ยนฐานเป็นภัยต่อความมั่นคง

ศูนย์ข่าวเนชั่น - รัฐบาลทหารพม่าเปิดเผยในวันนี้ว่า นางอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) สมควรที่จะถูกเฆี่ยนตีเหมือนเด็กดื้อคนหนึ่งเนื่องจากคุกคามความมั่นคงของชาติ

หนังสือพิมพ์ของทางการรายงานว่า นางซูจีและบุคคลอื่นๆที่ถูกควบคุมตัวไว้ได้ติดต่อและได้รับเงินจากกลุ่มกบฏและรัฐบาลต่างชาติ

 

"เนื่องจากอาชญากรรมต่างๆที่พวกเขาได้ก่อขึ้น พวกเขาจึงสมควรถูกเฆี่ยนตีเพื่อเป็นการลงโทษเหมือนกับกรณีของเด็กดื้อ" หนังสือพิมพ์ระบุในบทบรรณาธิการภาษาพม่าและอังกฤษ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการสะท้อนความคิดของผู้นำรัฐบาล

 

บทบรรณาธิการยังระบุว่า รัฐบาลประพฤติตัวเหมือนเป็น "ผู้ปกครองของประชาชน" และใช้ "ความอดทนอย่างมาก"

 

รัฐบาลได้กักตัวนางซูจีและคนอื่นๆ "เพื่อไม่ให้พวกเขาอยู่ในสถานะที่จะก่ออาชญากรรมแบบเดียวกันได้อีกครั้ง"

 

พรรค NLD ของนางซูจีได้ชัยชนะกว่า 80 ที่นั่งในการเลือกตั้งเมื่อปี 1990 แต่ก็ถูกปฏิเสธจากรัฐบาลที่เข้ามาปกครองพม่านับตั้งแต่ก่อรัฐประหารในปี 1962

 

หนังสือพิมพ์ของทางการยังได้พยายามอธิบายฎหมายความมั่นคงที่ใช้ควบคุมตัวนางซูจี แต่ก็ไม่ได้ชี้แจงว่า คำสั่งขยายเวลาในการควบคุมตัวนางซูจีเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมานั้นเป็นการขยาย 6 หรือ 12 เดือน

หนังสือพิมพ์ยังได้ระบุถึงสิงคโปร์, มาเลเซียและสหรัฐว่าเป็นประเทศที่มีกฎหมาย "ปกป้องผู้ที่เป็นอันตรายต่อประเทศชาติ