Skip to main content
sharethis

การเมือง


ครม.ใหม่ทำสภาล่มวันเดียว 3 ครั้ง


เว็บไซต์เดลินิวส์ - เมื่อเวลา11.00 น. (25 ก.ย.) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดให้สมาชิกได้หารือถึงปัญหาความเดือดร้อนต่างๆใน พื้นที่ อาทิ น้ำท่วม ราคาพืชสินค้าเกษตรกรตกต่ำ เป็นต้น เพื่อรอให้ ส.ส.ครบองค์ประชุม คือ236 คน ซึ่งใช้เวลาเกือบ1 ชั่วโมง จนกระทั่งเวลา 12.00น. นายชัย ได้แจ้งให้ที่ประชุมรับว่ามีผู้เข้าประชุม 273คนแล้ว จากนั้นได้ทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ครม. "สมชาย1 "



   


จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่ครม.เป็นผู้เสนอ และร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่..)พ.ศ.....ที่นายจุมพฏ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคพลังประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย.โดยนายชัย แจ้งว่า การประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย. มีการอภิปรายพอสมควรแล้ว จึงขอให้มีการลงมติรับหลักการในวาระที่1



 


ซึ่งนายชัย ได้ขอให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตนว่ามีจำนวนส.ส.ครบหรือไม่ ทั้งนี้ได้กดออดเรียก ส.ส. เข้าห้องประชุมถึง 6 ครั้ง โดยนายชัย ได้กล่าวว่า "ห้องประชุมก็เย็นดี ขอให้อยู่ในห้องประชุมดีกว่า " ปรากฎว่า มี ส.ส.เสียบบัตรแสดงตนอยู่เพียง188 คน



   


ทำให้นายชัย ยังได้กดออดเรียก ส.ส.เข้าห้องประชุมต่ออีก3 ครั้ง พร้อมกับเอ่ยพร้อมๆกับมองไปยังที่นั่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของห้องประชุมว่า ฝั่งซ้ายร่อยหรอ แล้วผู้นำฝ่ายค้านไปไหน ขอให้วิปฝ่ายค้านไปรวบรวมคนมาให้ได้มากกว่านี้ด้วย



 


ทำให้ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) ได้ลุกขึ้นตอบโต้ ว่า ส.ส.รัฐบาลมี300กว่าคนนะครับ ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้วิ่งเข้าห้องประชุม และลุกขึ้นชี้แจง กล่าวว่า ประธานต้องยอมรับว่า ได้นัดเปลี่ยนเวลาการประชุม จากเดิม 13.30น. มาเป็นเวลา 11.00น. ทำให้สมาชิกสับสน ซึ่งสมาชิกก็ติดธุระตามหนังสือที่ประธานแจ้งแต่แรก ดังนั้นจึงขอเสนอให้พักการประชุมก่อนแล้วมาดูอีกทีว่าองค์ประชุมจะครบหรือไม่



   


นายชัย ยังได้พยายามพูดถ่วงเวลาเพื่อให้ ส.ส.พรรคพลังประชาชนทะยอยเข้าห้องประชุม แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนท้ายที่สุดนายชัย ได้ตัดสั่งพักการประชุม 15 นาที ในเวลา 12.15น.



   


จากนั้นเวลา 12.35 น. ได้เริ่มการประชุมอีกครั้งแต่สมาชิกยังบางตา ทำให้นายชัย กดออดยาวมากเรียกสมาชิกถึง 8 ครั้ง ปรากฏว่า มีสมาชิกเสียบบัตรแสดงตน 205 คน ซึ่งถือว่าไม่สภาล่มเป็นครั้งที่ 2 ทำให้นางอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชาชน เสนอให้นับองค์ประชุมโดยวิธีการขานชื่อ เพราะทราบว่า ตอนแรกมีสมาชิกมาเซ็นชื่อประชุมครบองค์ประชุม ส่วนนายสาทิตย์ อภิปรายว่า องค์ประชุมล่ม 2 ครั้งแล้ว ขอให้วินิจฉัยให้ดีว่า ทำได้หรือไม่ อย่างไรก็ดีถ้าจะนับองค์ประชุมโดยการขานชื่อก็ไม่ขัดข้อง ทั้งนี้ตนได้เตือนประธานไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ว่า เลื่อนเวลาประชุม จะทำให้องค์ประชุมไม่ครบ จากนั้นนายชัย จึงให้นับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ขณะที่วิปรัฐบาลและส.ส.รัฐบาลต่างรีบโทรศัพท์ตามส.ส.รัฐบาลให้มาขานชื่อ แต่ภายหลังการรับองค์ประชุมปรากฏว่า มีผู้ขานชื่ออยู่ในห้องประชุมเพียง 218 คน ขณะที่มีผู้เซ็นชื่อมาประชุม 375 คน ถือว่า ไม่ครบองค์ประชุม



   


ทำให้นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคพลังประชาชน เสนอให้ปิดประชุม ในที่สุด ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ชี้แจงว่า ขออภัยสมาชิกที่ประธานเลื่อนประชุมมาเร็วขึ้น ทำให้สมาชิกไม่พร้อมเพราะอาจมีการนัดประชุมคณะกรรมาธิการ และมีรัฐมนตรีที่จะเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณในช่วงเย็น ส่วนที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาท์ ก็ถือเป็นสิทธิ์ และปิดประชุมในเวลา 13.40 น.



   


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่วงรอการรวมคะแนน นางอรุณี ลุกขึ้นอภิปรายอย่างมีอารมณ์ว่า สมาชิกมาเซ็นชื่อเยอะแต่ไม่เข้าห้องประชุม ถามว่าเป็นเกมการเมืองอะไรหรือไม่ ทุกคนเป็นผู้แทนที่ชาวบ้านเลือกมา อย่าให้ชาวบ้านดูถูก ตนเป็นส.ส.มา 6 ปี รู้สึกอึดอัดมาก ด้านนายสาทิตย์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือในการประชุมมาตลอดและอภิปรายตั้งข้อสังเกตกับบรรดากฎหมายที่เข้ามา แต่ครั้งนี้ที่ต้องแสดงออกด้วยการเดินออก ก็เพื่อเรียกร้องความรับผิดชอบของฝ่ายรัฐบาล ทั้งนี้รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว ถ้ามาเกินครึ่งก็พิจารณากฎหมายที่เสนอมาได้อยู่แล้ว เพราะฝ่ายค้านมี 164 เสียงเท่านั้น



   


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนการเริ่มนับองค์ประชุมด้วยวิธีการขานชื่อ ปรากฏว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ทยอยกันเดินออกจากห้องประชุม เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับร่างพ.ร.บ.ป.ป.ง.ทั้ง 2 ฉบับ และได้แถลงข่าวที่ห้องวิปฝ่ายค้าน โดยมีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชวน หลีกภัย ส.ส.สัดส่วน และนายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่วอร์คเอาต์



   


สำหรับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ต่างวิ่งมาขานชื่อในตอนหลัง ขณะที่ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นั่งขานชื่ออยู่ในห้องประชุม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่นายสมัคร เข้าประชุมสภาฯ หลังจากแห้วการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12ก.ย.ที่ผ่านมา ส่วนบรรดาแกนนำ หรือรัฐมนตรีก็ไม่มาประชุมสภาฯ



 


ขณะที่ส.ส.พรรคพลังประชาชน กลุ่มเพื่อนเนวิน กลุ่มโคราช และส.ส.พรรคเพื่อแผ่นดินกลุ่มบ้านริมน้ำ ซึ่งพลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี 'สมชาย 1'ก็ไม่ได้เข้าห้องประชุม แต่รวมตัวกันประมาณ 30-40 คน บริเวณห้องพักทานกาแฟ รอบๆห้องประชุมชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 -2


 


 


"จำลอง" เมินพปช.ค้านการเมืองใหม่


เว็บไซต์เดลินิวส์ - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ (พธม.) กล่าวถึงท่าทีการคัดค้านแนวคิดการเมืองใหม่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) ของพรรคพลังประชาชน (พปช.) ว่าเป็นเรื่องปกติของพรรคที่ไม่ต้องการสูญเสียอำนาจ แต่ไม่ขัดต่อท่าทีของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ที่ติดต่อเจรจากับพธม. เนื่องจากนายสมชายติดต่อมาในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ไม่ใช่ฐานะรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว



   


สำหรับข้อเสนอของนักวิชาการที่เสนอให้ยุติการชุมนุม เพื่อเดินหน้าการเมืองใหม่อย่างเป็นรูปธรรม พล.ต.จำลอง กล่าวว่า เป็นแนวคิดที่ดี แต่ส่วนตัวมองว่า ไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องยุติการชุมนุม ส่วนกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่จะบุกมาก่อความวุ่นวายต่อกลุ่มพธม.หากยังไม่ยุติการชุมนุมในเดือนตุลาคมนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม เพราะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ


 


 


ม็อบพธม.กร่อยปชช.ร่วมชุมนุมบางตา


สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น - กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตร ที่ปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลานี้ มีจำนวนร่อยหรอลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประชาชนซึ่งเดินทางมาร่วมชุมนุมแม้จะยังคงปรากฏให้เห็น แต่ก็มีจำนวนไม่มากนัก ส่งผลให้บรรยากาศการชุมนุมไม่คึกคัก โดยกิจกรรมบนเวทีพันธมิตรยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการปราศรัยโจมตีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายใต้การนำของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี สลับกับการแสดงดนตรีเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของกลุ่มผู้ชุมนุม นอกจากนี้ เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร ยังได้ประกาศบนเวทีให้ผู้ชุมนุมทราบว่า ในช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน - 8 ตุลาคม กลุ่มพันธมิตร จะจัดเตรียมอาหารเจไว้คอยให้บริการผู้ชุมนุมอีกด้วย


  


 


วิปรัฐวอนฝ่ายค้านร่วมรับผิดชอบกรณีสภาล่ม


สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น - นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ชี้แจง กรณีที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญ นิติบัญญัติ ที่ไม่สามารถลงมติรับร่างพระราชบัญญัติปราบปรามการฟอกเงินในวันนี้ได้ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบว่า การประชุมสมัยนี้ ต้องมี ส.ส.จากหลายพรรคเข้าร่วมพิจารณา ซึ่ง ส.ส. ทั้งสภาต้องรับผิดชอบร่วมกัน ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านกล่าวโทษรัฐบาลว่าไม่มีความรับผิดชอบ รวมถึงไม่ใส่ใจการเข้าร่วมประชุมนั้น พร้อมกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความรับผิดชอบเห็นว่าไม่ถูกต้อง เพราะ ส.ส.มีทั้งหมด 470 คน ฝ่ายค้านก็ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าว เป็นการปฏิเสธความรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคพลังประชาชน จะมีมาตรการใดหรือไม่ ต้องหารือภายในพรรคก่อน และบอก ส.ส. ว่าต้องทำหน้าที่ให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่อยากทำหน้าที่ตรงนี้แล้ว


 


นอกจากนี้ นายวิทยา กล่าวอีกว่า เหตุการณ์สภาล่มในวันนี้ ตนไม่อยากให้มองว่ามี ส.ส.หลายคนอกหักรักคุด จากการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแต่เกิดจากสมาชิกจำนวนมากติดภารกิจ


 


 


ปธ. กกต.ระบุ หาก "นิติภูมิ" สมัครสมาชิกอื่นก็ขาดความเป็นหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิทันที


เว็บไซต์แนวหน้า - นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า นายนิติภูมิ นวรัตน์ หัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิ ซึ่งได้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 19 และมาตรา 24 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองมากกว่า หนึ่งพรรคและเจ้าตัวก็จะต้องเป็นผู้เซ็นรับรองว่าตนเองสมัครใจเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งอยู่ ซึ่งนายนิติภูมิในขณะที่จดทะเบียนเป็นหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิแล้วยังไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นก็จะทำให้ขาดคุณสมบัติเป็นสมาชิกพรรคการเมืองทั้งสองพรรคและ ถือ ว่า ขาดจาก การเป็นหัวหน้าพรรคสุวรรณภูมิด้วย อย่างไรก็ตามโทษในเรื่องนี้ไม่ร้ายแรงเป็นเพียงโทษปรับไม่เกิน 3 ,000 บาทเท่านั้น ซึ่งหากต้องการข้อเท็จจริงก็ต้องถามนายนิติภูมิว่าเป็นสมัครเป็นสมาชิกพรรคอื่นหรือไม่



   


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทราบข่าวว่านายนิติภูมิ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองเพื่อไทย นั้นผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามนายนิติภูมิเพื่อข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ซึ่งนายนิติภูมิได้ตอบว่า " ต้องการทราบรายละเอียดเรื่องนี้ เดี๋ยวผมจะเขียนรายละเอียดชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงการตั้งพรรคสุวรรณภูมิ เพื่อรองรับกลุ่มของนายเนวินด้วย ขอให้ส่งอีเมลเข้าโทรศัพท์มือถือให้ แล้วจะส่งกลับไปให้ หลังจากนี้ก็ไม่มีการส่งคำชี้แจงอะไรมาให้ และก็ได้ปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือไม่สามารถติดต่อได้อีก


 


 


เศรษฐกิจ


รฟท.กุมหัวรายได้สูญ 136ล้านบาท


เดลินิวส์ - นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงผลเสียหลังพนักงาน รฟท. นัดหยุดงานเพื่อร่วมประท้วงกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยระหว่างวันที่ 28 ส.ค.-12 ก.ย. 51 รวมทั้งสิ้น 16 วันว่า ได้ส่งผลให้รถขบวนโดยสารในเส้นทางต่าง ๆ จำนวน 783 ขบวน และขบวนรถขนส่งสินค้า 356 ขบวนหยุดให้บริการ ทำให้รฟท. ต้องสูญเสียรายได้ไปทั้งสิ้น 136.62 ล้านบาท แบ่งเป็นสูญรายได้จากการเดินรถโดยสาร 78.9 ล้านบาท ผู้โดยสารได้รับความเสียหายกว่า 600,000 คน และสูญรายได้จากการเดินรถขนส่งสินค้า 57.99 ล้านบาท


   


ทั้งนี้จากการตรวจสอบในช่วงที่พนัก งานลาหยุดงานพร้อมกันจนส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนนั้น พบว่าวันที่มีพนักงานลาหยุดมากที่สุดคือวันที่ 29 ส.ค. 51 มีพนักงาน รฟท.ลาหยุด รวม 283 คน


  


 


ธปท.เตรียมสภาพคล่อง รับมือผลกระทบวิกฤติสหรัฐ


เว็บไซต์แนวหน้า - คณะติดตามประสานงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภาวะฉุกเฉิน ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐ บาลนายสมัคร สุนทรเวช ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของประเทศไทย (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ได้ประชุมประเมินสถานการณ์เมื่อวันที่ 25 กันยายน หลังประชุม นายศุภรัตน์ ควัฒ์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการชุดนี้ เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การเงินสหรัฐ พบว่า ทางการสหรัฐได้ดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและชัดเจนมากขึ้น ในการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ แต่ก็ต้องดูแผนฟื้นฟูระบบการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐจะผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสหรือไม่ หากแก้ไขปัญหาได้มากขึ้น ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับไทยและทั่วโลก ก็จะเบาบางลง



   


สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณที่ส่งผลกระทบต่อภาคการเงินของไทย ส่วนด้านธุรกิจประกันภัยก็ยังดำเนินงานได้ดีและมีความมั่นคง ขณะที่ตลาดหุ้นก็มีมาตรการหลายอย่างที่ดำเนินการไปแล้ว แม้ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินของสหรัฐ แต่ก็ยังไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อบริษัทจดทะเบียน(บจ.) ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาหนัก



   


"อย่างไรก็ตาม คณะติดตามฯจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อเตรียมเครื่องมือที่จะรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยจะมีการประชุมอีกครั้งในสัปดาห์หน้า"



   


ด้านนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่า ธปท.กล่าวว่า หากเศรษฐกิจไทยมีปัญหาขาดสภาพคล่องและมีความจำเป็นเร่งด่วน ทางธปท.ก็มีเครื่องมือที่เตรียมไว้พร้อมอัดฉีดสภาพให้ระบบเศรษฐกิจด้วยวิธีต่างๆ เช่นเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาอัดฉีดสภาพคล่องจำนวนมาก นำไปซื้อสินทรัพย์ที่มีปัญหาจากสถาบันการเงินเพื่อแก้ปัญหา



   


อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ติดตามสถานการณ์เงินทุนไหลออกนอกประเทศอย่างใกล้ชิด พบว่า ยังมีปริมาณเพียงเล็กน้อย เชื่อว่า ไม่น่าเป็นปัญหา เพราะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่หนี้สาธารณะก็อยู่ในระดับแค่ 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์ และส่วนมากเป็นหนี้ระยะยาว โดยหนี้ระยะสั้นอยู่ในระดับ 38 % ของหนี้ทั้งหมดเท่านั้น



   


"เศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่งมาก ตอนนี้เรารองรับการไหลเข้า-ออกของเงินทุนได้ดี ไม่เหมือนกับปี 2540 ขณะนี้สถานการณ์จึงยังไม่น่าเป็นห่วง เพราะค่าเงินบาทของไทยก็ไม่ได้อ่อนค่าลง บ่งชี้อยู่แล้วว่า เงินทุนไม่ได้ไหลออกไปไหน"



   


นางธาริษากล่าวว่า มีธนาคารพาณิชย์บางแห่งที่ไปก่อหนี้ต่างประเทศ จำนวน 3.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจถูกบริษัทเจ้าหนี้ในต่างประเทศดึงเงินกลับไปได้ แต่ก็เชื่อว่า ไม่มีผลกระทบ เพราะจำนวนหนี้ดังกล่าวเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมดของระบบสถาบันการเงินในปัจจุบัน 8 ล้านล้านบาท ถือว่า เป็นสัดส่วนที่น้อยมาก



   


ด้านนายคณิศ แสงสุพรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเศรษฐกิจการคลัง (สวค.) กล่าวว่า หากสภาครองเกสพิจารณายอมรับแผนฟื้นฟูระบบการเงินสหรัฐมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ก็จะทำให้วิกฤตการเงินของสหรัฐถึงจุดต่ำสุดและจบลงได้ แต่สิ่งที่จะตามมาคือ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐและทั่วโลก ซึ่งจะเกิดขึ้นในระยะยาว



   


ส่วนนางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคปภ.กล่าวว่า จากการที่ AIG บริษัทประกันรายใหญ่สุดของสหรัฐมีปัญหา ทำให้ที่ผ่านมามีผู้ขอคืนกรมธรรม์กับบริษัทประกันที่มีส่วนเกี่ยวข้องในไทยประมาณ 20-30 กรมธรรม์ คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านบาท ซึ่งถือว่า น้อยมาก ทางคปภ.คาดว่าทั้งปี 2551 ธุรกิจประกันชีวิตและประกันวินาศภัยยังจะขยายตัวได้อย่างต่ำ 12 %



   


นายประเวช องอาจสิทธิชัย ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส ก.ล.ต. กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยที่ปรับตัวผันผวนเป็นการเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับภูมิภาค เป็นผลกระทบจากวิกฤตสถาบันการเงินในสหรัฐ ไม่ได้เกิดจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งในแง่ของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ก็ยังมีสินทรัพย์สูง การลงทุนมีความเสี่ยงต่ำ อย่างไรก็ตาม การซื้อขายหุ้นยังต้องใช้วิจารณญาณให้มาก


 


 


คุณภาพชีวิต-สิ่งแวดล้อม


อธิบดี ปภ. เผย สถานการณ์น้ำท่วมเหลืออีก 8 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 16


เว็บไซต์แนวหน้า -นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้มีพื้นที่ประสบภัยรวม 24 จังหวัด 138 อำเภอ 735 ตำบล 4,462 หมู่บ้าน ผู้เสียชีวิต 13 ราย ราษฎรเดือดร้อน 282,554 ครัวเรือน 839,573 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง เสียหายบางส่วน 1,887 หลัง สะพาน 38 แห่ง ถนน 951 สาย พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมประมาณ 297,862 ไร่ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 114,957,778 บาท



   


ทั้งนี้ พื้นที่ซึ่งยังประสบภัยน้ำท่วมเหลือ 8 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และปราจีนบุรี



   


ขณะที่อีก 16 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ ตาก นครสวรรค์ นครนายก เลย สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร สระบุรี อุบลราชธานี มุกดาหาร บุรีรัมย์ แม่ฮ่องสอน และจันทบุรี



   


อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนสาธารณภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


 


 


ทส.เดินหน้ารับฟังเปิดเช่าอุทยานฯ4ภาค


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ- นายวิชิต พัฒนโกศัย รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) สรุปผลการจัดเวทีสาธารณะแนวคิดการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ว่า กลุ่มคนที่มาร่วมเวทีและมาร่วมแสดงความเห็นไม่หลากหลาย และไม่ครบทุกมุมทุกด้าน ทำให้เสียงส่วนใหญ่คัดค้านไม่เห็นด้วย แต่ก็ยินดีรับฟังทั้งหมด แต่ผู้แทนจากผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม หรือบางกลุ่มเขาอาจจะเห็นด้วยกับการส่งเสริมให้เอกชนมาบริหารจัดการอุทยานฯ ก็ไม่ได้มีโอกาสมา



   


ขณะเดียวกัน ยังทำให้ทราบว่าคนส่วนใหญ่ยังมีความเข้าใจต่อหลักการบริหารจัดการอุทยานฯ ไม่ถูกต้อง ในฐานะที่อยู่ตรงนี้ยังยืนยันหลักการว่า ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ต้องคุ้มครองดูแลรักษาป่าเป็นชีวิตจิตใจ 80% รองลงมาเรื่องการศึกษาวิจัย และสุดท้าย ด้านนันทนาการ ซึ่งหากเข้าใจคงไม่ต้องมาถกเถียงว่า ทำไมอุทยานฯ จึงเปิดให้บริการท่องเที่ยว



   


นายวิชิต กล่าวอีกว่า เวทีสาธารณะครั้งนี้ยังไม่ใช่ข้อยุติ โดยกรมอุทยานฯ เตรียมจะเปิดรับฟังความคิดเห็นทั่วประเทศให้ครบทั้ง 4 ภาค เพื่อได้ความคิดเห็นที่มากขึ้น และจัดเป็นหมวดหมู่ เพื่อสรุปประกอบการตัดสินใจให้กับผู้บริหารต่อไป



   


"มีคนตั้งคำถามว่า ผมคิดอย่างไรกับแนวคิดเรื่องนี้ ผมบอกว่าการจัดการอุทยานแห่งชาติ ต้องครบทั้ง 3 ด้านอย่างที่บอกไป ซึ่งในนั้นก็มีเรื่องเขตนันทนาการ และการจัดเขตพื้นที่ก็ไปเลือกมั่วไม่ได้ต้องอิงตามหลักวิชาการ แต่ถ้าสมมติว่าเปิดให้ลงทุนด้านบริการในอุทยานฯ ได้ อันดับแรกที่จะให้ความสำคัญยังคงเป็นชุมชนในพื้นที่นั้นๆ รองลงมาเป็นกลุ่มขนาดกลาง และระดับสูง และเปิดโอกาสให้ทุกคนมาเสนอทางเลือก ซึ่งตัวผมเองโปร่งใสอยู่แล้ว และตอนนี้เหลืออีกไม่กี่วันก็จะเกษียณอายุราชการแล้ว" นายวิชิตกล่าว



   


ขณะที่นายศักดิ์อนันต์ ปลาทอง อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า จากข่าวที่มีการอ้างว่าการกำหนดพื้นที่บริการที่บริเวณเกาะตาชัย และอ่าวงวงช้าง เป็นพื้นที่มีศักยภาพเหมาะสมที่จะกำหนดเป็นเขตบริการได้ ตามแผนแม่บทนั้น ในฐานะผู้จัดทำแผนแม่บทพื้นที่มรดกอาเซียนครอบคลุมอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน-สุรินทร์ และพังงา ระหว่างพ.ศ. 2550-2559 ซึ่งรับรองโดย นายดำรงค์ พิเดช อดีตอธิบดีกรมอุทยานฯ ขอยืนยันว่า



   


แผนแม่บทดังกล่าว ระบุไว้ชัดเจนว่าเขตบริการของเกาะตาชัย ทำได้แค่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สำหรับช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่มาดำน้ำ กับเรือ live aboard รวมทั้งการป้องกันเรือประมง โดยเขตบริการที่กำหนด ถ้าจะมีนักท่องเที่ยวมานอนก็แค่กางเต็นท์ และจำกัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีเพียงห้องน้ำ กับที่พักเจ้าหน้าที่เท่านั้น ส่วนที่อ่าวงวงช้างของเกาะแปดก็เป็นเพียงพื้นที่สำรอง ในกรณีที่หาดหน้าเกาะสี่กับอ่าวเกือก เกาะแปด มีนักท่องเที่ยวมากเกินไปในช่วง high season ก็จะให้นักท่องเที่ยวบางส่วนมากางเต็นท์นอน



   


"กรณีของ 2 พื้นที่ไม่ได้มีความเหมาะสมสำหรับการสร้างที่พักอย่างแน่นอน เนื่องจากสภาพความเป็นธรรมชาติที่ผู้เชี่ยวชาญด้านปะการัง ดร.นิพนธ์ พงศ์สุวรรณ จากสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล เคยเสนอด้วยซ้ำว่า ไม่ควรให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเลย เพราะเป็นแนวปะการังที่มีเอกลักษณ์รูปแบบที่หาได้ยากในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศ มีเฉพาะแนวปะการังด้านตะวันออกของเกาะแปดสิมิลันเท่านั้น" นายศักดิ์อนันต์กล่าว


 


 


ต่างประเทศ


อังกฤษกำลังร่างกฎหมายเปิดทาง "กษัตริย์คาทอลิก"


ผู้จัดการออนไลน์ -พรรคแรงงานของอังกฤษกำลังร่างกฎหมายเพื่อยุติการกีดกันผู้ นับถือคริสต์นิกายคาทอลิกไม่ให้เป็นผู้สืบราชสมบัติ และจะยกเลิกการพิจารณาลำดับขององค์รัชทายาทโดยให้สิทธิเพศชายก่อนด้วย โดยจะนำกฎหมายสำคัญดังกล่าวเข้าสู่สภาหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนี้ตามรายงานของหนังสือพิมพ์การ์เดียนฉบับวันพฤหัสบดี (25)


  


แม้ว่าสำนักนายกรัฐมนตรีของกอร์ดอน บราวน์จะไม่ได้แสดงความเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด ทว่าแจ๊ค สตรอว์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เคยกล่าวเมื่อเดือนมีนาคมว่า รัฐบาลนั้น "พร้อมที่จะพิจารณา" ทบทวนกฎหมาย "คร่ำครึ" ที่ห้ามกษัตริย์นับถือนิกายคาทอลิก


  


นอกจากนั้นยังมีคำร้องขอให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายดังกล่าวมาเป็น เวลานานแล้ว และพวกนักวิจารณ์ก็โจมตีมาตลอดว่าเป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม


  


ทั้งนี้ พระราชบัญญัติสิทธิปี 1688 พระราชบัญญัติการสืบสันตติวงศ์ ปี 1700 และพระราชบัญญัติสหภาพผนวกอาณาจักรอังกฤษและสกอตแลนด์ ปี 1706 ระบุว่าพระมหากษัตริย์ต้องทรงนับถือนิกายโปรเตสแตนต์ และหากองค์รัชทายาทเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับผู้นับถือนิกายคาทอลิก ก็จะถูกตัดสิทธิในการขึ้นครองราชสมบัติทันที


    


ในปีนี้เอง หญิงชาวคาทอลิกผู้หนึ่งได้เข้าพิธีหมั้นกับเจ้าชายปีเตอร์ ฟิลลิปส์ ซึ่งเป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ และเธอจะต้องยอมเปลี่ยนมานับถือนิกายเชิร์ช ออฟ อิงแลนด์ ก่อนที่จะเข้าพิธีอภิเษกสมรส มิฉะนั้นแล้วเจ้าชายฟิลลิปส์ก็จะต้องเสียสิทธิในการเป็นผู้สืบราชบัลลังก์ไป


 


 


กษัตริย์กัมพูชาพระราชทานอภัยโทษ "เจ้ารณฤทธิ์" เปิดทางกลับประเทศ


ผู้จัดการออนไลน์ - กษัตริย์นโรดม สีหโมนี แห่งกัมพูชา พระราชทานอภัยโทษให้สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ เพื่อเปิดทางให้พระองค์เสด็จกลับประเทศ


  


เจ้ารณฤทธิ์ ถูกตัดสินจำคุก 18 เดือน เมื่อเดือนมีนาคม ปีที่แล้ว โดยที่พระองค์ไม่ได้ไปปรากฏตัวต่อศาล กรณีขายที่ทำการพรรคและนำเงินไปซื้อทรัพย์สินส่วนตัว โดยคิดเป็นมูลค่าถึง 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และปัจจุบัน มีรายงานว่า พระองค์กำลังพำนักอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย


  


กษัตริย์สีหโมนี พระราชทานอภัยโทษให้เจ้ารณฤทธิ์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการอีกสมัย และสั่งการให้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ ด้านเจ้ารณฤทธิ์ ได้ส่งจดหมายขอบคุณที่กษัตริย์สีหโมนี ให้เสรีภาพแก่พระองค์อีกครั้งเพื่อให้สามารถกลับมาร่วมพัฒนาบ้านเมือง


  


นอกจากนี้ ยังได้ส่งจดหมายอีกฉบับขอบคุณนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ที่ช่วยจัดการเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ พร้อมกับแจ้งว่า พระองค์จะเสด็จกลับประเทศในวันอาทิตย์นี้


 


 


สหรัฐหารือคู่เจรจาปัญหาโสมแดง


เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ - สหรัฐหารือกับคู่เจรจาในเอเชียและรัสเซีย เพื่อหาทางรับมือเกาหลีเหนือ หลังจากสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางไล่ผู้ตรวจสอบออกจากโรงงานนิวเคลียร์ยองเบียง รวมถึงขนย้ายอุปกรณ์ตรวจตราออกไป และวางแผนที่จะใช้วัสดุนิวเคลียร์อีกครั้ง การกระทำดังกล่าวนับเป็นก้าวที่ท้าทายจากเกาหลีเหนือ ซึ่งบรรลุข้อตกลงปลดอาวุธแลกเปลี่ยนกับการได้รับความช่วยเหลือเมื่อปีที่แล้ว ทั้งนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกรุงเปียงยางประกาศว่าได้ยุติกระบวนการปฏิบัติตามข้อตกลง เพื่อประท้วงที่สหรัฐไม่ยอมถอดเกาหลีเหนือออกจากบัญชีดำประเทศที่สนับสนุนก่อการร้าย


 


 


แบนลูกอม'กระต่าย'ปนเมลามีน


เว็บไซต์ไทยโพสต์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) ร่วมกับกองทุนสงเคราะห์เด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) ออกแถลงการณ์ร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดี กล่าวตำหนิจีนว่า การจงใจใส่สารปนเปื้อนในอาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยงเด็กเล็กและทารกที่อ่อนแอนั้นเป็นสิ่งที่น่าตำหนิอย่างยิ่ง แต่ทั้งสององค์กรมั่นใจว่าแผนการยกเครื่องระบบความปลอดภัยด้านอาหารของจีนจะช่วยป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก และคาดหวังว่าด้วยว่ารัฐบาลจีนจะสืบสวนและให้ความใส่ใจด้านความปลอดภัยอาหารโดยเฉพาะของทารกและเด็กเล็กมากขึ้น



   


รัฐบาลจีนกำลังดิ้นรนกู้ชื่อเสียงและรับมือกับความตื่นตระหนกของประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ หลังจากมีเด็กป่วยเป็นโรคนิ่วในไตและโรคแทรกซ้อนอื่นเพราะกินนมผงปนเมลามีนไปแล้วกว่า 53,000 คน เสียชีวิตไป 4 คน ขณะที่อาหารที่ทำจากผลิตภัณฑ์นมของจีนถูกตรวจสอบและสั่งห้ามนำเข้าเพิ่มอีกในหลายประเทศ โดยอินเดียกลายเป็นชาติขนาดใหญ่ที่สุดที่ห้ามนำเข้านมและผลิตภัณฑ์จากนมของจีนแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีโดยมีกำหนดนาน 3 เดือน นอกจากนี้ยังมีฝรั่งเศส, เวียดนาม และเนปาล ที่สั่งห้ามขายผลิตภัณฑ์นมจีนทุกชนิด ส่วนพม่าทางการได้สั่งทำลายนมผงนำเข้าจากจีน 17.5 ตัน



   


นอกเหนือจากนมและผลิตภัณฑ์นม เช่น นมผงนมกล่องนมโยเกิร์ต ที่ถูกเรียกเก็บ ล่าสุดรัฐบาลจีนได้สั่งให้ร้านค้าในเซี่ยงไฮ้และไห่หนานเก็บลูกอมตรากระต่ายขาวจากชั้นวางทั้งหมด แต่ข่าวยังไม่ยืนยันว่ามีการเรียกเก็บทั่วประเทศเลยหรือไม่ หลังจากที่ฮ่องกงตรวจพบว่าลูกอมยี่ห้อนี้มีเมลามีนในระดับที่น่าตกใจคือมากกว่าเกณฑ์ถึง 6 เท่า ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, สหรัฐ, อังกฤษก็สั่งห้ามนำเข้าและเรียกเก็บลูกอมนี้เช่นกัน



   


เมื่อวันพุธ เกาหลีใต้ได้ตรวจพบเมลามีนปนเปื้อนในขนมปังกรอบยี่ห้อ "Milk Rusk" และข้าวพอง "Misaranf Custard" ที่ผลิตในจีน และได้สั่งเรียกเก็บสินค้าพร้อมห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์จากจีนที่ส่วนประกอบนมผงแล้ว



   


ส่วนที่ไต้หวัน รัฐมนตรีสาธารณสุข หลินฟางเยวีย ได้ยื่นลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบกรณีการนำเข้านมผง 25 ตันจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่อาจปนเปื้อน



   


ปัญหานมปนเปื้อนยังส่งผลกระทบต่อสัตว์ในจีนด้วย สัตวแพทย์ที่อุทยานสัตว์ป่าหางโจวเผยว่ามีลูกลิงอุรังอุตัง 2 ตัวและลูกสิงโต 1 ตัวเป็นนิ่วไนไตหลังจากกินนมผงปนเปื้อนมานานกว่า 1 ปี


 


 


กูเกิลตั้งรางวัลให้คนหัวคิดทำโลกดีขึ้น


เว็บไซต์คมชัดลึก-กูเกิลเว็บค้นหาข้อมูลยอดนิยมอันดับ 1 ของโลก แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ย.) ว่าจะมอบเงินรางวัล 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 340 ล้านบาท)ให้แก่ผู้ที่มีแนวคิดที่สามารถนำไปเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้ หรืออย่างน้อยก็ต้องเป็นแนวคิดที่ส่งผลดีต่อคนหมู่มาก โดยโครงการที่มีชื่อว่า 10^100 นี้ ถือกำเนิดขึ้นเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวาระที่เว็บไซต์กูเกิลก่อตั้งมาได้ครบ10 ปีพอดี



   


ผู้สนใจสามารถส่งแนวคิดสร้างโลกให้ดีขึ้นมาที่เว็บไซต์ www.project10tothe100.com ได้จนถึงวันที่ 20 ตุลาคมนี้ โดยจะเขียนเป็นภาษาใดก็ได้ ใน 25 ภาษาที่กูเกิลกำหนดไว้ ซึ่งรวมถึงภาษาไทย จากนั้นคณะกรรมการจะช่วยกันกลั่นกรองให้เหลือเพียง 100 แนวคิดภายในวันที่ 27 มกราคม และนำทั้ง 100 แนวคิดเสนอผ่านสื่อออนไลน์ระหว่างวันที่ 27 มกราคม-2 กุมภาพันธ์เพื่อให้คนทั่วไปลงคะแนนเลือกให้เหลือเพียง 20 แนวคิด จากนั้นจะให้คณะกรรมการตัดสินให้เหลือเพียง 5 แนวคิดที่จะได้ทุนรายละ 2 ล้านดอลลาร์ (ราว 68 ล้านบาท) จากกูเกิลไปสานฝันกันต่อไป



   


กูเกิลกล่าวว่าแนวคิดสร้างสรรค์โลกให้ดีขึ้นจะเป็นแนวคิดเล็กๆง่ายๆ หรือแบบต้องทุ่มทุนมหาศาลหรือใช้เทคโนโลยีซับซ้อนก็ได้ขอเพียงให้แนวคิดนั้นส่งผลในเชิงบวกต่อผู้คนในวงกว้าง และว่าสาเหตุที่ตั้งรางวัลนี้ขึ้นมาเพราะเชื่อว่าหลายคนมีแนวคิดที่ดีในการปรับเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น เพียงแต่ขาดเงินทุนมาสนับสนุนแนวคิดให้เป็นจริง



   


วันเดียวกันองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) รายงานว่า "งานสีเขียว" หรืองานที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยจะมีตำแหน่งงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกหลายล้านตำแหน่งทั่วโลกในช่วง 20-30 ปีข้างหน้าอันเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานทางเลือก เมื่อมีการเปลี่ยนจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไปเป็นพลังงานลม แสงอาทิตย์ และพลังงานความร้อนจากใต้พิภพมากขึ้น


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net