Skip to main content
sharethis


5 เม.ย.52 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มีการจัดงานวันสัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปี 2552 ที่ โดยมีนักกฎหมายเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยมี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานในพิธี ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ ศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ วางพานพุ่มดอกไม้ พร้อมมอบรางวัลสัญญา ธรรมศักดิ์ ประจำปี 2552 แก่นักกฎหมายดีเด่น คือ นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และนักศึกษากฎหมายดีเด่น คือ น.ส.อชิรญาณ์ จันทร์พูล นิติศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 เมื่อปี 2550

 


เป็นที่น่าสังเกตว่า งานในวันนี้ มีองคมนตรีอีก 3 คน เข้าร่วมงานด้วย คือ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์, นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ และนายศุภชัย ภู่งาม รวมถึงบุคคลสำคัญและศิษย์เก่าอาทิ นายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด นายอักขราทร จุฬารัตน์ ประธานศาลปกครองสูงสุด นายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการศาลปกครอง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร


 


ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยมีกำลังตำรวจใน จ.ปทุมธานี และยังมีเจ้าหน้าที่สรรพาวุธ ตรวจค้นวัตถุระเบิดโดยรอบบริเวณงานด้วย


 


จากนั้น พล.อ.เปรม กล่าวยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ว่า ขอขอบคุณ นายอักขราทร ที่เชิญตนมาในพิธีอันมีเกียรติและสำคัญ การยกย่องคนดีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน ฉะนั้น การที่กองทุนสัญญา ธรรมศักดิ์ ได้ยกย่องคนดีให้ปรากฏทุกปี ปีละ 2 คน เป็นเวลา 10 ปีมาแล้ว เป็นการกระทำหน้าที่ของคนไทยที่น่าจะได้รับการยกย่องส่งเสริม เป็นการตอบแทนบุญคุณประเทศที่ยิ่งใหญ่ ประเทศของเราถ้ามีคนดีเพิ่มขึ้น คนไม่ดีก็น่าจะลดลง พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ว่า ให้ยกย่องส่งเสริมคนดีให้คนดีมาดูแลบ้านเมือง และกีดกันคนไม่ดีไม่ให้เข้ามายุ่งหรือเกี่ยวข้องกับการบริหารบ้านเมือง หรือกิจการที่สำคัญๆ ตนขอแสดงความยินดีกับ นายชัช ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนรู้จักดี และเป็นที่ไว้วางใจของคนไทยส่วนน.ส.อชิรญาณ์ ทำงานที่ศาลปกครองก็เป็นคนที่ควรยกย่องส่งเสริมเหมือนกัน ขอพระสยามเทวาธิราชปกป้องทั้ง 2 คน ให้คงความดีตลอดไปและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนอื่นๆ และหวังว่า พิธีมอบรางวัลในครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้องค์กรอื่นๆ กระทำตาม เพื่อส่งเสริมคนดีของชาติบ้านเมืองให้ได้รับการยกย่องมากยิ่งขึ้น


 


ภายหลังนายอักขราทร ได้มอบรางวัลการประกวดเรียงความเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมนำสังคมกับท่าน อาจารย์สัญญาธรรมศักดิ์ และกล่าวยินดีกับผู้ได้รับรางวัล ว่า ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ได้รับรางวัล ซึ่งเป็นการสืบสานต่อเจตนารมณ์ของอาจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์ ในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมที่ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สังคมเดินไปได้อย่าง มีดุลยภาพ ภราดรภาพโดยเฉพาะสังคมในปัจจุบันนี้ ซึ่งโครงการจัดประกวดเรียงความเป็นการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เดินตามแนว ทางอาจารย์สัญญา ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านและยังได้รับการยกย่องเชิดชูให้เป็น แบบอย่างที่ดีสำหรับคนรุ่นหลังที่จะสืบสานต่อเจตนารมณ์


 


ในช่วงเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวถามถาม พล.อ.เปรมว่าปัญหาคือตอนนี้คนกำลังแยกไม่ออกระหว่างคนดีกับคนไม่ดีหรือเปล่า พล.อ.เปรม ถามว่า "ทำไมล่ะ?" ผู้สื่อข่าวตอบว่ากำลังมีความสับสนในเรื่องนี้ พล.อ.เปรม ตอบว่า "ไม่เห็นแยกยากตรงไหนเลย แยกได้สะดวกมาก"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า "เขาบอกว่ามันมีความพยายามที่จะทำ ที่จะดึงเอา..." ทำให้ พล.อ.เปรม ตอบสวนมาว่า "ถามมากแล้ว คนอื่นมั่ง" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า "อย่างท่าน สังคมก็เห็นว่าเป็นคนดี แต่ว่าก็ยังมีความพยายามที่จะ เอ่อ พาดพิงหรือกล่าวหา" พล.อ.เปรม ตอบว่า "ก็ไม่เป็นไร ผมก็ยังเป็นอยู่อย่างเก่า อย่างเดิม"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้สังคมเกิดความตื่นตัวในเรื่องเหล่านี้นี้อย่างไรได้บ้าง พล.อ.เปรม ตอบว่า "อืม... เขาตื่นกันแล้วมั้ง เขารู้จักแยกความดีกับความไม่ดี"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่ในช่วง 8-10 เม.ย.นี้ เป็นวันที่เขาประกาศ ใช้คำค่อนข้างรุนแรงว่าจะแตกหัก และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ท่านมองอย่างไรบ้าง แล้วเป็นห่วงสถานการณ์ที่มันจะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.เปรมตอบว่า "ผมไม่ทราบเรื่องนี้"


 


ผู้สื่อข่าวอีกสำนักหนึ่งถามว่าคิดอย่างไรเรื่องนำคนกลางเข้ามาเพื่อยุติปัญหาตรงนี้ พล.อ.เปรม ตอบว่า "ไม่รู้ ผมไม่รู้" ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วคิดอย่างไรที่จะนำ ดร.สุเมธ มาเป็นคนกลางที่จะไกล่เกลี่ยปัญหา พล.อ.เปรม ตอบว่า "นี่ไง เขายืนอยู่นี่ ถามเขาสิ"


 


ผู้สื่อข่าวถามถามว่าสถานการณ์ขณะนี้ ถ้ามีคนกลางมาไกล่เกลี่ย จะยุติปัญหาที่เกิดขึ้นได้ไหม พล.อ.เปรม ตอบว่า "เอ่อ คนกลางคือใครฮะ ที่จริง เอ่อ ผมก็ไม่ค่อยได้ เอ่อ ไม่คิดว่า เอ่อ อะไรดีล่ะ ไม่คิดว่า คนไทยจะไม่รักกัน" ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมความขัดแย้งมันถึงดูรุนแรงขึ้นมากทุกวัน พล.อ.เปรมตอบว่า "ผมไม่ทราบ คุณทราบดีกว่าผมอีก"


 


ผู้สื่อข่าวชายถามว่า "ป๋าครับ ป๋า ป๋า ใส่ใจจากการถูกโจมตีเรื่องนี้ไหมครับ" พล.อ.เปรม ย้อนถามว่า "อะไรนะ?" ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า "ที่ถูกโจมตีจากกลุ่มเสื้อแดง ป๋าใส่ใจไหมครับ" พล.อ.เปรม ตอบว่า "ผมไม่ค่อยได้ฟัง"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วที่กลุ่มเสื้อแดงขู่ว่าจะไปที่บ้านสี่เสาฯ วันที่ 8 นี้ เตรียมพร้อมรับอะไรบ้างไหม พล.อ.เปรม ตอบว่า "ไม่ได้เตรียมอะไรเลย" ผู้สื่อข่าวถามว่ายังอยู่บ้านเหมือนเดิม พล.อ.เปรมตอบว่า "ยังอยู่ มีบ้านหลังเดียว"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ท่านองคมนตรีพิจิตรเชื่อว่าคุณทักษิณนี้ไม่จงรักดี มองประเด็นนี้อย่างไร พล.อ.เปรมตอบว่า "ผมไม่รู้นะ คุณพิจิตรพูด ก็เห็นจะต้องไปถามคุณพิจิตรมั้ง"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า "สิ่งที่คุณทักษิณโจมตีท่าน และ พล.อ.สุรยุทธ์ ท่านมองไหมว่าคุณทักษิณมีเป้าหมายที่จะไปไกลกว่านั้น" พล.อ.เปรม ตอบว่า "อืม คุณรู้ดีกว่าผมน่ะ ผมไม่ค่อยได้สนใจว่าคุณทักษิณพูดอะไร ผมบอกหลายครั้งแล้วว่า ผมไม่ค่อยได้ฟังด้วยซ้ำไป คุณทักษิณพูดอะไร"


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่การโจมตีที่อยู่รอบองค์พระมหากษัตริย์จะบั่นทอนสถาบันและจะกัดกร่อนสถาบันไปในอนาคตหรือเปล่า พล.อ.เปรมตอบว่า "น่าจะเป็นนะ" ผู้สื่อข่าวถามว่าแล้วจะป้องกันอย่างไรที่จะไม่ให้กระทบถึงสถาบัน พล.อ.เปรม ตอบว่า "ก็อย่าพูดสิ" ผู้สื่อข่าวพยายามถามต่อว่าแต่ทักษิณไม่หยุด จากนั้นทหารรักษาความปลอดภัยประจำตัว พล.อ.เปรม ได้ขอให้ผู้สื่อข่าวหลีกทางให้คณะของ พล.อ.เปรม


 


 


 


 


ที่มา: เรียบเรียงจาก ผู้จัดการ ASTVผู้จัดการออนไลน์ [1] [2] เนชั่นchannel [3]

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net