Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis
 
“วิกฤติพลังงาน”
 “ไฟดับ ไฟฟ้าสำรองไม่พอ” จะหลอนสมองคนไทยทั้งประเทศหากไม่ถามว่า...เป็นจริงหรือ?
ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น 13ปีที่ผ่านมา... แผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า(แผนพีดีพี)สร้างปัญหาไฟฟ้าสำรองเกินความจำเป็นมาโดยตลอด ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงเกินจำเป็นและยังคง เป็นปัญหาต่อเนื่องในแผนพีดีพี2010.... มีการกำหนดตัวเลขไฟฟ้าสำรองให้สูงเกินค่ามาตรฐานสากล 15% เป็น20-40% โดยอ้างเหตุกลัวก๊าซหยุดส่ง...ทั้งๆที่มีทางเลือกง่ายๆคือ ทำระบบสำรองก๊าซที่ราคาถูกกว่าตอบโจทย์มากกว่า แต่กฟผ.และกระทรวงพลังงานกลับไม่ทำ แต่เลือกให้สร้างโรงไฟฟ้าที่ต้องใช้เงินเยอะกว่าขึ้นมาสำรองแทน
ไม่คิดทำแผนบริหารช่วงมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของปี(Peak) ที่เกิดขึ้นปีละเพียงไม่กี่ชั่วโมง..
แถมกฟผ.ยังจงใจวางแผนหยุดซ่อมโรงไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนมี.ค-พ.ค ซ้ำเติมให้ไฟฟ้าสำรองดูลดต่ำลง
อย่างน่าใจหาย ..นี่ถ้าแค่รู้จักคิดวางแผนบริหารPEAK รู้จักคิดซ่อมโรงไฟฟ้าในหน้าหนาว หน้าฝนที่คนใช้ไฟฟ้าน้อย ก็ช่วยลดการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มได้ แต่ก็เลือกไม่ทำ
มีนักวิชาการอิสระท้วงติงว่าการวางแผนพีดีพี.มีพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเกินจริงแต่ก็ไม่เคยถูกรับฟัง เพราะคนวางแผนพีดีพีกับ คนได้ผลประโยชน์จาการสร้างโรงไฟฟ้า เป็นกลุ่มก๊วนผลประโยชน์เดียวกัน ค่าโบนัสจากบริษัทค้าพลังงานสูงกว่าเงินเดือนข้าราชการที่มาจากภาษีประชาชน ....ความผิดพลาดจากการวางแผนพีดีพี.อย่างจงใจไม่มีใครต้องรับผิดชอบ แต่ส่งผลให้ค่าเอฟทีในบิลค่าไฟฟ้าของประชาชนสูงขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ใกล้แตะ 30%ของค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายกันแล้ว
การพยากรณ์ที่เกินจริงนี้ เป็นต้นเหตุที่นำไปสู่การจัดหาทางเลือกในการผลิตพลังงาน ที่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดของประเทศซ้ำเพิ่มเข้าอีก
ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหิน,นิวเคลียร์ ต่ำเกินจริง และ เป็นต้นทุนที่ทั้งกฟผ.และกระทรวงพลังงานไม่กล้าเปิดเผยต่อสาธารณะถึงที่มาของตัวเลขที่ใช้ในการคิดคำนวณ 
ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่ไม่เคยรวมค่าก่อสร้างสายส่ง ค่าการจำหน่าย ค่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯค่าผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม และสังคม จะมาอ้างเป็นต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริงได้อย่างไร
ถ้าคิดต้นทุนที่แท้จริง ทั้งถ่านหินและนิวเคลียร์ จะเป็นเชื้อเพลิงที่ไม่ควรเลือกในการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ในขณะที่การจัดการด้านการใช้ไฟฟ้า(DSM)ซึ่งมีศักยภาพถึง 29%ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี2573 ถูกกำหนดให้ทำเพียง0.4% นี่เป็นตัวอย่างทางเลือกที่ต้นทุนต่ำสุด(0.5-1.5บาท/หน่วย) ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯได้สูงสุดประเทศชาติได้ประโยชน์สุดแต่ทั้งกฟผ.และกระทรวงพลังงานไม่เลือกส่งเสริมให้ทำ
การเต้าวิกฤติพลังงาน จะถูกหยิบยกขึ้นมาทุกเวลาหากประชานยังไม่เท่าทันและถูกใช้อ้างเพื่อผลักดันโครงกาก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ขณะนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน จึงเป็นความจำเป็นและมีความชอบธรรมที่ชาวบ้านอย่างพวกเรา จะต้องช่วยกันหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน,นิวเคลียร์...หยุดการทุจริตแผนพีดีพี
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net