กว่า 400 คนรวมตัวต้านความรุนแรง หลังเหตุระเบิดตลาดนัดบ่อทอง บ้านบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ขอกลุ่มผู้เห็นต่างหยุดนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด สถานที่ราชการต่างๆ มาเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบ ขณะที่ กสม. ออกแถลงการณ์ประณาม

28 พ.ค.2562 จากกรณีเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทอง บ้านบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 16.15 น. ของวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อหาอาหารเพื่อเตรียมละศีลอด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ อัยดิลฟิตลี ยะโก๊ะ เด็กชายอายุ 14 ปี และ สารีปะห์ อาเย๊าะแซ อายุ 35 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 23 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ 4 ราย และประชาชนอีกจำนวน 19 ราย นั้น

วันนี้ มติชนออนไลน์ รายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เดินทางมาที่บริเวณตลาดนัดบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อแถลงข่าวและสรุปสถานการณ์รวมไปถึงความคืบหน้ากรณีคนร้ายลอบวางระเบิดดังกล่าว พร้อมกันนี้ได้ร่วมกิจกรรมรวมตัวของผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และนักเรียน ซึ่งมีทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและอิสลามในพื้นที่ ต.บ่อทอง กว่า 400 คน ออกมาถือป้ายประณามต่อต้านและเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นในทุกรูปแบบ หลังจากเกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณตลาดนัดบ่อทองแห่งนี้ โดยมีตัวแทนของทุกภาคส่วนออกมากล่าวแสดงจุดยืนในการต่อต้านความรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มคนร้ายยุติการก่อเหตุที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์ของประชาชน

ขณะเดียวกัน ยังออกแถลงการณ์การรณรงค์รวมพลังต่อต้านความรุนแรง โดยมีรายละเอียด 3 ข้อ คือ 1. ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบในการสร้างความขัดแย้งในพื้นที่ 2. ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างทุกกลุ่มหยุดทำร้าย เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ และ 3. ขอให้กลุ่มผู้เห็นต่างหยุดนำพื้นที่สาธารณะ เช่น ตลาด สถานที่ราชการต่างๆ มาเป็นพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบ

กสม. ออกแถลงการณ์ประณาม

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ ขอประณามการก่อเหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว โดย ระบุว่า กสม. ในฐานะองค์กรซึ่งมีหน้าที่และอำนาจในการส่งเสริมการเคารพและปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ขอประณามการก่อเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว และขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยขอให้ทุกภาคส่วนได้คำนึงถึงการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  สิทธิและเสรีภาพของบุคคล ดังนี้

1. ขอให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุการณ์ความรุนแรงยุติการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วัตถุระเบิดซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อเด็ก สตรี และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นการกระทำที่โหดร้ายและขัดต่อหลักศีลธรรมของทุกศาสนา และนำไปสู่การสร้างพฤติกรรมความรุนแรง ความหวาดกลัว และความรู้สึกเกลียดชังระหว่างกันในพื้นที่

2. ขอสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวนเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว ตลอดจนให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเหมาะสมและทั่วถึง

3. ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการที่เหมาะสมและรัดกุมในช่วงเทศกาลสำคัญที่จะคุ้มครองความปลอดภัยแก่ประชาชนในพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก สตรี คนชรา ให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยและเป็นปกติสุข ทั้งนี้ อาจสนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมเฝ้าระวังเหตุการณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้

4. ขอให้รัฐบาลควบคุมและกำกับดูแลให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานตามข้อ 2 และ 3 ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ กสม. พร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วนในการร่วมสร้างสังคมแห่งการเคารพสิทธิมนุษยชนและสังคมแห่งสันติสุขกลับสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้