Skip to main content
sharethis

เอกชัย หงส์กังวาน ยื่นหนังสือให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แก้ไขคำนำหน้าชื่อ ร้อยเอกธรรมนัส เป็น นายธรรมนัสแทน หลังตรวจสอบพบว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร ไปตั้งแต่ 2541

3  ม.ค. 2563 ไทยโพสต์ออนไลน์ รายงานว่า เอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมืองได้เดินทางมาพื่อยื่นหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โดยขอให้แก้ไขคำนำหน้าชื่อของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ในประกาศแต่งตั้งรัฐมนตรี 

เอกชัย กล่าวว่า ในราชกิจจานุเบกษาการแต่งตั้ง ส.ส. ร้อยเอกธรรมนัส ได้ใช้คำหน้าว่า “นาย” แต่ในราชกิจนุเบกษาการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี ได้ใช้คำว่า “ร้อยเอก” จึงทำให้สังคมเกิดความสงสัย ว่าตกลงแล้ว จะใช้คำว่า นาย หรือใส่ยศร้อยเอกกันแน่น ทั้งนี้ เมื่อไปตรวจสอบในราชกิจจานุเบกษา พบว่าในปี 2541 ได้มีการประกาศถอดยศร้อยโทของ พชร (ชื่อเดิม) หลังจากนั้นก็ไม่เคยปรากฏยศทางทหารอะไรที่เกี่ยวข้องกับ ร้อยเอกธรรมนัส อีกเลย

เอกชัย กล่าวต่อว่าตนได้ทำหนังสือไปสอบถามยังกระทรวงกลาโหมแล้ว ว่าจะใช้ยศอะไรแน่น เพราะใช้ในการเป็น ส.ส.ใช้ว่านาย แต่ในคณะรัฐมนตรีได้ใช้ร้อยเอก ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นข้อมูลส่วนตัว จึงทำเรื่องต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ยศทางทหารเป็นข้อมูลในราชกิจจานุเบกษา เป็นข้อมูลสาธารณะเป็นข้อมูลข่าวสารทางราชการ ไม่ใช่ข้อมูลบุคคล และให้ยึดตามราชกิจจานุเบกษาเป็นหลัก ซึ่งประกาศสุดท้ายในราชกิจจานุเบกษาทางทหารของร้อยเอกธรรมนัส ปี 2541 ได้ถอดยศร้อยโท ดังนั้นจึงถือว่าร้อยเอกธรรมนัส ไม่มียศทางทหารใดๆ ทั้งสิ้นจึงถือว่าเป็น “นาย” ที่ไม่ใช่ทั้งร้อยเอกและร้อยโท 

ทั้งนี้การเดินทางมายื่นคำร้อง เพื่อขอให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแก้ไขคำนำหน้าในราชกิจจานุเบกษา คำนำหน้าการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีของร้อยเอกธรรมนัส จากร้อยเอกเป็นนาย ซึ่งหากไม่แก้ไข จะส่งผลทางกฎหมายในอนาคต เพราะการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถือว่าเป็นกฎหมาย ดังนั้นการประกาศแล้วลงผิด อาจจะมีผลทางกฎหมายได้ จึงมาแจ้งเพื่อทำให้ถูกต้อง ซึ่งทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รับเรื่องและจะดำเนินการใช้ภายใน 15 วัน จะทราบผล

นอกจากนี้ เอกชัยระบุด้วยว่า หาก ธรรมนัสมียศเป็น ร้อยเอกจริง ก็ขอให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารทางราชการ ในการตรวจสอบการได้รับพระราชทานยศ เนื่องจากเป็นข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่สามารถเปิดเผยได้ ฉะนั้นกระทรวงกลาโหม จะต้องเปิดเผยเอกสารหลักฐาน คำสั่งเลื่อนยศนายทหารว่า มีการดำเนินการตามที่กำหนดในกฎหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า กรมเสมียนตรา สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวแก่ประชาชนได้

ทั้งนี้ The Enlightener News  เคยรวบรวมประวัติการรับราชการของ ร.อ.ธรรมนัส ไว้ โดยมีรายละเอียดดังนี้

พ.ศ.2525 เข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 25 เหล่าทหารบก (เลขประจำตัว 12339)

พ.ศ.2532 สำเร็จการศึกษาโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 36 ก่อนเข้ารับราชการเป็นว่าที่ ร.ต. ในตำแหน่งรอง ผบ. หมวด กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์

พ.ศ.2534 ถูกปลดออกจากราชการรอบแรก มาเป็นทหารกองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด เนื่องจากขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ขณะนั้น พล.อ.วันชัย เรืองตระกูล เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

พ.ศ.2535 ขอกลับเข้ารับราชการใหม่เป็นทหารเรือ กรมกำลังพลทหารเรือ ขณะนั้น พล.อ.บรรจบ บุนนาค เป็น รมว.กลาโหม แล้วขอเปลี่ยนเหล่าไปสังกัดทหารบก

พ.ศ.2536 ถูกปลดออกจากราชการรอบสอง ฐานหนีราชการในเวลาประจำการ ขณะนั้น พล.อ.อ.สุวิช จันทรประดิษฐ์ เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ได้รับคำสั่งจาก พล.อ.วิจิตร สุขมาก รมว.กลาโหม

1 ตุลาคม พ.ศ.2536 มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถอดยศทหาร (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 26 ตุลาคม พ.ศ.2536) ความว่า “มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอด ร.ท.ยุทธภูมิ โบพรหม สังกัดกองทัพบก ซึ่งได้กระทำความผิดฐานหนีราชการทหารในเวลาประจำการ ออกเสียจากยศ ตั้งแต่ 18 มีนาคม พ.ศ.2536” โดยมี ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พ.ศ.2539 มีการออกพระราชบัญญัติล้างมลทิน จึงทำเรื่องขอกลับเข้ารับราชการ

7 กรกฎาคม พ.ศ.2540 ผ่านการตรวจสอบและรับรองความประพฤติ

13 ตุลาคม พ.ศ.2540 พล.อ.ธีรรัตน์ พุทธานานนท์ เจ้ากรมเสมียนตรา ทำหนังสือแย้งว่าการขอเข้ารับราชการใหม่ ต้องทำเรื่องขอพระราชทานยศคืนก่อน เพราะ มนัส ถูกถอดยศ โดย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนามอนุมัติรับคำสั่ง รมว.กลาโหม ให้บรรจุ พร้อมลงนามในหนังสือถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) ขอให้นำความกราบบังคมทูลฯ ขอพระราชทานยศกลับคืน

18 ธันวาคม พ.ศ.2540 มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานยศทหารกลับคืน (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 26 ธ.ค. 2540) ความว่า “มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ พชร พรหมเผ่า กลับคืนยศทหารเป็น "ร้อยโท" ตามที่เคยได้รับพระราชทานอยู่แต่ก่อนตั้งแต่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2540 เป็นต้นไป” โดยมี ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พ.ศ.2541 ขอกลับเข้ารับราชการใหม่ ตำแหน่งทหารสื่อข่าว หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.) บก.สส. โดย พล.อ.สุนทร ฉายเหมือนวงศ์ ผบ.นทพ. และ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฏฐ์ ผบ.สส. ขออนุมัติผ่านสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่ง พล.อ.วัฒนชัย วุฒิศิริ รมช. กลาโหม ได้ลงนามอนุมัติเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ.2541

1 มิถุนายน พ.ศ.2541 มีคำสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่อง เลื่อนยศนายทหารสัญญาบัตร โดย ร.ท.พชร พรหมเผ่า ได้รับเลื่อนยศเป็น "ร้อยเอก" ลงนามโดย พล.อ.วัฒนชัย วุฒิศิริ รมช.กลาโหม

24 ตุลาคม พ.ศ.2541 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศทหาร (ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2541) ความว่า “พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศ ร.ท.พชร พรหมเผ่า สังกัด บก.สส. ออกเสียจากยศ ตั้งแต่ 9 กันยายน พ.ศ.2541 เนื่องจากประพฤติตนไม่สมควรตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476” โดยมี ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2542 ได้เริ่มทำงานการเมืองควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ ด้วยการทำฐานเสียง กทม. ให้กับพรรคไทยรักไทย

พ.ศ.2550 มีการออกพระราชบัญญัติล้างมลทิน

พ.ศ.2557 เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งหนนั้นเป็นโมฆะ

จนท้ายที่สุด ในปี พ.ศ.2562 ได้เป็นประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ ของพรรคพลังประชารัฐ และได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. รวมทั้งได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net