Skip to main content
sharethis

'สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ' ส.ส.ภูมิใจไทย กมธ.รับฟังความเห็นนักศึกษา เผยประชุมนัดแรก 31 ก.ค. 2563 นี้ เตรียมลงพื้นที่ติดตามการชุมนุม ระบุพร้อมช่วยนักศึกษากรณีถูกดำเนินคดี ส่วนตัวสนับสนุนแก้ รธน.เรื่องที่มานายก 'พิธา' ยืนยันไม่มีพรรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังนักศึกษา


สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ของสภาผู้แทนราษฎร | ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย

26 ก.ค. 2563 นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ของสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ โดยย้ำว่ากรรมาธิการจะทำงานเชิงรุกและรวดเร็วที่สุด ซึ่งจะลงพื้นที่ต่างๆที่มีการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลกำหนดการเวทีการชุมนุมไว้แล้ว  ทั้งนี้ยืนยันว่า กรรมาธิการฯพร้อมจะช่วยเหลือนักศึกษา โดยเฉพาะบางกรณีที่มีการดำเนินคดี โดยจะไปติดตามดูว่าการดำเนินคดีเป็นธรรมหรือไม่ และกรรมาธิการต้องการให้กล่มผู้ชุมนุมรับรู้ว่าประเทศไทยสามารถมีความเห็นต่างได้ และแสดงออกได้ภายใต้กฎหมายเดียวกันนี้

นายสิรพงศ์ กล่าวว่าสำหรับข้อมูลที่กรรมาธิการจะได้จากการลงพื้นที่นั้น  มี 3 แนวทางในการดำเนินการ คือจะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับชมถึงการปฏิบัติงานของคณะกรรมาธิการว่ากรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นอย่างไร ได้รับการต้อนรับอย่างไร จากนั้นจะจัดทำรายงานข้อเสนอเพื่อส่งไปยังกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ว่าต้องรับผิดชอบในประเด็นใดบ้าง  เช่น จะเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขให้เข้าไปดูแลเรื่องสุขอนามัยให้กับนักเรียนนักศึกษา หรือประสานไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยมากกว่าการเข้าไปคุมพื้นที่ 

ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษาที่ให้มีการยุบสภา นายสิริพงศ์ กล่าวว่าในการอภิปรายของสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องการยุบสภา แต่ที่กังวลคือแม้ยุบสภาไปแล้ว แต่ยังคงใช้กติกาเดิม ฉะนั้นเรื่องที่กรรมาธิการจะคุยและสอดคล้องกับประเด็นที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใต้กรอบกฎหมาย ส่วนตัวเห็นว่าอาจมีการแก้ไขเรื่องที่มาของนายกรัฐมนตรีว่าควรมี ส.ว.เข้ามามีส่วนในกระบวนการเลือกหรือไม่

'พิธา' ยืนยันไม่มีพรรรคการเมืองอยู่เบื้องนักศึกษา

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำผู้สมัครลงชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมุทรปราการเขต 5 นายอิศราวุธ ณ น่าน  ลงหาพื่นที่หาเสียงตลาดคลองด่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส.พรรค เพื่อรับฟังความคิด

นายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรณีที่พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ระบุการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาเป็นทฤฎีสมรู้รวมคิด เเละมีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลังว่า ไม่เป็นความจริง และเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ที่มีอำนาจจะกล่าวหาว่ามีผู้สมรู้ร่วมคิด หรือ “ม็อบมุ้งมิ้ง ม็อบฟันน้ำนมด้อยค่า” ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นสิทธิทางรัฐธรรมนูญ และนักศึกษาออกมาพูดชัดเจนว่าอนาคตถูกขโมยไป และการที่ ผบ.ทบ.ออกมาระบุว่าเด็ก ๆ ควรเรียนหนังสือ เลี้ยงดูพ่อแม่ ก็เห็นว่า หากทหารยังพูดเรื่องการเมืองได้ เยาวชนก็สามารถพูดเรื่องการเมืองได้เช่นกัน ไม่ควรเอาคำพูดบางคำมาด้อยค่าเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของประเทศ และหากจะรับฟังความมเห็นของนิสิตนักศึกษา ก็ต้องรับฟังจริงๆ ไม่ใช่แค่ทำท่าว่าจะรับฟังเท่านั้น

นายพิธา ยังกล่าวถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้อง นายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ว่า ตนไม่สามารถก้าวล่วงศาลได้ แต่สามารถสะท้อนถึงความเป็นอภิสิทธิ์ชน เมื่อเทียบกับคดีอื่นก็เห็นว่ามีหลายกรณีขับรถชนผู้เสียชีวิตแล้วมีการรับผิดชอบเยียวยา หรือติดคุกหลายปี แต่คนที่ใช้เทคนิคทางกระบวนการเพื่อยืดเวลาให้หมดอายุ ความสังคมต้องจับตาดู ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นถึงความยุติธรรมในประเทศ

โดยในส่วนของพรรคก้าวไกล พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะที่เคยเป็นตำรวจพิสูจน์หลักฐานและเป็นผู้ติดตามคดีนี้ กำลังดำเนินการร่วมกับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะกรรมาธิการกฎหมาย จะนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาพิจารณาเพื่อปฏิรูปตำรวจต่อไป

หัวหน้าพรรคกล้าวไกล ยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ในวันนี้ว่า ประชาชนได้สะท้อนปัญหาความเดือดร้อน ทั้งเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ปัญหาน้ำเสียงจากโรงงานอุตสาหกรรมส่งผลกระทบต่อสินค้าประมง ผู้สูงอายุไม่ได้รับเงินเยียวยา การผลักดันประกันสังคมในกลุ่มรถจักรยานยนต์รวมไปถึงการถูกไล่ที่ค้าขาย ซึ่งต้องเร่งพิจารณาเป็นพิเศษเนื่องจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจจากโควิด-19 โดยจะนำเรื่องเหล่านี้เข้าสู่กรรมาธิการ ในสภา

ที่มาเรียบเรียงจาก: สำนักข่าวไทย [1] [2] 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net