Skip to main content
sharethis

'ศุ บุญเลี้ยง' แต่งเพลง 'เปิดกรง' ขอผู้มีอำนาจหยุดกักขังผู้เห็นต่าง “เปิดกรงเสียเถิด เปิดใจเสียก่อน ปล่อยนกได้ร้องบรรเลงสู่เสรี” - 'พระพยอม' ขอบิณฑบาตชีวิต 'เพนกวิน-รุ้ง' เลิกอดอาหารให้มีชีวิตอยู่เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงเมื่อฟ้าหลังฝน

เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่าเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2564 'ศุ บุญเลี้ยง' (หรือจุ้ย) นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง อดีตหนึ่งในนักร้องนำวงเฉลียง และเจ้าของค่ายเพลง บริษัท กะทิ กะลา จำกัด ปล่อยบทเพลง ‘เปิดกรง’ เพื่อส่งเสียงสะท้อนสถานการณ์การบ้านการเมือง ในภาวะที่แกนนำกลุ่มราษฎรหลายราย ต้องทยอยถูกจองจำ จากคดีชุมนุมและปราศรัยทางการเมืองต่าง ๆ อีกทั้งหลายคน ก็ไม่ได้รับการประกันตัวเพื่อออกมาสู้คดี

“เปิดกรงเสียเถิด เปิดใจเสียก่อน ปล่อยให้นกได้ร้องบรรเลงโบยบินสู่เสรี อย่าหยุดยั้งสายลมพัดพา อย่าเหนี่ยวรั้งสายธารเวลา เปิดกำแพงและม่านบังตา หันมาคุยกัน และ “อย่าชังแสงดาว อย่ากลัวแสงแดด ปล่อยให้รุ้งกระจายตัวงามที่ริมขอบฟ้า อย่าหยุดยั้งสายลมพัดพา อย่าเหนี่ยวรั้งสายธารเวลา เปิดกำแพงและม่านบังตา ท้องฟ้างดงาม” คือเนื้องเพลงช่วงหนึ่ง ที่จุ้ย ได้ประพันธ์และขับร้องไว้ โดย ศุ บุญเลี้ยง ยังอธิบายแรงบันดาลใจเพิ่มเติมผ่านทางเฟซบุ๊กของเขา ระบุว่า

“…ในภาวะที่แสนจะวิกฤติทั้งไวรัสและไวรัฐ ส่งผลให้สถานการณ์ทางจิตตกต่ำ การอยู่เฉยๆอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้า จึงคิดอยากจะทำอะไรเท่าที่พอจะทำได้ เพื่อให้ชีวิตได้ปลดปล่อยความคิดและอารมณ์ออกมาบ้าง

บอกตามตรงว่าแม้ตัวเองอยู่ได้อย่างไม่ต้องดิ้นรน แต่ก็เป็นห่วงเป็นใยคนผู้ลำบากลำบนกับภาวะชีวิตซึ่งจำต้องกระเสือกกระสนเพื่อดำรงอยู่ ทั้งฝืนทนให้ผ่านพ้นไปทีละเปลาะ และที่หนักหนาสาหัสยิ่งย่อมคือคนซึ่งต้องติดคุกติดตะราง ไม่ว่าจะคิดเหมือนหรือคิดต่าง เห็นด้วยหรือไม่กับพฤติกรรมของพวกเขา ยามได้รับรู้ว่าเขาอดอาหารด้วยแล้วยิ่งแสนจะรันทดหดหู่ใจไปด้วย

บนสังคมที่ความขัดแย้งเกลียดชังบานปลายให้หวั่นวิตก ในฐานะมนุษย์ฉันถูกปลุกให้อยากลุกขึ้นมาทำอะไรบ้าง แม้ในใจปรารถนาพยายามจะเพ่งมองให้เห็นว่าความขัดแย้งนั้น บางครั้งอาจนำไปสู่ความงอกงามได้ หากแม้นไม่มองเห็นให้เพียงเป็นศัตรูผู้ต้องเข่นฆ่าทำลายกัน

บทเพลง ‘เปิดกรง’ ทำหน้าที่เพื่อเยียวยาจิตใจ มันเริ่มต้นด้วยการเยียวยาจิตใจของตัวฉันเอง ทั้งอยากส่งความปรารถนาดี ไปยังสู่สังคม เท่าที่บทเพลงสั้นๆเพลงหนึ่งจะทำหน้าที่ได้

ยังหวังอีกว่าต่อไปจะไม่มีใครถูกกักขังทั้งร่างกายและความคิด
เพียงเพราะเขาคิดต่างไปจากเรา….”

'พระพยอม' ขอบิณฑบาตชีวิต 'เพนกวิน-รุ้ง' เลิกอดอาหาร

เว็บไซต์ Voice online รายงานว่าพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี ได้ให้สัมภาษณ์ขณะบันทึกรายการ “กัลยาโณโอเค” ถึงกรณีการอดอาหารของ พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง เพื่อประท้วงต่อระบบยุติธรรมไทย ที่ยังไม่ให้สิทธิ์ในการประกันตัวออกมาสู้คดีที่ถูกกล่าวหาว่าผิดมาตรา 112 ว่า 

“อาตมาขอบิณฑบาตชีวิตคุณเพนกวิ้นและรุ้ง เลิกอดอาหาร เพื่อมีชีวิตไว้ดูการเปลี่ยนแปลง เมื่อฟ้าหลังฝน”

พระพยอม กล่าวว่า “ถ้าเกิดเสียชีวิตไปเสียตอนนี้ ถึงแม้ว่าคุณแม่ของเพนกวินเอง จะเห็นด้วยในอุดมการณ์ของลูก แต่เชื่อว่าหัวใจของคนเป็นแม่นั้น ลึกๆ แล้ว คงไม่อยากให้ลูกจากไปตอนนี้แน่นอน”

เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว มองว่าที่ผ่านมาการอดอาหารประท้วงของเพนกวินและรุ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีเพนกวินที่อดอาหารต่อเนื่องยาวเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้วนั้น ถึงวันนี้นับว่าไม่ได้เสียเปล่า การเลิกอดอาหารก็ไม่ได้เสียอุดมการณ์ เพราะได้สะท้อนให้เห็นปัญหาของระบบยุติธรรมไทยได้มากแล้ว จึงไม่อยากให้คิดแต่เรื่องสู้ๆ เท่านั้น แต่อยากให้มองเรื่องสร้างๆ ด้วย ควรจะสู้ไปสร้างไป โดยจะขอบิณฑบาตชีวิต ขอให้ทั้งสองคนกลับมากินอาหารเพื่อให้สมองสามารถคิดอ่านและสู้ไปสร้างไป อยากให้ทั้งสองคนมีชีวิตอยู่ เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

พระพยอมย้ำว่า “สมมติถึงคุณจะตายไป อาตมาเชื่อว่า กระบวนการยุติธรรมของไทย ก็คงจะไม่ได้รุ่งโรจน์โชติช่วง เพราะกระบวนการยุติธรรมก็ยังมีกิเลส ยังมีอะไรที่เขาก็กลัวๆ อะไรของเขา.. เพราะฉะนั้นก็ต้องถนอมชีวิตไว้ ทั้งเพนกวินและรุ้ง ต้องมีชีวิตอยู่ เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นด้วยตัวเอง”

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net