วานนี้ (19 ธ.ค.) ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา รายงานสถานการณ์ชายแดนเมื่อ 19 ธ.ค. ยังคงมีการสู้รบระหว่างทหารพม่า-KNLA ทางใต้ จ.เมียวดี และมีกระสุนไม่ทราบฝ่ายตกลงฝั่งไทย 7 นัด ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บ ชาวพม่านับร้อยต้องหนีมาฝั่งไทย
ภาพชาวบ้านอพยพข้ามแม่น้ำมาฝั่งไทย หลังมีเสียงปืนยิงปะทะกันในเขตเลเก๊ะก่อ และผะลู ทางใต้ จ.เมียวดี (จาก Karen Information Center - KIC)
20 ธ.ค. 64 ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก รายงานสถานการณ์ชายแดน พื้นที่จังหวัดตาก ประจำวันที่ 19 ธ.ค. 64 เวลา 18.00 น. กองทัพพม่ายังคงสู้รบกับกองกำลังปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNLA บริเวณบ้านแม่ทอดตะเล ทางทิศใต้ของจังหวัดเมียวดี ห่างจากแนวชายแดน ลึกเข้าไปในประเทศพม่า ราว 500 เมตร
ผลจากการปะทะดังกล่าว ส่งผลให้มีกระสุนไม่ทราบชนิด/ไม่ทราบฝ่าย ตกลงบริเวณริมแม่น้ำเมย ฝั่งไทย จำนวน 7 นัด ไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชนไทยในพื้นที่ ทำให้กองกำลังนเรศวร สั่งการให้กำลังเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 ยิงกระสุนควันเตือน จำนวน 5 นัด ตามห้วงเวลาที่กระสุนไม่ทราบชนิด/ไม่ทราบฝ่ายตกมายังฝั่งไทย เพื่อเป็นการแจ้งเตือนทั้ง 2 ฝั่งว่ามีกระสุนตกมายังฝั่งไทย พร้อมกันนี้มีการประท้วงไปยังรัฐบาลเมียนมา ผ่านช่องทางกรรมการชายแดนระดับท้องถิ่นไทย-เมียนมา (TBC) จากกรณีที่มีกระสุนไม่ทราบฝ่าย/ชนิด ตกลงบริเวณริมแม่น้ำเมย ฝั่งไทย ให้ฝ่ายเมียนมาระวังการใช้อาวุธ และฝั่งไทยเตรียมตอบโต้ หากมีกระสุนตกฝั่งไทย
จนกระทั่งเวลา 18.00 น. การสู้รบจึงยุติลง
สำหรับการช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบในเมียนมาในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ศูนย์สั่งการชายแดนฯ รายงานว่ามีประชาชนชาวเมียนมาแจ้งความประสงค์ต้องการเดินทางกลับประเทศบ้านเกิดราว 334 คน เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สิน และคลายความกังวลในสถานการณ์ อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติ ทำให้ขณะนี้มีผู้หนีภัยเหลืออยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2,106 คน
ทั้งนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนฯ รายงานด้วยว่า ทางการไทยยังคงให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยฯ ตามหลักมนุษยธรรม และมีการอำนวยความสะดวกด้านยานพาหนะ ในการเคลื่อนย้ายผู้หนีภัยฯ ที่มีความประสงค์เดินทางกลับเมียนมาโดยสมัครใจ จากพื้นที่ปลอดภัย รร.บ.แม่ตาวกลาง ต.แม่ตาวฯ ไปยังชายแดนไทย-เมียนมา ไปยังริมแม่น้ำเมย บ้านดอนไชย ต.แม่ตาวฯ
อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ส ระบุตัวเลขผู้ลี้ภัย/ผู้หนีภัยกลับประเทศพม่า จำนวน 623 คน ซึ่งต่างจากที่สื่อรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการ ฮิวแมน ไรช์ส วอต์ช ประจำภูมิภาคเอเชีย เรียกร้องให้ไทย ไม่เร่งผู้ลี้ภัยกลับไปประเทศเมียนมา
โรเบิร์ตสัน กล่าวด้วยว่า ทุกคนทราบว่า กองทัพพม่าตั้งใจพุ่งเป้าโจมตีพลเรือนด้วยความรุนแรง นี่จึงไม่ใช่เรื่องเกินไปที่จะบอกว่า ผู้ลี้ภัยกำลังหลบหนีเพื่อรักษาชีวิต
623 sent back by #Thailand yesterday, as shelling continues. "Everyone knows #Myanmar military deliberately targets civilians with deadly force when it goes into the field so it's no exaggeration to say these refugees are literally fleeing for their lives" https://t.co/DOjHx1jSBN pic.twitter.com/CU5GP2ptAA
— Phil Robertson (@Reaproy) December 20, 2021
ด้านสำนักข่าวชายขอบ รายงานเมื่อ 19 ธ.ค. ด้วยว่า การปะทะระหว่างทหารพม่ากับ KNLA เมื่อ 19 ธ.ค. ทำให้มีชาวบ้านอีกนับพันต้องหลบหนีออกจากชุมชนและเตรียมหลบหนีข้ามมายังฝั่งไทย ขณะเดียวกัน คาดว่าการสู้รบยังคงจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะทหารพม่าต้องการควบคุมพื้นที่เมืองเมียวดีให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ และอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจจีนมาลงทุน โดยล่าสุดมีข่าวว่าทหารพม่าอาจใช้เครื่องบินรบโจมตีทางอากาศเช่นเดียวกับการโจมตีค่ายเดปูโหน่ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ KNLA กองพล 5
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก ‘บีบีซี ภาษาพม่า’ (BBC Burmese) และ Karen Information Center หรือ KIC รายงานเมื่อ 19 ธ.ค. 64 เวลาประมาณ 18.00 น. พร้อมเผยภาพ สืบเนื่องจากการสู้รบในเขตพื้นที่เลเก๊ะก่อ และผะลู ทางใต้ของจังหวัดเมียวดี ส่งผลให้ประชาชนเมียนมานับร้อยหนีภัยสงครามข้ามแม่น้ำมาฝั่งไทย
หมายเหตุ มีการปรับวิธีเขียนเขต เลเกก่อ และผลู เป็น 'เลเก๊ะก่อ' และ 'ผะลู' เพื่อให้ตรงกับเสียงภาษาพม่า
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)