Skip to main content
sharethis

---------
แปลจาก POLITICS: China's Virulent Anti-Japan Protests Worry Businessmen
By Suvendrini Kakuchi

โตเกียว (ไอพีเอส) ผลประโยชน์ร่วมทางเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นและจีนเกิดขึ้นเมื่ออยู่ในภาวะสันติ แต่สันติภาพนั้นเยือกหนาวยิ่งกว่าการโอบกอด เมื่อผู้คนหลายพันเดินออกมาบนถนนในมหานครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเดินขบวนต่อต้านญี่ปุ่น หลังจากยืดเยื้อมาหลายสัปดาห์แล้ว

ชาวจีนระบายความไม่พอใจต่อประเทศญี่ปุ่น ค่าที่ไม่ยอมแก้ไขชดเชยความโหดร้ายในอดีตระหว่างที่เข้ามายึดจีนเป็นอาณานิคม

"ความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นและจีนกลายเป็นปัญหาอย่างยิ่ง" โทมิชิ ชิโมยามา,ผู้ทำธุรกิจขายกระเป๋าถือและเสื้อผ้าจากประเทศจีนมาถึง 18 ปี,กล่าวกับไอพีเอส.

"สถานการณ์กำลังกดดันและเป็นอันตรายต่ออนาคตของผม" ชิโมยามากล่าว โดยพาดพิงถึงความ รู้สึกต่อต้านญี่ปุ่นในประเทศจีนที่ไม่อาจควบคุม ทั้งนี้หลังจากโตเกียวเผยแพร่ตำราเรียนเล่มใหม่เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งในนั้นลบล้างข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนโยบายอันเลวร้ายยุคอาณานิคมที่กระทำในเอเชียตะวันออกโดยกองทัพของพระจักรพรรดิญี่ปุ่น

"ผลประโยชน์ทางธุรกิจในประเทศจีนของผมกำลังอยู่ในช่วงได้เสีย ผมได้ร้องขอต่อนักการเมืองญี่ปุ่นให้หาทางยับยั้งการต่อต้านที่เกิดขึ้น" เขากล่าว

เมื่อวันเสาร์(ที่ 16) ผู้ประท้วงพากันตะโกนสโลแกนต่อต้านญี่ปุ่น และนำธงชาติจีนไปโบกรอบๆสถานกงสุลญี่ปุ่นประจำเซี่ยงไฮ้ นอกจากนี้ยังขว้างปาก้อนหินและสิ่งของเข้าไป รวมทั้งทุบทำลายภัตตาคารญี่ปุ่นหลายแห่งที่ตั้งอยู่ใกล้กันนั้น

หนึ่งในประเด็นที่สร้างความไม่พอใจได้แก่ข้อความในตำราเรียนที่ระบุถึงการสังหารหมู่ของกองทัพญี่ปุ่นในนานกิงว่า "เป็นอุบัติเหตุ" ทั้งที่ครั้งนั้นชาวจีนกว่า 300,000 คนถูกสังหารในระหว่างเดือนธันวาคม 1937-มีนาคม 1938 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่

ฮิโรชิ โอกุดะ,ประธานสหพันธ์ธุรกิจแห่งญี่ปุ่น กล่าวเตือนในแถลงการณ์ว่า บริษัทญี่ปุ่นที่อยู่ในประเทศจีนจะได้รับผลกระทบจากการต่อต้านญี่ปุ่นในครั้งนี้

นายโอกุดะกล่าวว่า "ปัญหาทางการเมืองไม่อาจแก้ไขได้ในทันที" และว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้นำของประเทศทั้งสองจะต้องเจรจากันให้มีความคืบหน้า

เพื่อผ่อนคลายสถานการณ์,นายโนบุทากะ มาชิมูระ-รมว.ต่างประเทศของญี่ปุ่นมีกำหนดจะเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งเพื่อการเจรจาในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

"ผมอยากให้ชาวจีนตระหนักและเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นและจีนว่าจะได้รับผลกระทบในทางลบจากการประท้วง" มาชิมูระแถลงต่อผู้สื่อข่าว

ที่นิวยอร์ค,นายโคฟี่ อันนัน-เลขาธิการสหประชาชาติ,เรียกร้องให้ประเทศทั้งสองประนีประนอมกัน

"ผมหวังว่าประเด็นนี้จะได้รับการแก้ไขไม่ให้ลุกลาม ผมวางใจในปัญญาของประเทศทั้งสองว่าจะสามารถหาทางออกได้" เขากล่าว

นักวิเคราะห์ชี้ว่าความกลัดกลุ้มของชิโมยามาและคำเตือนของโอกูดะสะท้อนให้เห็นทัศนะที่ขัดแย้งกันระหว่างนักธุรกิจและนักการเมืองในญี่ปุ่นในความตึงเครียดระหว่างจีน-ญี่ปุ่นที่เกิดขึ้น

"ตรงข้ามกับนักการเมือง,นักธุรกิจต้องการดำรงมิตรภาพและความสัมพันธ์กับจีนไว้แทนที่สหรัฐฯในฐานะเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น" ไดสุเกะ ฮิราสตูกะ-ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือแห่งสถาบันพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองของรัฐบาล,กล่าว

ปริมาณการค้าระหว่างจีน-ญี่ปุ่นในปี 2004 ตกราว 167.9 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 25.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น

ในปีเดียวกัน,จีนส่งสินค้าออกมายังญี่ปุ่น 73.5 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 23.7% ขณะการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นยืนอยู่ที่ 94.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นปีละ 27.3%

ฮิราสตูกะกล่าวกับไอพีเอสว่า เศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือต่างพึ่งพิงและร่วมผล
ประโยชน์กัน ควรที่ผู้นำทั้งสองประเทศจะใช้สิ่งนี้มาผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างกัน

"ฝ่ายทั้งสองควรตระหนักว่าความขัดแย้งกันจะทำลายผลประโยชน์ทางธุรกิจในระยะยาว เทค
โนโลยีของญี่ปุ่นและการลงทุนในจีนทำให้จีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่นักธุรกิจญี่ปุ่นเองก็ต้องการผลกำไรด้วยเหมือนกัน" เขากล่าว

"เห็นได้ชัดว่ายังมีช่องว่างแห่งความเข้าใจกันอยู่" ฮิราสตูกะกล่าว และว่านายจูนิชิโร โคอิซูมิยังเดินทางไปเคารพสุสานยาสุคูนิทุกปี ณะที่อาชญากรในสงครามช่วงนั้นตายไปแล้ว แต่สำหรับชาวจีน,การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการเปิดบาดแผลทางประวัติศาสตร์

ในทางกลับกัน,คนจีนกล่าวว่า ญี่ปุ่นไม่มีคุณสมบัติทางศีลธรรมพอที่จะก้าวขึ้นเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงความตกต่ำขององค์กรโลกแห่งนี้

"มีเพียงประเทศที่เคารพประวัติศาสตร์,รับผิดชอบอดีต และสามารถเอาชนะใจผู้คนในเอเชียและโลกเท่านั้นจึงสมควรจะเข้าไปรับผิดชอบประชาคมระหว่างประเทศได้" นายเหวิน เจียเป่า-นายก รัฐมนตรีจีนแถลงที่นิวเดลีเมื่อต้นสัปดาห์

หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการณ์ตึงเครียดนับแต่เปิดความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นและจีนเมื่อปี 1972 คืออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น

กรู๊ปทัวร์จากประเทศจีนจำนวนมากบอกยกเลิกการจอง บริษัทญี่ปุ่นอีกหลายแห่งไม่สามารถจัดทัวร์ไปยังประเทศจีนได้ในเดือนพฤษภาคม อันเป็นสัปดาห์ทองของกรู๊ปทัวร์ทั้งหลาย

สุเว็นดรินี คากูชิ -ไอพีเอส

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net