Skip to main content
sharethis

ประชาไท—25  ก.ค.  48                 "พ.ร.ก.บริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ประกาศได้แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับกติการะหว่างประเทศ  โดยเฉพาะต้องเคารพสิทธิทางความคิด  มโนธรรมศาสนา  จะบังคับให้เสื่อมเสียสิทธิ์ใดๆ ไม่ได้"    นางสาวพรเพ็ญ  คงขจรเกียรติ  คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน  กล่าวหลังเดินทางกลับจากการเข้าร่วมชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ( ICCPR)  ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์


 


นางสาวพรเพ็ญ  สะท้อนข้อห่วงใยที่คณะกรรมการสิทธิฯ ยูเอ็น ต่อเนื้อหาของพ.ร.ก.ฉุกเฉิน  โดยทางยูเอ็นกลัวว่าจะละเมิดสิทธิมนุษยชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศ 


 


ทั้งนี้ ยูเอ็นตั้งคำถามว่า  มีความจำเป็นมากน้อยเพียงใดที่ประเทศไทยต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน  ซึ่งเป็นการทำให้คณะกรรมการสิทธิฯ ยูเอ็นไม่ไว้วางใจว่า กลไกต่างๆ ตาม พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวจะตอบสนอง ยุติ  หรือคุ้มครองคนไทยได้อย่างไร  โดยเฉพาะถ้าหากภาวะฉุกเฉินมีการทรมานโดยตำรวจ  เจ้าหน้าที่รัฐ  เพราะยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะได้รับโทษอย่างไร  ความเสี่ยงของคนเหล่านี้จะมีมากน้อยเพียงใด


 


อย่างไรก็ดี  นางสาวพรเพ็ญ  กล่าวต่อว่า  ทางยูเอ็นเสนอให้ประเทศไทยดูกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองด้วย  ซึ่งอาจใช้มาตรการที่เรียกว่าพันธะกรณีเท่าที่จำเป็นของเหตุการณ์  เช่นในพื้นที่หากมุสลิมร่วมละหมาด  รัฐก็อาจมองว่าเป็นการรวมกลุ่มได้  ซึ่งสิทธิทางศาสนาตรงนี้ต้องได้รับการคุ้มครอง


 


นอกจากนี้  ยูเอ็นยังถามเรื่องกฎอัยการศึก  เนื่องจากประเทศไทยมีการประกาศใช้  แต่ยังไม่ได้แจ้งให้ทางยูเอ็นทราบ ซึ่งในเรื่องนี้รัฐบาลไทยยังไม่มีคำตอบให้ยูเอ็น


 


"เวทีการชี้แจงที่ยูเอ็นจบแล้ว  แต่ได้กำหนดให้รัฐภาคีหากประกาศภาวะฉุกเฉินต้องทำอย่างเป็นทางการและต้องทำหนังสือถึงเลขาธิการองค์การสหประชาชาติ  โดยต้องแจ้งรัฐภาคีทั้ง 154 ประเทศด้วย  ทั้งนี้ต้องแจ้งทั้งตอนประกาศภาวะฉุกเฉิน  ยุติ  และประกาศในพื้นที่ใหม่"  นางสาวพรเพ็ญ  กล่าว


 


"ขณะเดียวกัน  ทางคณะกรรมการสิทธิฯ ยังได้ให้รัฐบาลไทยส่งเอกสารแปลของ พ.ร.ก.ฉบับฉุกเฉินให้แก่ทางยูเอ็นอย่างเป็นทางการ  ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้น   ทางยูเอ็นต้องเรียกเอกสารการบังคับใช้กฎหมายของ พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวเป็นระยะๆ และอาจต้องให้ทางรัฐบาลไทยแจ้งผลการบังคับด้วย"  นางสาวพรเพ็ญ  กล่าวในที่สุด


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net