ประชาไท—11 ส.ค. 48      ฮูเปิดเผยข้อมูล  ในการประชุมการส่งเสริมสุขภาพโลกครั้งล่าสุดห่วงคนตายเร็วขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์  ชี้เหตุโลกเปลี่ยนไป  วิถีชีวิตเปลี่ยนแปลง ทำให้มีโรคเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้  จากการประชุมการส่งเสริมสุขภาพโลก  ครั้งที่ 6 ณ กรุงเทพฯ  ระหว่างวันที่ 7-11 ส.ค.ที่ผ่านมา  องค์การอนามัยโลก(WHO) เปิดเผยว่า  ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา  พบว่ามีปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสุขภาพเกิดขึ้นอย่างมากมาย  ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก  อาทิ  ความไม่เสมอภาคของประชาชนทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ  การสื่อสารและการบริโภคแบบตะวันตก  อิทธิพลจาการค้าข้ามชาติ  สภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม  การใช้ชีวิตแบบคนเมือง  รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางระบาดวิทยาของเชื้อโรคติดต่อ  เป็นต้น

นอกจากนี้  ปัญหาด้านสุขภาพ  ยังเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากร  เช่น  กลุ่มผู้สูงอายุซึ่งจะมีเพิ่มมากขึ้นทั่วโลกถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด รวมทั้งกลุ่มผู้หญิงและเด็ก ชนกลุ่มน้อย  ชุมชนชายขอบ  ตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่มีผลต่อวิถีการทำงาน  วิถีครอบครัว  สังคมและวัฒนธรรมของชุมชน

ขณะเดียวกัน  ล่าสุดมีแนวโน้มว่าประชากรโลกจะเสียชีวิตเร็วขึ้น  เนื่องจากวิถีชีวิตในสังคมโลกาภาวัฒน์  เช่น  ป่วยจากโรคอ้วน 300 ล้านคน  และเสียชีวิตจากการเป็นโรคอ้วนถึงปีละกว่า 5 แสนคน  เสียชีวิตเพราะการไม่ออกกำลังกายปีละเกือบ 2 ล้านคน  ทั้งยังมีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากโรคหัวใจ  เบาหวาน  มะเร็งเต้านม  มะเร็งลำไส้ใหญ่  โดยสาเหตุการป่วยด้วยโรคหัวใจของคนที่อายุเกิน 30 ปี  เกิดจากความดันโลหิตสูงถึงร้อยละ 50  คลอเลสเตอรอลสูงร้อยละ 31  และจากการสูบบุหรี่ร้อยละ 14 

ทั้งนี้  ผลกระทบจากระบบการค้าเสรี  ยังส่งผลให้ชาวอเมริกันบริโภคน้ำอัดลมมากในอันดับต้นๆ ของโลก โดยข้อมูลจากการประชุมครั้งนี้  ระบุว่า  ชาวอเมริกันดื่มน้ำอัดลมถึงคนละ 53 แกลลอนต่อปี   

อย่างไรก็ตาม  จากปัจจัยและปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลกดังกล่าว   ทาง WHO จึงต้องขอความร่วมมือจากทุกประเทศทั่วโลกอย่างจริงจัง ในการร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาต่อไป