ประชาไท-30 ส.ค. 48       "ครม." อนุมัติ สร้าง "ฝายแม้ว" ตามแนวพระราชดำริ "โครงการ 80 พรรษา 80 พันฝาย" เพื่อ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเฉลิมฉลองปีมหามงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ใน พ.ศ. 2550

นายดนุพร ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้(30 ส.ค.) ว่า มีมติให้ ดำเนินโครงการฝายต้นน้ำลำธาร หรือ ฝายแม้ว ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จำนวน  240,000 ฝาย ใน 17 ลุ่มน้ำหลัก ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 301,328,705 ไร่ หรือราว  62 จังหวัด

ทั้งนี้ การสร้างฝายดังกล่าว จะมีระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่ พ.ศ. 2549-2551 โดยจะสร้างฝายแม้ว จำนวน 80,000 ฝาย ต่อปี  นอกจากนี้ ครม. ยังอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยทำงานร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ทาง ครม.มีความหวั่นเกรงว่าในพื้นที่ห่างไกล อาจตรวจสอบจำนวนฝายที่สร้างได้ยาก และอาจมีการสร้างซ้ำซ้อนพื้นที่ที่เคยสร้างมาแล้ว ทางครม.จึงระบุให้ ทางกระทรวงทรัพยากรฯ นำ เทคโนโลยี GPS มาตรวจสอบการดำเนินการด้วย ส่วนด้านงบประมาณการก่อสร้าง ให้นำงบประมาณจังหวัดแบบบูรณาการ ส่วนราชการและการปกครองส่วนท้องถิ่น และเงินบริจาคภาคประชาชน วัสดุ หรือแรงงานอาสา มาใช้

ฝายแม้วเป็นแนวพระราชดำริในการพัฒนาและฟื้นฟูป่าไม้ การใช้ทรัพยากรที่เอื้ออำนวยสัมพันธ์ซึ่งกันและกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราชดำริให้สร้างฝายกั้นน้ำที่เรียก "ฝายชะลอความชื้น" หรือฝายแม้วขึ้น เพื่อกักเก็บ "น้ำ" อันเป็นตัวแปรสำคัญในการอนุรักษ์และฟื้นฟูพื้นที่ป่าอย่างได้ผล

จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ระบุใน รายการ "นายกทักษิณ พบประชาชน" เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 47 ว่า ฝายแม้วสามารถกักเก็บน้ำและทำให้ธรรมชาติมีความชื้นกลับคืนมาได้จริง  โดยยกฝายแม้วที่ หนองบัวลำภู เป็นตัวอย่าง จากนั้นจึงมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยทำการสำรวจฝายแม้วที่มีอยู่เดิม และให้รณรงค์สร้าง ฝายแม้วเพิ่มอีก 72,139 ใน พ.ศ. 2548 ที่ผ่านมา