Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 31 ส.ค.48      "แนวทางการแก้ไขการคอรัปชั่น ต้องให้ความรู้และข้อมูลแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดการตื่นตัว และประชาชนต้องสร้างวัฒนธรรมดี-ชั่วขึ้นมาอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่รู้ว่าชั่วแล้วก็ อ๋อเหรอ แล้วไง  เพราะวัฒนธรรมเป็นเรื่องสำคัญ" คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กล่าวในงานสัมมนา "คอรัปชั่นพันธุ์ใหม่ คนไทยต้องรู้ทัน" ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา


 


ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวถึงแนวทางแก้ไขในส่วนของนิติบัญญัติว่า ส.ส.และส.ว.ที่ถูกเลือกเข้าไปอยู่ในสภา อยู่ในสถานะสูงส่ง มีอำนาจในการผ่านหรือไม่ผ่านกฎหมายใดๆ ก็ได้ จึงต้องรู้จักตนเอง และประเมินตนเองอยู่ตลอดเวลา ขณะที่ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องจริงใจ และรักษาคำปฏิญาณในการเข้ารับตำแหน่งและคำสัญญาต่างๆ ที่ให้ไว้กับประชาชน


 


สำหรับกระบวนการคอรัปชั่นนั้น คุณหญิงจารุวรรณระบุว่า ขณะนี้ได้เกิด "วิถีช้างเผือก" ขึ้นมา โดยการใช้ "ระบบที่ปรึกษา" ซึ่งน่ากลัวมาก เพราะเข้ามาโดยเสมือนหนึ่งมีความรู้ความสามารถสูง มีความน่าเชื่อถือ เป็นช่องทางสร้างความชอบธรรมให้ผู้มีอำนาจอนุมัติโดยง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ "ระบบคณะกรรมการ" ซึ่งก็คือคนของผู้มีอำนาจที่สามารถควบคุมได้ ประกอบกับความพยายามให้องค์กรตรวจสอบอ่อนแอ และทำงานได้น้อยที่สุด


 


ในส่วนลักษณะของการคอรัปชั่นสายพันธุ์ใหม่นั้น คุณหญิงจารุวรรณ แบ่งเป็นโครงการขนาดเล็กและโครงการขนาดใหญ่ โดยระบุว่าโครงการขนาดเล็กนั้น ส่วนใหญ่เป็นเพราะกฎหมายมีช่องว่าง หรือมีการยกเว้นให้ ขณะที่ผู้ตรวจสอบภายในซึ่งควรมีบทบาทสูงกลับไม่กล้าตรวจสอบ เพราะการให้คุณให้โทษไปขึ้นอยู่กับผู้บริหาร จะอาศัยการตรวจสอบของ สตง.ก็ไม่ทันการณ์


 


ส่วนสาเหตุของการคอรัปชั่นในโครงการใหญ่นั้น ผู้ว่าสตง.กล่าวว่า ประการแรก ผู้บริหารละเลยต่อความรับผิดชอบ  เพราะกลัวต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะข้าราชการที่ไม่กล้าขัดแย้งระดับบน และตกอยู่ในสภาวะจำยอม กับอีกส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน


 


นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศทำสงครามกับการคอรัปชั่น เหมือนที่ทุกๆ รัฐบาลทำ แต่ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา นายกฯ เคยพูดที่ศูนย์ไบเทคเมื่อรับตำแหน่งใหม่ๆ ว่า ใครไม่ร่วมสงครามคอร์รัปชั่นถือว่าทรยศต่อชาติ ถึงตอนนี้ต้องพูดว่าคนที่ทรยศคือนายกฯ ทักษิณและรัฐบาลเอง ขณะเดียวกันผู้ที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับเรื่องนี้ก็ถูกฟ้องร้องดำเนิน


คดีกันมากมาย ไม่มีการคุ้มครองผู้ให้เบาะแส ปล่อยให้ต่อสู้กันตามยถากรรม


 


ทั้งนี้ นายวีระถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากการเปิดโปงการคอรัปชั่นต่างๆ 14 คดี ขณะที่น.ส.รสนา โตสิตระกูล โดนฟ้องร้อง 6 คดี และทุกคดีศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง


 


ด้านน.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า การคอรัปชั่นนั้นจะเกิดเมื่อคนมีอำนาจ ส่วนจะมากแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยคือ อำนาจผูกขาดความสามารถในการที่จะใช้ดุลยพินิจได้เต็มที่ และระบบการตรวจสอบ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่คุณหญิงจารุวรรณ ซึ่งอยู่ในหน่วยงานตรวจสอบที่สำคัญจึงถูกกลั่นแกล้งและกำจัดให้พ้นจากตำแหน่ง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net