15 ส.ค. 2549 นิตยสารรายสัปดาห์ "ดิ เอจ" รายงานว่า นายไครี จามาลุดดิน บุตรเขยวัย 31 ปี ของนายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี แห่งมาเลเซีย เปิดเผยว่า ได้ขายหุ้นทั้งหมด 10.2 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 1.23 ที่ถืออยู่ในวาณิชธนกิจ "อีซีเอ็ม ลีบรา แอฟเวนิว" ไปเมื่อวันศุกร์ ให้กับบริษัทแอมคอร์ป กรุ๊ป ในราคาหุ้นละ 65 เซนต์ (ประมาณ 7 บาท) ด้าน นายคาลิมุลเลาะห์ ฮัสซัน ประธานธนาคาร ผู้เป็นเพื่อนของนายกฯ บาดาวี ก็ได้ขายหุ้นอีซีเอ็ม ลีบรา แอฟเวนิว ที่ถือไว้จำนวน 16.26 ล้านหุ้น ให้กับบริษัทแอมคอร์ป กรุ๊ป ในราคาเดียวกัน ส่งผลให้นายคาลิมุลเลาะห์เหลือหุ้นในอีซีเอ็ม ลีบรา แอฟเวนิว เพียง 40 ล้านหุ้น หรือร้อยละ 4.8 ทำให้ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกต่อไป โดยนายคาลิมุลเลาะห์ เปิดเผยว่า ตัดสินใจขายหุ้นเพราะบรรดานักการเมืองและสื่อมวลชน ต่างพากันหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมาก

การขายหุ้นครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจากที่อดีตนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คนทั้งคู่อย่างหนัก โดยตั้งคำถามเรื่องการผนวกกิจการอีซีเอ็ม ลีบรา กับแอฟเวนิว แคปิตอล รีซอร์สเซส กลายเป็นอีซีเอ็ม ลีบรา แอฟเวนิว ในปีนี้ รวมถึงการที่นายไครีซื้อหุ้นอีซีเอ็ม ลีบรา มูลค่า 9.2 ล้านริงกิต (ประมาณ 104 ล้านบาท) เมื่อเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ก่อนที่จะมีการควบกิจการ

ด้านหนังสือพิมพ์สเตรทส์ ไทม์ส รายงานอ้างถ้อยแถลงของ นายนาซรี อับดุล อาซิซ โฆษกรัฐบาลมาเลเซียผู้ทรงอิทธิพลว่า ข้อมูลซึ่งได้มาจากคำสนทนาระหว่างนายมหาธีร์กับมิตรสหาย บ่งชี้ว่า อดีตนายกฯ ผู้นี้กำลังดำเนินความพยายามที่จะโค่นล้มนายบาดาวี พร้อมเตือนว่า หากนายมหาธีร์ยังเคลื่อนไหวเพื่อทำลายพรรคอัมโน ตัวเขาจะออกหน้าในการต่อสู้เพื่อปกป้องพรรค ทั้งยังยืนยันว่า ไม่ได้สนับสนุนนายบาดาวีด้วยความจำเป็น แต่ต้องการสนับสนุนนายกฯ คนนี้จริงๆ

ถ้อยแถลงของนายอาซิซมีขึ้นท่ามกลางความวิตกเรื่องความแตกแยกในพรรค ขณะที่สาขาพรรคอัมโนทั่วประเทศเกือบ 200 แห่ง กำลังจัดประชุมประจำปีโดยมีความขัดแย้งระหว่างนายมหาธีร์กับนายกฯ บาดาวี เป็นประเด็นสำคัญ

ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก