Skip to main content
sharethis

9 ก.ย. 2549 นายพอล แมคเฮล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ซึ่งรับผิดชอบด้านความมั่นคงภายในเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (7 ก.ย.) ว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะใช้เครื่องบินรบขึ้นบินห้าม หรือยิงเครื่องบินพาณิชย์ทุกสัญชาติที่ตกอยู่ใต้ภัยคุกคามก่อการร้าย โดยแผนดังกล่าวมีขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตประชาชนจำนวนมาก


         


นายแมคเฮล ระบุว่า การเตรียมพร้อมดังกล่าว ความเป็นจริงที่เกิดในปัจจุบัน และว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะไม่แยกแยะว่า เครื่องบินพาณิชย์ลำใดเป็นของต่างชาติหรือสัญชาติอเมริกัน


         


คำเปิดเผยนี้เป็นการแถลงสรุปสถานการณ์พิเศษให้กับนักข่าวต่างชาติ 6 สำนัก โดยมีขึ้นก่อนสหรัฐรำลึกครบรอบ 5 ปี เหตุโศกนาฏกรรมโจมตีอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2544 ซึ่งในเหตุดังกล่าว กลุ่มผู้ก่อการร้ายได้จี้เครื่องบินพาณิชย์ก่อนนำเครื่องพุ่งชนอาคารเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ และตึกเพนตากอน


         


อย่างไรก็ตาม นายแมคเฮล ไม่ได้ระบุว่า ใครจะเป็นผู้มีอำนาจออกคำสั่งให้ยิงเครื่องบินลำที่เห็นว่าเป็นภัยคุกคาม โดยกล่าวเพียงว่า ประเด็นนี้ถือเป็นความลับสุดยอด


         


"หากเครื่องบินลำใดลำหนึ่งถูกยึดโดยผู้ก่อการร้าย การตัดสินใจเพื่อดำเนินการกับเครื่องบินลำนั้นจะมีขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูง ซึ่งจะสามารถตัดสินใจอย่างรวดเร็วในไม่กี่นาที"


 


นายแมคเฮล ยังกล่าวอีกว่า หน่วยงานด้านการป้องกันภัยในประเทศ ได้รับงบประมาณราว 400,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะมีการนำเงินดังกล่าวมาใช้ป้องกันชีวิตชาวอเมริกันอย่างเหมาะสม


         


นายแมคเฮล ย้ำว่า หลังเกิดเหตุโจมตีตึกเวิลด์เทรดในนครนิวยอร์ก และเหตุโจมตีตึกเพนตากอน ในรัฐวอชิงตัน โดยผู้ก่อการร้ายใช้เครื่องบินพาณิชย์ 4 ลำนั้น หน่วยสืบสวนสอบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ ทั่วประเทศได้มีการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์คุกคามดังกล่าว และมีการตระหนักว่า ภัยคุกคามที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญในศตวรรษที่ 21 จะมีรูปแบบไม่เหมือนยุคสงครามเย็นอีกต่อไป


         


แนวคิดดังกล่าวหมายความว่า ศักยภาพการทหารที่ใช้ระหว่างสงครามเย็น ไม่เหมาะสมกับการรับมือภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่ไม่มีดินแดน


         


นายแมคเฮล เปิดเผยว่า สหรัฐได้ปรับปรุงหน่วยงานทหาร และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงเพื่อรับมือผู้ก่อการร้ายที่อาจเปิดฉากโจมตีพร้อมกันในหลายจุด ขณะเดียวกัน มีการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน ท่าเรือ และสาธารณสถานอื่นๆ รวมถึงได้เพิ่มการคุมเข้มการก่อการร้ายที่ใช้อาวุธทำร้ายล้างสูงขนาดเล็กพกสะดวก และอาวุธนิวเคลียร์


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net