ประชาไท- 15 พ.ค. 2550 กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งประกอบไปด้วยชาวบ้านตำบลปากช่อง ตำบลจอมบึง ตำบลหินกอง ตำบลเขาแร้ง ตำบลเบิกไพร ตำบลรางบัว ตำบลด่านทับตะโก และพื้นที่ใกล้เคียง กว่า 1,000 คน เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในเขต อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ต่อพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง

กลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งประกอบไปด้วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว, เพาะเห็ด, ทำสวน, เลี้ยงวัว, ไร่อ้อย ฯลฯ เริ่มออกเดินทางจาก ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ตั้งแต่เวลาประมาณ 7.30 น. แต่ในระหว่างการเดินทางได้พบกับด่านสกัดกั้นของทั้งตำรวจและทหาร ตั้งแต่ในเขต อ.โพธาราม, บริเวณแยกสระกระเทียม จ.นครปฐม, จนมาถึง บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 2 รวมประมาณ 5-6 ด่าน แต่ก็ผ่านมาได้ทั้งหมด และได้มาถึงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ก่อนที่จะเริ่มเคลื่อนขบวนมายังหน้าทำเนียบรัฐบาลในเวลาประมาณ 12.40 น. และมีการรวมตัวกันบริเวณหน้าอาคาร ป.ป.ช.โดยมีตัวแทนผลัดกันขึ้นปราศรัย

นายกันจร เือี่ยมชื่น ประธานกลุ่มต่อต้านโรงผลิตไฟฟ้าจอมบึง และ รองนายกอบต.ปากช่อง หนึ่งในผู้ปราศรัย กล่าวว่า โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในจังหวัดราชบุรี 3 โรง ได้ก่อให้เกิดผลกระทบทางลบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้เคียงและผลเสียต่อพืชผลทางการเกษตร ซึ่งได้พบเห็นตัวอย่างมาแล้วจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้าราชบุรี ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านในเขต อ.พิกุลทอง, อ.บางแพ และ อ.ดำเนินสะดวก จากบทเรียนดังกล่าว ชาวบ้านจอมบึงจึงไม่ต้องการให้เกิดโรงไฟฟ้าใน อ.จอมบึง

ประเด็นเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้น กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าฯ กล่าวว่า น้ำอาบไม่ได้ อากาศร้อน ปลูกอะไรก็ไม่โต ทำนาทำไร่ก็มีแต่สารพิษ ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีโรงงานนี้ ชาวบ้านทำนาทำไร่ได้อย่างสบาย แต่ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องไปทำงานรับจ้าง อากาศก็ไม่เหมือนเดิม น้ำก็ต้องซื้อกิน โรงงานที่สร้างเสร็จไปก็แย่  สิ่งแวดล้อมเสียหาย ทางโรงไฟฟ้าไม่เคยแจ้งเรื่องของผลกระทบทางลบที่จะเกิดขึ้น แจ้งแต่ข้อดีของการมีโรงไฟฟ้า

ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณที่จะสร้างโรงไฟฟ้าก็ใกล้เคียงกับสถานที่สำคัญของจังหวัดราชบุรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สำนักปฏิบัติธรรมสวนแก้ว วัดถ้ำสิงโตทอง โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โรงเรียน สวนสัตว์เปิดเขาประทับช้าง ถ้ำเขาบิน ถ้ำจอมพล สวนพฤกษาศาสตร์ราชบุรี ฯลฯ ซึ่งการก่อสร้างจะทำให้สถานที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบทั้งสิ้นเพราะล้วนอยู่ห่างจากบริเวณที่จะสร้างโรงไฟฟ้าไม่เกิน 3 กิโลเมตร

ในประเด็นนี้กลุ่มผู้ต่อต้าน หลายคนกล่าวว่า ไม่ว่าหนังสือจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ไม่อยากให้มีโรงไฟฟ้าเพราะพื้นที่นี้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมไม่ใช่พื้นที่อุตสาหกรรมและบริเวณใกล้เคียงกันก็เป็นโรงเรียน โรงพยาบาล และวัด จึงไม่ต้องการให้สร้าง

นอกจากนี้ เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ชาวบ้านไม่ยอมรับโครงการนี้เป็นเพราะ การดำเนินการต่างๆในพื้นที่ดำเนินการไปโดยชาวบ้านไม่มีส่วนร่วมรับรู้หรือแสดงความคิดเห็นต่อแผนดังกล่าว

จากนั้น เวลาประมาณ 13.30 น. ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม 10 คน เข้าไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยมีข้อเรียกร้องคือ 1.ให้ยกเลิกโครงการโรงงานผลิตไฟฟ้า อำเภอจอมบึง 2.ให้ไม่มีการก่อสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าเพิ่มในจังหวัดราชบุรี 3.ให้ยกเลิกโครงการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในราชบุรี และ 4.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและแสดงความคิดเห็นก่อนอนุมัติโครงการ แต่ก็ไม่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด เพียงแต่ยื่นหนังสือกับเจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์เท่านั้น

นายกันจรกล่าวหลังจากที่ยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลว่า "รัฐบาลได้มีการรับปากว่าภายใน 15 วันหรือไม่เกิน 1 เดือน รัฐบาลจะต้องตอบเราได้ตามที่เราได้ยื่นหนังสือไป เพราะฉะนั้น ต้องตอบก่อนการประมูล หลังจากนั้นถ้ายังมีการประมูลอยู่แล้วก็มีบริษัท EGCO ได้เข้าไปดำเนินการใน ต.ปากช่อง หมายความว่าทางรัฐบาลไม่ได้ช่วยพวกเราเลย เพราะฉะนั้นในไม่เกิน 1 เดือน รัฐบาลคงจะตอบพี่น้องชาว อ.จอมบึง ว่า บริษัท EGCO จะไม่เข้าไปดำเนินการสร้างโรงไฟฟ้าอีกแล้ว ถ้ายังไม่มีการดำเนินการใดๆภายใน 1 เดือน ทำเนียบรัฐบาลอาจจะต้องต้อนรับพี่น้องประชาชน ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จากราชบุรีอีกก็ได้"