ประชาไท - 25 ส.ค. 50 วานนี้ (24 ส.ค.) พรรคแนวร่วมภาคประชาชน ออกแถลงการณ์ระบุ คมช. ไม่สามารถอ้างความชอบธรรมในการทำรัฐประหารหรือผลงานอื่นๆ ในช่วงรัฐบาลเผด็จการได้ เนื่องจากทั้งที่กระบวนการประชามติร่างรัฐธรรมนูญไม่เปิดโอกาสให้สองฝ่ายเสนอข้อมูลเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจอย่างอิสระ แต่คะแนนรับร่างฯ ก็เกือบจะแพ้

ทั้งนี้ พรรคแนวร่วมภาคประชาชน เห็นว่า จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ 50 และปฏิรูปสังคมการเมืองไปพร้อมกัน เนื่องจากไม่สามารถหวังจากทหารหรือรัฐบาลใหม่ที่จะประกอบด้วยพรรคการเมืองน้ำเน่าได้ จึงเรียกร้องให้ภาคประชาชน อาทิ ขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม สหภาพแรงงาน องค์กรนักศึกษา เครือข่ายภาคประชาชน NGO และนักเคลื่อนไหวฝ่ายก้าวหน้า ปรึกษาหารือกันเพื่อรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดวาระ ทิศทางและยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปการเมืองของภาคประชาชน

"ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาองค์กรภาคประชาชนเหล่านี้มีข้อเสนอให้สร้างรัฐสวัสดิการผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย มีข้อเสนอให้ภาคประชาชนมีส่วนสำคัญในการบริหารสังคมทุกระดับ มีข้อเสนอให้ขยายสิทธิเสรีภาพทางเพศ สิทธิเสรีภาพทางเชื้อชาติ และสิทธิเสรีภาพสำหรับคนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มในสังคม เราเคยมีข้อเสนอให้สร้างสื่อเสรีของภาคประชาชน และข้อเสนอในการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดภาคใต้ นโยบายดังกล่าวได้รับการถกเถียง พัฒนาและการสรุปในเวทีสมัชชาสังคมไทย เวทีไทยพูด และเวทีอื่นๆ ของภาคประชาชน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ประชาชนจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน"

00000

แถลงการณ์จากพรรคแนวร่วมภาคประชาชน

หลังประชามติ ภาคประชาชนต้องนำการปฏิรูป

• ทั้งๆ ที่กระบวนการประชามติ 19 สิงหาคม 50 ถูกบิดเบือนไปจากกระบวนการประชาธิปไตยโดยเผด็จการ คมช. ด้วยวิธีไม่เปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายนำเสนอข้อมูลเพื่อให้ประชาชนตัดสินใจอย่างอิสระและเสรี แต่ฝ่ายเผด็จการเกือบจะแพ้การลงคะแนนเสียง ดังนั้น คมช. ไม่สามารถจะอ้างความชอบธรรมในการทำรัฐประหารหรือผลงานอื่นๆ ในช่วงรัฐบาลเผด็จการจากผลของประชามติครั้งนี้ได้ และไม่สามารถจะอ้างความชอบธรรมใดๆ ในการออกกฎหมายความมั่นคง หรือ กฎหมายสำคัญๆ อื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อสังคม ในช่วงก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง

• สังคมไทยต้องเคารพคนจำนวนมากที่คัดค้านรัฐธรรมนูญทหาร หรือ คัดค้านกระบวนการในการทำประชามติ ถึงแม้ว่า คมช. จะนำรัฐธรรมนูญปี 50 มาใช้ก็ตาม นี่คือสาเหตุที่รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญถาวรที่จะสร้างกระบวนการปฏิรูปการเมืองได้

• ด้วยเหตุนี้เป็นเรื่องจำเป็นและเร่งด่วนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและปฏิรูปสังคมการเมืองไปสู่ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมที่แท้จริง แต่ประชาชนไม่สามารถตั้งความหวังว่าทหารหรือรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งในปลายปี ซึ่งย่อมประกอบไปด้วยพรรคการเมืองน้ำเน่า จะสนใจและสามารถทำการปฏิรูปดังกล่าวได้

• ภารกิจในการปฏิรูปสังคมการเมืองจึงตกอยู่กับภาคประชาชน โดยเฉพาะฝ่ายที่อิสระจากการครอบงำของชนชั้นนำและทหาร พรรคแนวร่วมภาคประชาชน ขอเชิญชวนขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม สหภาพแรงงาน องค์กรนักศึกษา เครือข่ายภาคประชาชน NGO และนักเคลื่อนไหวฝ่ายก้าวหน้า ให้เริ่มปรึกษาหารือกันเพื่อรวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกำหนดวาระ ทิศทางและยุทธศาสตร์ในการปฏิรูปการเมืองของภาคประชาชน

• ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาองค์กรภาคประชาชนเหล่านี้มีข้อเสนอให้สร้างรัฐสวัสดิการผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย มีข้อเสนอให้ภาคประชาชนมีส่วนสำคัญในการบริหารสังคมทุกระดับ มีข้อเสนอให้ขยายสิทธิเสรีภาพทางเพศ สิทธิเสรีภาพทางเชื้อชาติ และสิทธิเสรีภาพสำหรับคนกลุ่มน้อยทุกกลุ่มในสังคม เราเคยมีข้อเสนอให้สร้างสื่อเสรีของภาคประชาชน และข้อเสนอในการสร้างสันติภาพในสามจังหวัดภาคใต้ นโยบายดังกล่าวได้รับการถกเถียง พัฒนาและการสรุปในเวทีสมัชชาสังคมไทย เวทีไทยพูด และเวทีอื่นๆ ของภาคประชาชน ถึงเวลาแล้วที่เราจะมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อผลักดันให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ประชาชนจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน

พรรคแนวร่วมภาคประชาชน

24 สิงหาคม 2550