Skip to main content
sharethis

  


การเมือง


 


จรัญเย้ย พปช.ไม่มีสิทธิถอดถอน ป.ป.ช.ยันแต่งตั้งถูกต้อง


ผู้จัดการรายวัน - นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักการเมืองวิพากษ์วิจารณ์บทบาทตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังจากที่ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความรู้สึกต่อบ้านเมือง ว่า 1.จะให้อาชญากรแก้ไขกฎหมายอาญา หรือไม่ 2.จะให้นักเลือกตั้งแก้ไขการทุจริตซื้อเสียงหรือไม่ และ3.จะให้มิจฉาทิฐิแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า ตนเพียงตั้งคำถามเพื่อถามประชาชนและสังคม เพราะต้องการฟังความคิดเห็นของประชาชน


 


ผมเหมือนอยู่หอคอยและไม่มีโอกาสพบกับประชาชน จึงอยากฟังเสียงสะท้อนจากสังคม จากประชาชนบ้าง เพื่อที่จะทำงานได้ถูกต้อง ส่วนกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนจะดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในการเปิดประชุมสภาฯ สมัยสามัญนิติบัญญัตินั้น นายจรัญ กล่าวว่า ไม่คิดว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะปฏิบัติเช่นนั้นได้


 


นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการองค์การตามรัฐธรรมนูญ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เตรียมเรียกเลขาธิการ ป.ป.ช.เข้าชี้แจง เนื่องจากสงสัยเรื่องที่มา ของป.ป.ช.เ พราะไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ว่า ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือเพื่อขอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว แต่ทางราชเลขาธิการได้ส่งหนังสือตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษรผ่านทาง นายรองพล เจริญพันธ์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะนั้น ว่า ป.ป.ช.ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะยึดอำนาจ ซึ่งถือเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ผู้มีอำนาจเด็ดขาดขณะนั้น จึงถือว่าเป็นองค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 299 ด้วย


 


"เรื่องนี้คนพูดน่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ยังหยิบขึ้นมาพูดอีก ซึ่งตนไม่รู้ว่าเพื่ออะไร และไม่อยากคาดเดา เพราะจะกลายเป็นการต่อความยาวสาวความยืด แต่ยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาของ ป.ป.ช.ทำตามกฎหมาย เป็นกลางและไม่มีอคติกับใคร การที่ฝ่ายการเมืองตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ ไม่ทำให้หวั่นไหว และไม่สามารถกดดันการทำงานของ ป.ป.ช.ได้" นายภักดี กล่าว


 


ส่วนการออกระเบียบให้ค่าตอบแทนกับที่ปรึกษาและเลขานุการนั้น นายภักดี กล่าวว่า กรณีนี้จะไม่ซ้ำรอยกับ ป.ป.ช.ชุดเดิม ที่มีการออกระเบียบขึ้นเงินเดือนให้กับตัวเอง กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะเรื่องนี้ได้ตรวจดูข้อกฎหมายอย่างรอบคอบแล้ว เห็นว่า ป.ป.ช.มีอำนาจในการออกระเบียบดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2542 มาตรา 19 และมาตรา 107 นอกจากนี้ ยังไม่ใช่การออกระเบียบเพื่อขึ้นเงินเดือนตัวเองด้วย จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน


 


"หมัก" ส่ง ผบ.สส.ประชุม จีบีซี 21 ก.ค.นี้


เว็บไซต์แนวหน้า/เว็บไซต์คมชัดลึก- ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนฺท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยการ เลขาฯ สมช. พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ได้ประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมของการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ทางไทยเป็นเจ้าภาพในการประชุมที่ ร.ร.อินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในวันจันทร์ที่ 21 ก.ค.2551


 


ภายหลังการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ พล.อ.บุญสร้าง เป็นผู้นำฝ่ายไทย ไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นในวันจันทร์นี้ ( 21 ก.ค.) ที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งกรณีเขาพระวิหาร ปัญหาพื้นที่ทับซ้อน และคนกัมพูชาเข้ามาอยู่ในฝั่งไทย


 



"สำหรับผมเองในฐานะเลขานุการคณะกรรมการชุดนี้ ได้แจ้งให้พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทราบแล้ว คิดว่าผู้นำสองประเทศน่าจะคุยกันได้ทุกเรื่อง" พล.ท.นิพัทธ์ กล่าวและว่า


 



เมื่อผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้เจอกันเป็นโอกาสดีที่จะได้พูดจากันทุกเรื่อง ทั้งนี้ความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับกัมพูชาไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผบ.ทบ.ได้ร่วมชี้แจงสถานการณ์อย่างชัดเจน ซึ่งระบุว่า การแก้ปัญหาที่ผ่านมาทั้งหมดทำได้ด้วยความร่วมมือระหว่าง2 ประเทศอย่างไร ทุกอย่างเป็นที่เข้าใจกันดี


 


3 คนไทยแจ้งความเขมรกักขัง


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - วันนี้ (18 ก.ค.) แกนนำขบวนธรรมยาตราได้พา 3 คนไทยที่ถูกจับกุม ประกอบด้วย พระคำพอง ชัยยธัมโม อายุ 48 ปี, นายวิชาญ ทับซ้อน อายุ 40 ปี,นางชนิกานต์ เก่งนอก อายุ 51 ปี เข้าแจ้งความ พ.ต.ท.คมสัน ทันนา พนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่กองกำลังกัมพูชา ในข้อหาร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง หรือทำด้วยประการใดๆ ให้ผู้อื่น ปราศจากเสรีทางภาพทางกาย


 


เหตุเกิดบริเวณตลาดทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.51 เวลา 07.00 น. พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.พินิจ แฝงยงค์ ผบก.ภจว.ศรีสะเกษ มีคำสั่งให้ พ.ต.ท.ประยุทธ์ ทับทิมไสย์ พนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ ร่วมดำเนินการสอบสวนทั้ง 3 คนไทยที่มาแจ้งความในครั้งนี้ด้วย


 



นายวิชาญ ทับซ้อน หนึ่งในคนไทยที่ถูกจับกุมตัวไป เพราะปีนข้ามประตูเหล็กเข้าไปในฝั่งตรงข้าม กล่าวว่า ที่ตัดสินใจปีนประตูเข้าไปในบริเวณทางขึ้นปราสาทพระวิหารนั้น เพราะถือว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นแผ่นดินไทย 100% ในฐานะที่เราเป็นคนไทยจะทำอะไรในแผ่นดินเราก็ได้ พวกตนจึงตัดสินใจปีนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อจะเข้าไปนั่งปฏิบัติธรรม และตั้งใจว่าจะเข้าไปจำพรรษาที่วัดสิกขาคีรีสะวาระ หรือวัดปราสาทพระวิหาร ซึ่งเดิมเป็นวัดของคนไทย ซึ่งดัดแปลงมาจากฐานปฏิบัติการของ ตชด.ซึ่งเป็นกองกำลังของประเทศไทย ก่อนที่จะถูกเขมรบุกรุก และเข้ามาครอบครองมาตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา


 


ความมั่นคง


 


ทบ.ยันไม่เกี่ยวข้องแถลงการณ์กลุ่มก่อการร้ายภาคใต้


เว็บไซต์แนวหน้า - พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงข่าวกรณีที่กลุ่มใต้ดินภาคใต้ของประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ประกาศเจตนารมณ์หยุดยิงและหยุดปฏิบัติการก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีสถานีวิทยุกองทัพบกช่อง 5 เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสัญญาณเทปคำแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.51 เวลา 12.00.ที่ผ่านมาว่า กองทัพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อเรื่องดังกล่าว


 


การเผยแพร่ของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทยผ่านสถานีโทรทัศน์ เป็นการดำเนินการส่วนบุคคล ที่ดำเนินการโดย พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีตรมว.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ.ที่มีความปารถนาดีและความห่วงใยที่หวังให้เกิดความสงบสุข ในจังหวัดชาแดนภาคใต้จึงใดมีการประสานทางการ ออกอากาศทางสถานีช่อง 5 ในฐานะที่เป็นสื่อสารมวลชนที่ให้ความสำคัญข่าวสารด้านความมั่นคง จึงให้การสนับสนุนเพราะเห็นว่า หากคำแถลงเป็นจริงจะเกิดประโยชน์ประเทศ ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวไม่ใช่การดำเนินการในรูปแบบส่วนราชการ ซึ่งจะไม่มีผลผูกพันอย่างเป็นทางการ


 



สำหรับการดำเนินการของกองทัพบกต่อการแก้ปัญหาความไม่สงบต่อชายแดนภาคใต้ยังคงยึดนโยบายในทางเดิม คือ การใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาและการใช้กฎหมายให้เกิดความยุติธรรมในพื้นที่ควบคู่กับการพัฒนาพร้อมกับการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ตามการดำเนินการใดๆที่เป็นเรื่องสร้างสรรค์และทำให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่อย่างแท้จริงกองทัพบกพร้อมไม่ให้การสนับสนุนขนาดเดียวกันจะติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ออกแถลงการณ์


 


เศรษฐกิจ


 


ปตท.จ่อลดราคาน้ำมันใน 1-2 วันนี้


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้ ปตท.พิจารณาปรับลดราคาน้ำมันอีกไม่ต่ำกว่าลิตรละ 60 สตางค์ ภายใน 1-2 วันนี้ หลังจากที่ได้ปรับลดไปแล้ว 60 สตางค์ เมื่อเช้าวันนี้ แต่แนวโน้มราคาน้ำมันมีความผันผวนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯ


 



กรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีแรกสามารถจับกุมน้ำมันเถื่อนเฉพาะดีเซล บริเวณพื้นที่ภาคใต้อย่างเดียว รวมทั้งสิ้น 1.3 ล้านลิตร คิดเป็นยอดเปรียบเทียบปรับถึง 45 ล้านบาท เพราะว่าราคาน้ำมันของไทยสูงกว่ามาเลเซีย 15-20 บาทต่อลิตร


 



อย่างไรก็ตาม การลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนมีแนวโน้มลดลง หลังจากที่รัฐบาลปรับลดราคาภาษีน้ำมัน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันของไทยและมาเลเซียต่างกันน้อยลงกว่าเดิมหรือประมาณลิตร 8 บาท อีกทั้งมาเลเซียก็เข้มงวดห้ามรถจากไทยไปเติมน้ำมันในมาเลเซีย


 



ด้านบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ผู้ดำเนินการบัตรเครดิต KTC ระบุว่า ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ประชาชนใช้บัตรเครดิตเติมน้ำมันมากขึ้น เพื่อชะลอใช้เงิน


 


คุณภาพชีวิต


 


ร้านเกมกทม.ไม่ผ่านเกณฑ์15% สวช.เผยมีร้านเถื่อนกว่า1หมื่นร้าน


เว็บไซต์คมชัดลึก - นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักภาพยนตร์และวีดิทัศน์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจร้านเกมในเขตกรุงเทพมหานคร พบว่ามีร้านเกมมากถึง 2 หมื่นร้าน ในขณะที่ร้านจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมีอยู่ประมาณ 1 หมื่นร้าน


 



ส่วนการประเมินระดับมาตรฐานของร้านเกม 3 ระดับ ได้แก่ สีแดง สีเหลือง และสีเขียว ทำให้พบว่ามีร้านเกมที่อยู่ในระดับสีแดงประมาณ 15% ซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีใบอนุญาต มีกระจกทึบ พื้นที่ไม่ปลอดโปร่งไม่เหมาะกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ ดังนั้น สวช.จะเร่งผลักดันร้านเกมที่ยังไม่จดทะเบียนให้ดำเนินการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เพื่อให้ร้านเกมมีคุณภาพ และมีมาตรฐานเป็นที่เชื่อถือของผู้ปกครองมากยิ่งขึ้น


 



สำหรับเกณฑ์การประเมินมาตรฐานตามสีแดง สีเหลือง และสีเขียวนั้น ถ้าร้านเกมใดสามารถพัฒนาระดับมาตรฐานของร้านให้มีคุณภาพ สวช.จะเลื่อนระดับสีของเกณฑ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของร้านเกมให้มากขึ้น ซึ่งร้านเกมสีแดง เป็นร้านไม่ผ่านมาตรฐาน มีสภาพแวดล้อมภายในไม่เหมาะสมทั้งบรรยากาศ ความแออัด แสง ทางหนีไฟ ร้านเกมสีเหลือง เป็นร้านผ่านเกณฑ์ พอใช้ เริ่มมีการจัดสภาพแวดล้อมบรรยากาศภายในให้ดีขึ้น ทั้งสภาพแสง ระยะการจัดวางเครื่อง ร้านเกมสีเขียว ผ่านเกณฑ์ ดี เป็นร้านที่ได้มาตรฐานมีการจัดระบบที่ค่อนข้างสมบูรณ์ทั้งระบบการบริการ และระบบความปลอดภัยภายในร้าน


 



 "ผมอยากให้ร้านเกมพัฒนาให้ผ่านเกณฑ์จนถึงขั้นร้านเกมสีขาว โดยมีการแบ่งโซนของเด็ก และผู้ใหญ่ แบ่งระดับของเกมให้เหมาะสมกับผู้เล่น รวมถึงมีสภาพบรรยากาศที่เหมาะสมกับการเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน เพื่อกระตุ้นให้ร้านเกมทั่วประเทศเกิดความตื่นตัว ปรับปรุงร้านให้มีมาตรฐาน และมีจิตสำนึกที่จะตอบแทนสังคมด้วย การสำรวจครั้งนี้ คาดว่าจะ สรุปผลปัญหาอย่างชัดเจนได้ ประมาณปลายเดือนกรกฎาคมนี้" เลขาธิการกวช.กล่าว


 


รองผู้ว่าฯ ประจวบยันคุมความขัดแย้งโรงถลุงเหล็กได้


เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ - นายบงการ ลิมประพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นตัวแทน ชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการผู้ชำนาญการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ. โครงการโรงถลุงเหล็ก


 



โดยยืนยันว่า จังหวัดยอมให้มีความขัดแย้งทางความคิดได้ แต่ต้องไม่สร้างความรุนแรง หรือผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาความขัดแย้งอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ และยังมอบนโยบายให้ส่วนราชการต่างๆ จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสมานฉันท์ในพื้นที่ อาทิ การปลูกป่า กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว การแข่งขันกีฬา โดยยอมรับว่า ต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในลักษณะข้ามคืนได้


 


รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ยังเดินหน้าแนวทางการเปิดเวทีไตรภาคีระดับพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวอีกด้วย


 


 


พลังงาน


 


"อัล กอร์" ท้าสหรัฐฯผลิตไฟฟ้าทั้งหมดจากพลังงานหมุนเวียน


ผู้จัดการ- รอยเตอร์/ เอเอฟพี - อัล กอร์ เจ้าของรางวัลโนเบล ผู้รณรงค์ต่อสู้เรื่องภาวะโลกร้อน ท้าทาย ให้ชาวอเมริกันลงมือผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ภายในประเทศจากพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานแสดงอาทิตย์และลม ภายใน 10 ข้างหน้า


 


อันตรายของประเทศชาติ อันเกิดจากการพึ่งพาเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดคาร์บอนจนมากเกินไป เป็นต้นตอของปัญหาทั้ง 3 อย่าง อันได้แก่ วิกฤติทางเศรษฐกิจ, สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงภายในประเทศ อัล กอร์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (17) ต่อผู้ฟังจำนวนหลายพันคน ที่เบียดเสียดกันอยู่ในหอประชุมบริเวณใกล้ ๆ ทำเนียบประธานาธิบดี ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี เพื่อรับฟังการบรรยายของอดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้


 


"ดังนั้น ในวันนี้ผมขอจึงเชื้อเชิญให้ชาวอเมริกันลงมือผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ก็จากทรัพยากรชนิดอื่น ๆ ที่ปราศจากคาร์บอน ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า" อัล กอร์กล่าว


 


การเชื้อเชิญครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีนโยบายการแก้ปัญหาโลกร้อนของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อตรงๆ ก็ตาม อัล กอร์ เป็นผู้สนับสนุนให้ใช้มาตรการต่าง ๆ อย่างจริงจังในการต่อสู้กับภาวะบรรยากาศเปลี่ยนแปลงมาอย่างยาวนานได้เคยตำหนิว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันแทบไม่ได้ทำเรื่องโลกร้อนเลย


 


ต่างประเทศ


 


ผู้นำรัสเซียขู่ข้าราชการตกงานถ้าใช้คอมพ์ไม่เป็น


เว็บไซต์คมชัดลึก - (18ก.ค.) ประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ พูดถึงเรื่องนี้หลังออกอาการหงุดหงิดกับข้าราชการหลายคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ระหว่างประชุมกับข้าราชการทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ไปทั่วประเทศเมื่อวานนี้ โดยพูดว่า รัฐบาลไม่จ้างคนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และสมัยนี้ คนที่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ก็ไม่ต่างอะไรกับคนไม่รู้หนังสือ


 



เมดเวเดฟประกาศตั้งแต่รับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเดือนพฤษภาคม ว่าจะทำให้ประเทศทันสมัยและต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งการทำงานผ่านทางออนไลน์ให้มากขึ้นเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและทำให้การปกปิดการคอร์รัปชั่นทำได้ยากขึ้น แต่ที่ผ่านมาแทบจะไม่มีความคืบหน้าเรื่องนี้เลย เพราะติดปัญหาที่ข้าราชการยังใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น และไม่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้


 



เมดเวเดฟเป็นคนหนึ่งที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาเคยให้สัมภาษณ์ก่อนเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคมว่าแม้แต่โทรทัศน์ยังดูทางออนไลน์


 



รัสเซียเป็นประเทศที่มีอัตราการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตต่ำที่สุดในยุโรป จากสถิติเมื่อปีที่แล้ว พบว่าชาวรัสเซียอายุ 15 ปีขึ้นไป มีเพียงร้อยละ 12 ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้


 


คาดประชุมรมต.อาเซียนถกน้ำมัน-อาหารแพง


เว็บไซต์สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การประชุมรัฐมนตรีของกลุ่มประเทศสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียน ซึ่งจะมีขึ้นที่สิงคโปร์ ในคืนวันอาทิตย์ สัปดาห์หน้านั้น มีกำหนดการหารือเรื่องการแก้ปัญหาราคาน้ำมันและอาหารแพง รวมทั้งปัญหาเรื่องภาวะเงินเฟ้อที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเมืองของเหล่าชาติสมาชิก


 


โดยร่างบันทึกความเข้าใจก่อนการประชุมของรัฐมนตรีอาเซียน ยังระบุด้วยว่า ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยมิได้รับการแก้ไข จะกลายเป็นอุปสรรคที่สำคัญต่อแผนระยะยาวของอาเซียน ที่ตั้งเป้าว่าจะรวมกลุ่มในลักษณะแบบเดียวกับสหภาพยุโรปหรือ อียู ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายสินค้าและบริการในภูมิภาคอาเซียนดำเนินไปอย่างเสรี ภายในปี 2558 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า


 



รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมครั้งนี้ บรรดารัฐมนตรีอาเซียนยังมีแผนที่จะให้คำมั่นต่อการผลักดันข้อตกลงการค้าเสรีกับเหล่าประเทศคู่เจรจา ซึ่งได้แก่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหภาพยุโรป และอินเดีย ตลอดจนการผลักดันข้อตกลงความเป็นหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่น ด้วย ทั้งนี้ การข้อตกลงข้างต้นนั้น นอกจากเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว ก็ยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ ตลอดจนความร่วมมือในด้านอื่นๆ กับประเทศคู่เจรจาด้วย


 



ขณะที่ นายจอร์จ เหยียว รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ทางการพม่าจะร่วมลงนามให้สัตยาบันในกฎบัตรอาเซียน ในการประชุมระดับรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้านี้ด้วย


 


ไอเอ็มเอฟฟันธงศก.โลกเผชิญความลำบาก


เว็บไซต์สยามรัฐ - 18 กรกฎาคม 2551 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟได้ปรับเพิ่มตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ครั้งใหม่ ในการคาดการณ์ขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกครั้งล่าสุดโดยนายไซมอน จอห์นสัน หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกโดยรวมในปีนี้คาดการณ์ว่า จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 4.1 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากการพยากรณ์เมื่อ เม.ย.ที่ผ่านมา ที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 3.7


 



พร้อมกันนี้ นายจอห์นสัน ยังระบุด้วยว่า ถึงแม้ว่าจะเกิดภาวะการตึงตัวด้านสินเชื่อในเวลานี้ อันเป็นผลมาจากวิกฤติการปล่อยสินเชื่อรายย่อยเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์แบบคุณภาพต่ำหรือซับไพร์มในสหรัฐฯ แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบร้ายแรงตามที่เคยคาดการณ์กันไว้


 


อย่างไรก็ตาม หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็มเอฟ ได้เตือนว่า แม้ว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นจากการพยากรณ์ครั้งก่อน แต่ในช่วงครึ่ง ปีหลังเศรษฐกิจโลกอาจจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก โดยประเทศต่างๆ จะต้องระมัดระวังในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งสืบเนื่องจากปัญหาราคาแพงของน้ำมันและอาหาร ตลอดจนสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ นอกจากนี้ ความต้องการบริโภคสินค้าต่างๆ ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็มีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วด้วย ซึ่งเหตุปัจจัยดังกล่าวนี้ อาจจะส่งผลทำให้เศรษฐกิจโลกโดยส่วมรวมเผชิญกับภาวะถดถอยในครึ่งปีหลังได้


 



รายงานข่าวแจ้งว่า ทางไอเอ็มเอฟยังได้พยากรณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2552 ด้วยว่าอาจจะเติบโตในอัตราร้อยละ 3.9 ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากการพยากรณ์ ที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราร้อยละ 3.8 พร้อมทั้งยังพยากรณ์ด้วยว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้ ยังคงมีอัตราการเจริญเติบโตมากที่สุด โดยอยู่ที่ร้อยละ 9.7 ตามมาด้วยอินเดียอยู่ที่ร้อยละ 8 ส่วนสหรัฐฯ อยู่ที่ร้อยละ 1.3


 


แควนตัสปลดคนงานนับพัน เหตุทนน้ำมันแพงไม่ไหว


เว็บไซต์สยามรัฐ - ออสเตรเลีย - นายเจฟฟ์ ดิกสัน ประธานคณะบริหารสายการบินแควนตัสในออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ทางสายการบินประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวน 1,500 คน ทั่วโลก หรือคิดเป็นจำนวนร้อยละ 4 ของพนักงานทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้เป็นพนักงานในออสเตรเลียถึง 1,300 คน โดยการปรับลดพนักงานครั้งนี้ เพื่อรับมือปัญหาน้ำมันแพง นอกจากนี้ ทางแควนตัสยังมีแผนปรับลดพนักงานลงอีกร้อยละ 8 นับตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้ไปจนถึงกลางปีหน้าด้วย เพราะทางสายการบินพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่สามารถเติบโตในช่วงเวลาดังกล่าวได้ รวมถึงยังมีแผนปลดระวางเครื่องบินเก่าอีกจำนวน 22 ลำด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net