Skip to main content
sharethis

วันที่ 28 ก.ย.51 เวลา 21.50 น.นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)ขึ้นกล่าวบนเวทีพันธมิตรฯในทำเนียบรัฐบาลว่า แม้ประเด็นการเมืองใหม่ตนจะจุดประกายขึ้น แต่การเสวนาการเมืองใหม่ทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา ตนไม่ได้เข้าไปร่วมเสวนาเพราะไม่ต้องการให้เกิดข้อครหาได้ว่าเข้าไปครอบงำ แต่ตนจะเดินหน้าจุดประกายโฉมหน้าการเมืองใหม่ไปเรื่อยๆ โดยหลักการเมืองใหม่คือ ต้องส่งเสริมให้สถาบันกษัตริย์เข้มแข็งและใครมาล้มล้างไม่ได้ จะออกแบบอย่างไรก็ตาม ต้องให้สถาบันเข้มแข็ง และคืนพระราชอำนาจให้แก่พระองค์ท่าน ต้องคืนการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชคืน


 


"การแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชกว่า 60 ปีที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา แต่การเมืองในยุคหลังนี้ มาดึงพระราชอำนาจไปผ่องถ่ายแทนที่จะอยู่พระราชอำนาจของพระองค์ ยิ่งในยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีแต่ปัญหา"


 


นายสนธิกล่าวต่อว่า จริงๆ แล้ว ปัญหาการเมืองในขณะนี้ คงจะจบและสิ้นสุดไปแล้ว หากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ตัดสินคดียุบพรรคพลังประชาชน ปัญหาทุกอย่างก็จบ แต่มี 2 กกต.ที่ไม่ทำตามหน้าที่ ไม่เช่นนั้นพรรคพลังประชาชนถูกยุบพรรคไปตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว


 


 "จุดยืนของพันธมิตรฯ เราเห็นใจและขอขอบคุณ 24 อธิการบดี ที่เสนอการเมืองใหม่ แต่เราขออนุญาตว่า วิธีของ24 อธิการบดี ไม่ถูกต้อง การตั้งกรรมการขึ้นมา สุดท้ายพวกรัฐบาลก็ตั้งคนของตนเองเข้ามา เพราะฉะนั้น การเมืองใหม่จะเริ่มได้ ต้องเริ่มจากมหาประชาชน มหาประชาภิวัฒน์เท่านั้น ที่จะทำให้การเมืองใหม่เกิดขึ้นได้"นายสนธิกล่าว


 


จำลองชมแนวคิด 24 อธิการบดี


ขณะที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวเห็นด้วยกับข้อเสนอของ 24 อธิการบดี โดยพันธมิตรฯ ยังมีความเห็นตรงกับแนวทางอารยะประชาธิปไตย ที่เสนอโดย นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่เห็นว่า การปฏิรูปการเมืองใหม่ต้องเป็นแนวทางที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนา และการรณรงค์ต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพันธมิตรฯ เห็นว่าแนวทางของ 24 อธิการบดี ที่ระบุว่าจะต้องมีการปฏิรูปการเมืองนั้น เป็นความหมายเดียวกับการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ


        


ส่วนพันธมิตรฯ จะส่งตัวแทนเข้าร่วมกับคณะกรรมการอิสระแก้วิกฤติชาติ ตามที่ 24 อธิการบดี เสนอหรือไม่นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า กรณีดังกล่าวแกนนำพันธมิตรฯ ได้นำมาหารือและเห็นว่าแต่ละฝ่ายควรดำเนินการพัฒนาการเมืองใหม่ไปตามแนวทางของตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดการครอบงำทางความคิดระหว่างกัน ทั้งนี้ การจัดตั้งองค์กรอิสระพัฒนาการเมืองใหม่ ตามแนวทางของ 24 สถาบัน จะต้องใช้เวลากว่า 4 เดือน อีกทั้งยังไม่แน่ชัดว่า นายกรัฐมนตรี จะตอบรับแนวคิดของ 24 สถาบันหรือไม่


        


"ถ้าเราไปร่วมกับคณะกรรมการอิสระชุดดังกล่าว ก็คงต้องรอนานกว่า 4 เดือน ซึ่งจะทำให้พันธมิตรฯ เสียโอกาส นอกจากนี้ ยังไม่รู้ว่า นากยกฯ จะรับแนวคิดหรือไม่ แต่ถ้ามีขึ้นมาจริงๆ เราคงต้องบอกว่า เรามาไกลเกินไปแล้ว ถ้าเอาข้อเสนอของเราเข้าไปร่วม เขาจะมองว่าเราเอาความคิดของเราไปครอบงำ ทุกคนเขาก็ถืออัตตาของเขา ส่วนเราจะรอให้องค์กรอิสระฯ เกิดขึ้น และทำหนังสือเชิญมาแล้วเราจะตอบว่า เราเห็นด้วยกับแนวคิดของ 24 สถาบัน แต่เห็นว่าควรแยกกันทำงานไปตามแนวทางจะดีกว่า" พล.ต.จำลอง กล่าว


        


ส่วนการกำหนดกรอบเวลาในการกำหนดแนวทางการเมืองใหม่ พล.ต. จำลอง กล่าวว่า เราวางกรอบไม่ได้ แต่พยายามทำเร็ว เราไม่ได้ทอดระยะเวลา แต่เรากำหนดเวลาเองไม่ได้ เพราะการกำหนดแนวทางมีรายละเอียดมาก แนวทางของ 24 สถาบันเป็นแนวทางที่มีการกำหนดแบบฉบับ แต่พันธมิตรฯ เห็นว่าไม่ควรกำหนดกรอบเวลา และควรเปิดกว้างให้มีผู้เสนอความเห็น และให้ข้อมูลได้


        


"เรื่องจะเชิญ 24 สถาบันมา เราก็คิดเหมือนกัน แต่คิดว่าไม่เหมาะ จึงไม่ได้เชิญ เราอยากให้ท่านทำต่อ ให้ท่านรอ แล้วดูว่ารัฐบาลจะรับหรือไม่ แล้วให้ท่านทำ จะได้เห็นความต่าง เราไม่รอท่าทีของนายกรัฐมนตรี ขืนรอเราเสียเวลาไปเปล่าๆ เราเดินหน้าตลอด เราจะดำเนินการตามที่อาจารย์ประเวศเสนอ" พล.ต.จำลอง กล่าว


        


พล.ต.จำลอง ยังกล่าวว่า ในวันพุธ ที่ 1 ต.ค. จะมีการประชุมเสวนา "การเมืองใหม่ ประชาภิวัฒน์" ครั้งที่ 3 โดยจะมีนักวิชาการ รวมถึงตัวแทนภาคต่างๆ จากการเสวนาทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมาเข้าร่วมการเสวนา ส่วนสาเหตุที่ไม่เชิญนักวิชาการ หรือหรือสื่อมวลชนเข้าร่วมการเสวนานั้น ยืนยันว่าเราไม่ได้ปิดกั้นคนภายนอกไม่ให้มาร่วมความคิดเห็น เพียงแต่ขั้นตอนนี้ เราต้องการให้คนที่รู้ในรายละเอียดในประเด็นที่มีการหารือเข้าร่วมเสวนาเท่านั้น จากนั้น ขั้นตอนต่อไปเราจึงเผยแพร่แนวทางการเมืองใหม่ ต่อสาธารณะ


        
ด้านนายพิภพ ธงไชย กล่าวเชื่อว่า หากมีการตั้งองค์กรอิสระขึ้นฯ จะมีแนวทางเช่นเดียวกับคณะกรรมการอิสระที่แก้ไขปัญหา
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน ในสมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีแนวทางการตั้งกรรมการและอนุกรรมการขึ้นมารวบรวมความเห็น ซึ่งเขาคงมาเอาแนวคิดของพันธมิตรฯไปรวมได้ ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีการนำความเห็นของพันธมิตรฯไปร่วมด้วย


        


"อภิสิทธิ์" หนุนปฏิรูปการเมือง


นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปการเมืองน่าจะเป็นทางออกที่ดี เพราะรัฐบาลเห็นว่า รัฐธรรมนูญปี 50 มีปัญหา ขณะที่กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ออกมาเรียกร้องเรื่องการเมืองใหม่ ดังนั้นสิ่งที่จะแก้ไขได้คือ การปฏิรูปการเมืองก่อนที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอยากให้ทุกฝ่ายได้มาหารือกัน ว่าจะมีกระบวนการปฎิรูปการเมืองอย่างไร เพื่อหาทางออกร่วมกัน


 


ส่วนรูปแบบวิธีการนั้น ไม่ควรที่จะมีการตั้งแง่ว่าใครควรจะเป็นเจ้าภาพ อยากให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ในการปฏิรูปการเมือง ซึ่งพรรคฝ่ายค้านพร้อมอยู่แล้วที่จะให้ความร่วมมือ และผลักดัน หากรัฐบาลขานรับทุกอย่างจะเดินหน้าง่ายขึ้น


 


เมื่อถามที่ท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่สนใจในการตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการเมือง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ปฏิเสธ เพราะฉะนั้นนายกฯ น่าจะลองนำไปพิจารณาดูก่อน รวมทั้งพรรคการเมืองต่างๆ คงจะต้องมีการพูดคุยกัน หากพรรคการเมืองตอบรับ จะเป็นอีกช่องหนึ่งในการแก้ไขปัญหาทำให้เดินหน้าได้


 


เมื่อถามว่า หากมีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาปฏิรูปการเมือง จะมีอะไรเป็นหลักประกันให้แก่สังคมได้ว่า จะนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง นายอภิสิทธิ์ กล่าว่า การดำเนินการทั้งหมดต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันทั้งกระบวน และสุดท้ายแรงกดดันจากสังคมและเป็นตัวผลักดันให้การปฏิรูปการเมืองเกิดผลสำเร็จได้ เช่นในปี 2540 ก็มีการกลัวว่านักการเมืองจะไม่เห็นพ้องกับ ส.ส.ร. ซึ่งสุดท้ายกระแสสังคมจะเป็นตัวกดดันให้นักการเมืองได้ดำเนินการตาม ส.ส.ร. ดังนั้น หากมีการวางหลักการให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมจะถือเป็นหลักประกันอีอย่างหนึ่ง


         


"หมอประเวศ"เหมาะสมนั่งประธานฯ       


นายอภิสิทธิ์ กล่าวในประเด็นที่ว่า การปฏิรูปการเมืองที่จะเกิดขึ้นเหมือนกับเป็นการตัดทอนอำนาจของฝ่ายการเมือง และฝ่ายการเมืองจะยอมเสียสละตามที่กระแสสังคมกดดันหรือไม่นั้น จริงๆแล้ว ฝ่ายการเมืองก็ต้องมองเห็นว่า เมื่อมีอำนาจแต่ประชาชนไม่ยอมรับ อำนาจนั้นก็ใช้ไม่ได้ บ้านเมืองก็เดินไปข้างหน้าไม่ได้ แล้วจะมีอำนาจไว้ทำไม หากจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นฝ่ายกาเมืองก็ต้องสนับสนุน ดังนั้นจึงอยากฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน นักวิชากร และกลุ่มพันธมิตร ได้แสดงเจตนาของมาขานรับการปฏิรูปการเมืองร่วมกัน


        


เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ หากมีการเสนอชื่อ นพ.ประเวศ วะสี ราษฏรอาวุโส เป็นประธานคณะกรรมการอิสระในการปฏิรูปการเมือง ในกรอบระยะเวลา 120 วัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่า นพ.ประเวศ เป็นบุคคลที่เหมาะสม ส่วนกรอบระยะเวลาประมาณ 120 วัน น่าจะพอรับได้แต่อาจจะต้องมีการขยายเวลาเพิ่มนิดหน่อย เพราะบางเรื่องต้องใช้เวลา และพิจารณาอย่างรอบคอบ


       


สำหรับกรอบเวลาในการปฏิรูปการเมืองที่คาบเกี่ยวกับคดียุบพรรคการเมืองต่างๆนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรจะต้องแยกกัน การปฏิรูปการเมืองไม่ใช่ปฏิรูปเพื่อช่วยเหลือคดีให้ใคร แต่ต้องการทำให้มีการเมืองที่โปร่งใส ส่วนคดีความต่างๆ ก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่ากรอบเวลา 120 วันไม่ได้เป็นซื้อเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล เพราะการทำงานของรัฐบาลก็ต้องเดินหน้าไปตามปกติ และหากเกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในอนาคต รัฐบาลชุดต่อไปก็ต้องสามารถมารับช่วงต่อการปฏิรูปการเมืองต่อได้ไม่มีปัญหา


       


"มีชัย"จี้รบ.รับข้อเสนอ 24อธิการบดี


นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวเห็นด้วยกับข้อเสนอของอธิการบดี 24 สถาบัน ซึ่งทางออกของการแก้ปัญหาวิกฤตการเมือง เพราะอธิการบดีต่างล้วนเป็นผู้ที่มีความเป็นกลาง ไม่มีการฝักใฝ่ฝ่ายใด จึงถือว่าเป็นความเห็นสุจริตที่น่ารับฟัง แต่จะเกิดผลหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะรัฐบาล ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ สร้างความกังวลใจให้ทุกฝ่าย หากรัฐบาลไม่ตอบรับก็อาจจะทำให้บ้านเมืองบอบช้ำมากขึ้น


 


ขณะที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะขณะนี้มองว่าการเมืองเข้าสู่ทางตัน โดยสังเกตได้จากปรากฏการณ์ที่มีการขับไล่นายกรัฐมนตรีในหลายพื้นที่ จึงเชื่อว่าในที่สุดแล้วรัฐบาลก็ต้องจำเป็นเลือกดำเนินการตามแนวทางนี้


 


 


 


 


--------------------------


 ที่มา : ผู้จัดการรายวัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net