ครม.ทุ่มสุดตัวแจก อปท.-รสก. หัวละ 2 พัน-อัดฉีดเงิน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 100%/ครม.อนุมัติ 607 ล.ปลดหนี้ชาวนา โยกที่ดินในมือแบงก์เข้าแผนฟื้นฟู / IIFชี้วิกฤตเศรษฐกิจรอบปัจจุบัน กระทบไทย-เอเชียแรงกว่าต้มยำกุ้ง /ชี้ญี่ปุ่นอาจเข้าซื้อหนี้รบ.สหรัฐฯแทนจีน

ครม.ทุ่มสุดตัวแจก อปท.-รสก. หัวละ 2 พัน-อัดฉีดเงิน กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน 100%

ASTVผู้จัดการออนไลน์  - นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้หารือซักซ้อมเตรียมความพร้อม ก่อนการอภิปรายการประชุมร่วมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 28 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบเพิ่มเติมโครงการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน และบุคลากรภาครัฐ ให้กับพนักงานรัฐวิสาหกิจ (รสก.) ทั้ง 47 แห่ง และพนักงานราชการในองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ รวมกว่า 38,000 คน ซึ่งจะใช้งบประมาณเดิม 18,970 ล้านบาท

"แต่เป็นงบประมาณที่ให้กับบุคลากรภาครัฐ ที่ ครม.เห็นชอบกรอบงบประมาณไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามหากงบประมาณที่ตั้งไว้ไม่เพียงพอ รัฐบาลสามารถที่จะนำเงินไปเพิ่มเติมในงบกลางสำรอง 4,090 ล้านบาท ที่อยู่ในกรอบ 116,770 ล้านบาท มาจัดสรรในโครงการนี้ได้ในลักษณะของการปรับลดงบประมาณ ดังนั้น พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานราชการ อปท. จำนวน 3.8 หมื่นคน จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ คือ ได้รับเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ 2,000 บาทด้วย โดยต้องอยู่ในเงื่อนไขได้รับเงินเดือนต่ำกว่า 14,999 บาท"นายบัณฑูร กล่าว

ครม.อนุมัติ 607 ล.ปลดหนี้ชาวนา โยกที่ดินในมือแบงก์เข้าแผนฟื้นฟู

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ รักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยหลังเป็นตัวแทนเกษตรกรเครือข่ายหนี้สินชาวนาแห่งประเทศไทย เข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ โดยระบุว่า ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 607 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อหนี้ที่บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซื้อสินทรัพย์ไป คืนมาให้เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 1,187 ราย ซึ่งพร้อมประสานงานกับเจ้าหนี้ทันที โดยมี 1,141 ราย มูลค่าหนี้ 582 ล้านบาท อยู่กับสถาบันการเงินของรัฐ ส่วนอีก 46 ราย อยู่กับบุคคลที่ 3 ที่จะต้องพิจารณาเป็นรายๆ ไป

IIFชี้วิกฤตเศรษฐกิจรอบปัจจุบัน กระทบไทย-เอเชียแรงกว่าต้มยำกุ้ง

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ความปั่นป่วนผันผวนทางการเงินทั่วโลกในเวลานี้ อาจส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่ในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย รุนแรงเสียยิ่งกว่าวิกฤตการณ์ระดับภูมิภาคเอเชียที่เกิดขึ้นในระหว่างปี 1997-1998 ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานะทางการเงินในภูมิภาคนี้จะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมแล้วก็ตาม ทั้งนี้เป็นคำเตือนจากสมาคมของพวกแบงก์และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ระดับโลก

สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (ไอไอเอฟ) ซึ่งเป็นสมาคมของธนาคารและสถาบันการเงินชั้นนำของโลก ระบุว่า วิกฤตการณ์ปัจจุบันนั้น จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความต้องการสินค้าในตลาดโลก โดยทำให้ความต้องการดังกล่าวนี้ลดต่ำอย่างรุนแรง แล้วจึงส่งผลต่อการเติบโตของภูมิภาคนี้ ซึ่งต้องพึ่งพาการส่งออกอย่างมาก

รายงานฉบับนี้ของไอไอเอฟที่นำออกเผยแพร่ในกรุงวอชิงตันเมื่อวันอังคาร(27)ที่ผ่านมากล่าวว่า ภายใต้สภาพแวดล้อมปัจจุบัน ซึ่งผลผลิตทางอุตสาหกรรมของภูมิภาคนี้จะลดต่ำลง จะมีอัตราเร่งและมีนัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจยิ่งกว่าวิกฤตการณ์การเงินเอเชียในช่วงปี 1997-98

"การตกต่ำของผลผลิตอุตสาหกรรมคราวนี้รุนแรงกว่าปี 1997-98 เนื่องจากความอ่อนแอของอุปสงค์ในตลาดคราวนี้ล้ำลึกกว่าคราวที่แล้ว เพราะอุปสงค์ลดต่ำลงทั้งตลาดภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคก็ชะลอตัวลงมาก" รายงานฉบับนี้ระบุ

ชี้ญี่ปุ่นอาจเข้าซื้อหนี้รบ.สหรัฐฯแทนจีน 

ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ญี่ปุ่นอาจตัดสินใจเข้าช่วยซื้อตราสารหนี้ของสหรัฐฯเพื่อสร้างดุลภาพ ในกรณีที่จีนลดการซื้อตั๋วเงินและพันธบัตรรัฐบาลอเมริกันลง เพื่อตอบโต้วอชิงตันที่พยายามกดดันให้ปักกิ่งเปลี่ยนนโยบายค่าเงิน