Skip to main content
sharethis

'บูรณะนิเวศ' เผยพบรายชื่อ ปชช.ที่เคยออกมาต่อสู้เรียกร้องปัญหาผลกระทบจากมลพิษและสิ่งแวดล้อม ถูกระบุในเอกสาร "ประเมินภัยคุกคาม" ภารกิจรักษาความปลอดภัย 'เศรษฐา' ลงพื้นที่ราชบุรี ช่วง 12-13 พ.ค. 67 พร้อมมองว่านายกฯ ต่างหากเป็นภัยคุกคามประชาชน 

 

10 พ.ค. 2567 เพจเฟซบุ๊ก "มูลนิธิบูรณะนิเวศ" ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชนที่ดูแลเรื่องผลกระทบจากสิ่งแวดล้อม ได้โพสต์ข้อความวันนี้ (10 พ.ค.) พร้อมแนบภาพ ปรากฏข้อความ "ประเมินภัยคุกคาม" ภารกิจรักษาความปลอดภัย เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีคิวลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 12-13 พ.ค. 2567 และโพสต์ระบุด้วยว่า ภายในเอกสารกลับมีประชาชนที่เคยออกมาร้องเรียนและเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมในพื้นที่ราชบุรีรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้ มูลนิธิบูรณะนิเวศ ได้มีการโพสต์ภาพประกอบ ปรากฏข้อความว่าเป็นสมาชิก "กลุ่มคัดค้านบ้านหนองตาตั้ง" และ ธนู งามยิ่งยวด และ จำเนียน จินดาโชติ กลุ่ม "ฅนรักษ์ต้นน้ำ" ที่ได้รับผลกระทบการกำจัดสารเคมีจาก บ.กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด 

"นายกฯ ต่างหากที่เป็นภัยคุกคามของประชาชน

"ทั้งๆ ที่คนเหล่านั้นแท้ที่จริงตั้งต้นมาจากการเป็น "ผู้ได้รับผลกระทบ" หรือ "เหยื่อ" ของโครงการพัฒนาของรัฐและโรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นตามแนวนโยบายของรัฐบาลยุคสมัยต่างๆ

“อยู่มาวันหนึ่ง เพียงเพราะนายกฯ จะลงไปในแถบพื้นที่อันเป็น 'บ้าน' ของพวกเขาเพียงแค่ 2 วัน ซึ่งยังไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้เฉียดกรายใกล้ถิ่นที่อยู่ของพวกเขาแม้แต่น้อย แต่กลับกลายเป็นว่า พวกเขาถูกจัดเข้าสารบบการเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ของทางการไปแล้ว” โพสต์ระบุ

โพสต์ของ มูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุต่อว่า หากผู้รับผิดชอบภารกิจด้านการรักษาความปลอดภัยของนายกฯ กล้าตีตราประชาชนง่ายๆ แบบนี้ มีทัศนะแบ่งแยก กีดกัน และเห็นประชาชนเป็นคนอื่นเฉกเช่นนี้ นายกฯ ก็ต้องรู้จักที่จะเลือกใช้งานและเลือกใช้ข้อมูลให้สมกับที่เป็นผู้บริหารประเทศ

ข้อมูลจากโพสต์ของมูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุสำหรับโครงการอ่างเก็บน้ำหนองตาดั้ง เป็นโครงการของกรมชลประทานที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี ต. ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ. ราชบุรี วัตถุประสงค์คือเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ส่วนในด้านผลกระทบ อ่างเก็บน้ำนี้จะทำให้มีพื้นที่ต้องถูกน้ำท่วมประมาณ 2,000 ไร่ ในจำนวนนั้นเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าประมาณ 1,600 ไร่ และพื้นที่ดินทำกินและที่อยู่ของชาวบ้านพุระกำประมาณ 400 ไร่ นั่นหมายความว่า ประชาชนพุระกำที่เป็นคนปกาเกอะญอจะต้องถูกอพยพไปหาถิ่นที่อยู่ใหม่ ถ้าสถานการณ์เช่นนี้เกิดกับตระกูลทวีสิน ท่านนายกฯ จะเห็นด้วยกับโครงการอ่างเก็บน้ำดังกล่าวหรือไม่

"ถ้าคิดแบบเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็น แม้เพียงนิดเดียว นายกฯ ต้องเข้าใจได้ว่า เพียงการลุกขึ้นค้านโครงการดังกล่าวไม่ได้ทำให้ใครคนนั้นกลายเป็น “ภัยคุกคาม” ไปได้ พวกเขาคือคนที่ถูกโครงการของหน่วยงานรัฐคุกคามต่างหาก และกำลังพยายามเรียกร้องหาความเป็นธรรม" มูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุ

ส่วนกรณีของคนกลุ่มรักษ์ต้นน้ำ ต.น้ำพุ อ.เมือง จ. ราชบุรี พวกเขาคือผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของบริษัทแวกซ์ กาเบ็จ รีไซเคิล เซ็นเตอร์ จำกัด ที่เข้ามาตั้งโรงงานบนพื้นที่ต้นน้ำ "ห้วยน้ำพุ" เมื่อประมาณปลายปี 2543 ในชื่อ บริษัท นิ้วเจริญ รีไซเคิล เพนท์ จำกัด

โรงงานก่อให้เกิดน้ำเสียไหลลงสู่ลำห้วยน้ำพุมาตั้งแต่แรก จนกระทั่งประชาชนใน ต.น้ำพุ ที่อยู่ปลายน้ำ และประชาชน ต.รางบัว อ.จอมบึง ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งโรงงาน มีการร้องเรียนเรื่องผลกระทบดังกล่าวตั้งแต่ปี 2544 และร้องเรียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกหลายปีต่อมา จนกล่าวได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหลายและทุกระดับต่างเคยได้รับเรื่องจากประชาชนในกรณีนี้

ประเด็นที่สำคัญยิ่งคือ ผลจากการตรวจสอบของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องต่างๆ ล้วนพบชัดเจนว่า โรงงานกระทำผิดจริง ทั้งในมิติของกฎหมายและการก่อความเสียหาย กระทั่งในที่สุด ศาลแพ่งได้พิพากษาในคดีสิ่งแวดล้อมแบบกลุ่มคดีแรกของประเทศไทย ให้ทางบริษัทเจ้าของโรงงานจ่ายเยียวยาแก่กลุ่มประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย เมื่อปลายปี 2563 แต่จนบัดนี้ ยังไม่มีใครสักคนได้รับเงินเยียวยาแม้แต่บาทเดียว 

มูลนิธิบูรณะนิเวศ ระบุว่า กรณีของ ธนู งามยิ่งยวด เจ้าของสวนลำไยเกรดส่งออกต่างประเทศต้องล่มสลายหายไปทั้งสวน เพราะจากต้นลำไยยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ ด้วยเหตุที่น้ำในลำห้วยน้ำพุปนเปื้อนมลพิษจนไม่อาจใช้มารดต้นลำไยได้

ผลดังกล่าวทำให้ธนู ต้องเปลี่ยนสถานะจากเจ้าของสวนลำไยส่งออก กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัวที่ไม่มีแม้เงินจ่ายค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนมาได้สองสามปีแล้ว และวันนี้ ธนู กลับได้รับการประทับตีตราให้เป็น "ภัยคุกคาม" และแม้มีคำบรรยายชัดว่าเขาคือ "ผู้เดือดร้อน" แต่กลับมีบทสรุปว่า "ปัญหาได้รับการช่วยเหลือ แต่ยังไม่เป็นที่พอใจ"

หากสิ่งที่เกิดขึ้นกับธนู เกิดกับเจ้าหน้าที่ที่จัดทำเอกสารภารกิจรักษาความปลอดภัยแก่นายกฯ อยากรู้ว่า พวกท่านจะ “พอใจ” หรือ “พอเพียง” กับสิ่งที่ได้รับนี้หรือไม่ กลืนลงคอกับความเป็นธรรมเพียงแค่ได้ชื่อว่าชนะคดีหรือไม่

"ที่แน่ๆ ประชาชนกำลังรู้สึกว่าพอกันที และนายกควรเลิกลงพื้นที่ได้แล้ว

"ถ้าท่านจะพอใจเห็นแต่ฉากสวยงาม ความรื่นรมย์ และภาพสร้างทั้งหลายแหล่ โดยไม่เคยแคร์ว่าความจริงเป็นอย่างไร หัวใจผู้คนในประเทศสุข-ทุกข์แบบใด

"ขอจงได้ย้อนกลับไปทำตัวเป็นเซลล์แมนยังต่างประเทศดีกว่า เพราะแม้เปลืองเงินภาษีบ้าง แต่อย่างน้อย ประชาชนที่ทุกข์ยากอยู่แล้วจะได้ไม่ต้องถูกซ้ำเติมเช่นนี้" โพสต์ของมูลนิธิบูรณะนิเวศ ทิ้งท้าย และในโพสต์ดังกล่าวได้แนบลิงก์ข่าวปัญหาในพื้นที่ราชบุรี ให้เข้าไปอ่านได้

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net