เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ชุดใหม่นัดแรกในวันที่ 4 มี.ค.ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานว่า จะมีการรายงานภาวะและแนวโน้มการลงทุนในปี 2552 เพื่อขอรับนโยบายจากนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการบีโอไอชุดใหม่ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 ก.พ. มีโครงการขอรับบีโอไอ 110 โครงการ มูลค่าลงทุน 1.05 แสนล้านบาท โดยมีโครงการขนาดใหญ่ 2 โครงการ เป็นโครงการผลิตไฟฟ้าของเอกชนรายใหญ่ (ไอพีพี) มูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายชายชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมได้ตั้งเป้าหมายการลงทุน 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งสูงมากจากปี 2551 ที่มีมูลค่าขอรับการลงทุนพียง 4.46 แสนล้านบาท ที่ลดลงจากปีก่อนถึง 30% โดยมีเงื่อนไขว่า โครงการเหล็กต้นน้ำมูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท ต้องเกิดภายในปีนี้ ต้องมีข้อสรุปเกี่ยวกับเซาเทิร์นซีบอร์ด รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศและเร่งขจัดอุปสรรคด้านการลงทุน
สำหรับนโยบายด้านการลงทุน บีโอไอเตรียมเสนอมาตรการเร่งด่วนต่อเนื่องมาจากรัฐบาลชุดก่อนที่กำหนดให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการลงทุน ซึ่งต้องฟังนโยบายจากนายกฯ จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นอกจากนี้ จะออกมาตรการเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยเฉพาะกรณีปิดสนามบินสุวรรณภูมิที่สร้างความเสียหายต่อธุรกิจอย่างมหาศาล โดยเสนอให้บอร์ดเห็นชอบนำค่าเสียหายจากการปิดสนามบิน เมื่อวันที่ 25 พ.ย.-9 ธ.ค.51 มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ต้องมีหลักฐานชัดเจน เช่น ค่าปรับ ค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มเติม ค่าโสหุ้ย ซึ่งมีคณะกรรมการกลั่นกรองค่าเสียหายเป็นตัวแทนจากภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : เว็บไซต์ไทยโพสต์
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)