Skip to main content
sharethis

นายกรัฐมนตรีสั่งนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ตรวจโครงการไทยเข้มแข็ง พร้อมเปิดโอกาสให้กรรมาธิการนำเสนอและทบทวน พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท

 

2 ม.ค. 53 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง หลังเกิดปัญหาการทุจริตในกระทรวงสาธารณสุข ว่า ในส่วนของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ตนได้ย้ำไปแล้วว่าเรื่องสาธารณสุขที่เกิดขึ้นนั้นงบประมาณยังไม่ได้ ใช้ แต่เมื่อมีข้อกังขาคงต้องเข้าไปดูจริงจัง และงบฯ ในส่วนอื่นๆ ต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ส่วนกรณีของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ เนื่องจากเรื่องยังอยู่ในสภาฯ จึงให้นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปดูว่าแนวของโครงการไทยเข้มแข็งนั้นจะปรับอะไรได้หรือไม่ ในส่วนของพ.ร.บ. เนื่องจากไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนเท่าพ.ร.ก.ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ ตนจึงถือว่าเป็นโอกาสที่ทางกรรมาธิการจะได้นำเสนอและทบทวนกันด้วย แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่อาจจะยากขึ้น แต่เพื่อให้มีความมั่นใจก็ต้องยอมรับ เพราะนี่คือเหตุผลที่เราเสนอให้สภาฯ เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น ดังนั้น จึงกำลังดูภาพรวมทั้งหมด ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจกำลังเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงไม่มีแรงกดดันในเรื่องเวลาในส่วนของพ.ร.บ. กู้เงิน 4 แสนล้านบาท
         

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาเรื่องการพิจารณาอยู่ที่ข้อกฎหมาย เพราะไม่มีใครสามารถระบุชัดเจนว่า คำว่าเพื่อพิจารณานั้นจะพิจารณากันแบบไหน เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายรองรับ แต่เข้าใจเจตนาของสมาชิกสภาฯ ดีว่าต้องการเข้ามามีบทบาทในการตรวจสอบ และจากเดิมที่เสนอให้มีกรรมาธิการฯ เพื่อให้พิจารณาในรายละเอียดต่างๆ พร้อมเสนอความเห็นมาได้นั้น อาจจะไม่ตรงกับคำว่าพิจารณาให้ความเห็นชอบในรายโครงการจึงติดอยู่ตรงนี้ จึงมีคำถามขึ้นว่าถ้าพิจารณาเป็นรายโครงการ จะมีกระบวนการในการพิจารณาอย่างไร จะให้พิจารณาทีละสภาฯ หรือร่วมสองสภา จะพิจารณาที่ 1 วาระหรือ 3 วาระ หรือจะเห็นชอบเฉยๆ หรือจะแก้ไขเพิ่มเติมได้เหล่านี้เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ปัญหาคือติดอยู่ตรงนี้ แต่ในหลักการตนไม่ขัดข้องที่จะให้สภาฯ มีส่วนร่วมมากขึ้น อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาดูในทุกๆทางเลือก
         

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะเริ่มเดินหน้าเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินและภาษีมรดกได้เมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะให้ความเห็นชอบได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ แต่จะต้องส่งไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาอีก
         

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2553 ว่า ในส่วนของเศรษฐกิจก็ยังยืนยันตัวเลขเดิมคืออยู่ที่ร้อยละ 3.5 ที่เป็นการประมาณการที่คิดว่าสมเหตุสมผล แต่จะพยายามทำให้ได้มากกว่านั้น
         

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะมีวิกฤตโลกซ้อนเข้ามาอีกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตนไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้น เพียงแต่การฟื้นตัวในบางประเทศอาจจะเจอปัญหาที่มีการหยุดชะงักบ้าง เหมือนที่เราเห็นปัญหาในบางจุดอย่างเช่นที่ดูไบ เป็นต้น และมั่นใจว่าเศรษฐกิจประเทศไทยในปีหน้าจะฟื้น เพราะมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจและนโยบายที่เราวางไว้
         

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ารัฐบาลจะสามารถก้าวผ่านปี 2553 ไปได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ถ้าสมมติว่าฝ่ายค้านรับเงื่อนไขผม 7-8 เดือนยุบสภามันก็ไม่ผ่านปี 2553 เรื่องนี้ผมตอบไม่ได้ต้องไปถามฝ่ายค้าน”

ที่มาข่าว:  http://www.thaigov.go.th

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net