Skip to main content
sharethis

 

นายกเต็งเส่ง จุดชนวนสงครามชนเผ่าในรัฐคะฉิ่น
แหล่งข่าวในรัฐคะฉิ่นเปิดเผยคำพูดบางส่วนของนายกรัฐมนตรีพม่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งระบุว่า อาจมีการนองเลือดและการสู้รบกันเกิดขึ้นระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์  ซึ่งคำพูดดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความพยายามของรัฐบาลพม่าที่ต้องการปลุกปั่นให้มีการสู้รบกันเองระหว่างกลุ่มชนชาติชาวคะฉิ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือของประเทศ

แหล่งข่าวยังระบุอีกว่า พลเอกเต็งเส่ง ซึ่งได้ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และขณะนี้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานพรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา (USDP - Union Solidarity and Development Party) ได้พูดสนับสนุนให้ชาวคะฉิ่นหันมาฆ่าฟันกันเอง ในระหว่างที่เยือนจังหวัดปูตาโอ (Puta-O) หรือเรียกปูเตา (Putau) เมื่อครั้งที่อดีตนายกคนนี้ได้พบกับผู้นำชนพื้นเมืองเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

การเยือนในครั้งนั้น พลเอกเต็งเส่งได้พบกับผู้นำชาวราวังและชาวลีซู ซึ่งทันทีที่เข้าพบปะกับผู้นำในพื้นที่ มีรายงานว่า พลเอกเต่งเส่งได้ถามคำถามขึ้นมา 2 ข้อ ซึ่งเกี่ยวข้องกับองค์กรคะฉิ่นอิสระ (KIO - Kachin Independence Organization) โดยตรง 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวซึ่งมีความใกล้ชิดกับชาวบ้านที่เข้าพบปะกับพลเอกเต็งเส่งในครั้งนั้นเปิดเผยว่า “ คำถามแรกที่พลเอกเต็งเส่ง ได้ถามกับผู้นำทั้งสองก็คือ ในอดีตที่ผ่านมา มีคนจำนวนเท่าไหร่ที่ถูกสังหารโดยกลุ่ม KIO ซึ่งเป็นชาวจิ่งเผาะ ซึ่งพลเอกเต็งเส่งก็ได้รับการตอบจากผู้นำชาวราวังและผู้นำชาวลีซู” แหล่งข่าวกล่าว  

ขณะที่ในอดีต ได้เกิดความขัดแย้งระหว่างชาวราวังและชาวจิ่งเผาะจริง ซึ่งมีรายงานว่า ทหาร KIO ซึ่งเป็นชาวจิ่งเผาะ ได้สังหารชาวราวังเป็นจำนวนมาก โดยรัฐบาลพม่าเองพยายามนำประเด็นความขัดแย้งในอดีตนี้ มาทำให้ทั้งสองขัดแย้งกันอีกครั้ง

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า พลเอกเต็งเส่งยังได้กล่าวกับผู้นำชาวราวังและชาวลีซูเพิ่มเติมว่า “ถ้าหากคุณสู้รบกับชาวจิ่งเผาะ เรา (รัฐบาลทหารพม่า) จะจัดหาอาวุธให้พวกคุณเอง” แหล่งข่าวกล่าว 
  
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า นายตังกู ดั่ง หรือที่รู้จักกันในชื่ออาดั่ง ผู้แทนของชาวราวัง ได้นำประเด็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่ม KIO กับชาวราวัง และประเด็นการสังหารชาวราวังในอดีตกลับมาอีกครั้ง และยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลพม่าที่จะช่วยเหลือด้านอาวุธ

นายอาดั่งเป็นนักธุรกิจและเป็นเจ้าของห้องบันทึกเสียง Mali Hka ในเมืองมิตจีนา เมืองหลวงของรัฐคะฉิ่น นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำของกองกำลังทหารราวัง ซึ่งแต่ก่อนรู้จักในนาม กลุ่มต่อต้านกบฏ (Rebellion Resistance Force) ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ในหมู่บ้าน Hkawnglanghpu จังหวัดปูตาโอ

ขณะที่รัฐคะฉิ่นประกอบด้วย 6 เผ่าหลักคือ จิ่งเผาะ ราวัง ลีซู อาชิ และมารู เผ่าที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดคือเผ่าจิ่งเผาะ รองลงมาคือเผ่าราวัง โดยแต่ละเผ่าต่างมีภาษาพูดและวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง และใช้ภาษาจิ่งเผาะเป็นภาษาหลักในการติดต่อสื่อสารกัน

 

ที่มา : Kachin News Group 7 กรกฎาคม 2553

 

 

พม่าแบนนิตยสารลงภาพนางเอกโชว์ขาอ่อน
แหล่งข่าวจากสื่อในกรุงย่างกุ้งรายงานว่า กองตรวจสอบและการจดทะเบียนสื่อ (The Press Scrutiny and Registration Division -PSRD) ของพม่าสั่งแบนวารสารรายสัปดาห์ 2 ฉบับ หลังลงภาพนางเอกในชุดกระโปรงสั้น 

วารสารที่ถูกแบนครั้งนี้คือ วารสาร Popular และวารสาร Envoy โดยทั้งสองวารสารถูกสั่งปิดทำการเป็นเวลา 1อาทิตย์ ทั้งนี้ วารสาร popular เผยแพร่และจัดทำโดยบริษัท Asian Fame Media Group ขณะที่วารสาร Envoy เป็นของนายซินยอ หม่องหม่อง ผู้กำกับหนังพม่า

มีรายงานว่า นิตยสาร Envoy ได้ลงภาพ Su Shoon Lei นางเอกพม่าในชุดกระโปรงสั้น ซึ่งเผยให้เห็นขาอ่อน โดยหลังจากนิตยสารเผยแพร่ออกไป ทางกองตรวจสอบและการจดทะเบียนสื่อได้สั่งลงโทษวารสารฉบับนี้ทันที โดยสั่งห้ามออกวารสารเป็นเวลา 1 อาทิตย์ โดยทางกองตรวจสอบและการจดทะเบียนสื่อของพม่าอ้างว่า ชุดที่นางเอกคนดังกล่าวใส่วาบหวิวขัดกับวัฒนธรรมของชาวพม่า

 ขณะที่บรรณาธิการจากสำนักข่าวในย่างกุ้งรายหนึ่งกล่าวว่า “หากทั้งสองวารสารต้องการกลับมาเผยแพร่วารสารอีกครั้งหลังจากพ้นโทษแบน พวกเขาจะต้องยื่นเรื่องขออนุญาตจากทางการพม่าอีกครั้ง” บรรณาธิการกล่าว

ด้านแหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ กองตรวจสอบและการจดทะเบียนสื่อภายใต้รัฐบาลทหารพม่า ได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการเซ็นเซอร์ต่อสื่อสิ่งพิมพ์ในประเทศ เช่นเดียวกับเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กองตรวจสอบและการจดทะเบียนสื่อได้แบนวารสาร The Voice Weekly และThe First Music Agency journals ชั่วคราวด้วยเช่นกัน หลังทั้งสองวารสารตีพิมพ์บทความโจมตีนางเอกพม่ารายหนึ่ง

อย่างไรก็ตามขณะนี้ มีวารสารจำนวน 200 ฉบับและนิตยสารอีก 150 ฉบับเผยแพร่ในพม่า

 

ที่มา : Irrawaddy/Mizzima

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net