Skip to main content
sharethis

“ภท.” พร้อมโหวตหนุนแก้ รธน. 6 ประเด็น ไม่สนเสียงฝ่ายค้าน ด้าน ส.ว.หนุนกรรมการฯ ชุด “สมบัติ” ชี้ต้องเดินหน้าแก้ รธน.ถอยหลังไม่ได้ ไม่หวั่น ปชป.ค้านเขตเดียวเบอร์เดียว วอนเห็นแก่ประเทศ ดักคอม็อบต้านแก้ รธน.อย่ายึด รธน.เป็นของตัวเอง

 
คมชัดลึกรายงานว่า วานนี้ (25 ต.ค.53) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลในการเกิดปัญหานอกสภาฯ หากไม่มีการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า คิดว่าเมื่อเห็นข้อเสนอที่ชัดเจนแล้วเราเวียนให้พรรคการเมืองต่างๆ ดูและนำผลของการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนดู ประเด็นที่เคยมีความวิตกกังวลกันเช่นว่าแก้ไขเพื่อตัวเองหรืออะไรต่างๆ ทางคณะกรรมการฯ ก็ให้ความเห็นมาแล้วว่าไม่ควรแก้ ฉะนั้นประเด็นพวกนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหา
 
ส่วนที่ยังมีหลายประเด็นยังละเอียดอ่อนอยู่เช่นมาตรา 266 มาตรา 237 ที่ไม่ให้ยุบพรรคแต่มาตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคแทนนั้นนายอภิสิทธิ์  กล่าวว่า อันนั้นเป็นจุดหนึ่งซึ่งต้องพูดกันแต่อย่างที่ตนเรียนว่าถ้าเราจะเริ่มแก้รายละเอียดก็จะวนและไม่จบ อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการฯ ยังไม่ได้ส่งข้อเสนอมาเพราะตนต้องดูก่อนว่าเป็นอย่างไร
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าเบื้องต้นดูว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือต้องแก้ส่วนไหนหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็อาจจะมาพิจารณาอีกครั้งก็ได้ “แต่สิ่งที่ผมพยายามจะทำคือทำอย่างไรก็ได้ให้เรื่องนี้มันจบ ไม่เป็นเงื่อนไขในการที่จะมาถกเถียงกัน แต่อะไรซึ่งไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการ” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
 
เมื่อถามว่าถึงกรณีที่ไม่มีการทำความเข้าใจกับประชาชนดีพอ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “แน่นอนครับ เพราะเป้าหมายทั้งหมดแล้วสุดท้ายต้องการให้บ้านเมืองสงบ ถ้าทำแล้วบ้านเมืองไม่สงบก็ไม่ทำครับ” ส่วนจะทำเรื่องนี้ให้จบก่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนว่ามันมีหลายเรื่องที่เขาเสนอมามันอาจจะไม่ต้องมีความจำเป็นที่ต้องทำก่อนการเลือกตั้ง อันนี้ก็ต้องคุยกัน
 
ต่อข้อถามถึงการสุ่มตัวอย่างของประชาชนกับการทำประชามติ นายกฯ กล่าวว่า มันมีความต่างกัน แต่ประเด็นคือถ้าจะทำความจริงก็ไม่ขัดข้องซึ่งตนเสนอมาตลอด แต่ว่ากระบวนการก็จะยืดเยื้อออกไปแล้วจะมากล่าวหาว่าเราถ่วงเวลาในเรื่องนี้ แต่ทั้งนี้ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งในการพิจารณา พูดคุยกัน
 
ผู้สื่อข่าวถามว่าโดยขั้นตอนแล้วเมื่อผ่านมติ ครม.ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ การเข้าสู่สภาจะทันสมัยประชุมนี้หรือไม่ และสามารถแก้ไขในระยะเวลาเท่าไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้าตกลงกันได้ก็เสนอได้ในสมัยประชุมนี้ แต่ว่ามันก็จะต้องผ่าน 3 วาระ และไม่สามารถทำ 3 วาระรวดได้
 
“ที่สำคัญถ้าไปแตะเรื่องของพรรคการเมืองกับระบบเลือกตั้งก็ต้องไปแก้กฎหมายลูกอีก ซึ่งกฎหมายลูกก็ใช้เวลาหลายเดือนครับ ก็จะเอาเรื่องนี้ไปคุยใน ครม.เพื่อกำหนดกรอบเวลาให้ชัดเจน และสิ่งสำคัญอยู่ที่พรรคการเมือง ถ้าพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันในก็เร็ว ซึ่งที่ผมตอบคือกระบวนการในสภา” นายกฯ กล่าว
 
 
ภท.พร้อมโหวตหนุนแก้ รธน.6 ประเด็น
 
นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ประธาน ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี ระบุว่าคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธาน ได้ทำรายงานสรุปข้อเสนอเบื้องต้นเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญ 6 ประเด็นมาแล้ว และจะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในวันที่ 2 พ.ย.ที่จะถึงนี้ว่า พรรคภูมิใจไทยรับได้กับผลการศึกษาทั้ง 6 ข้อ หรือจะ 2 ข้อก่อน เราก็รับได้ในกระบวนการและหลักการโดยไม่มีปัญหาใดๆ พรรคให้ความร่วมมือทุกอย่างในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการสร้างความปรองดอง โดยส่วนตัวในฐานะประธาน ส.ส.พรรค ไม่ติดใจการแก้รัฐธรรมนูญทั้ง 6 ข้อ แต่ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคจะพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง คิดว่าเมื่อข้อเสนอของนายสมบัติเสร็จและส่งให้นายกฯ ซึ่งเห็นดีด้วย ก็จะส่งเข้าวิปรัฐบาล และเข้าครม.ไม่มีอะไรผิดปกติ จากนั้นเมื่อเข้าสภา ก็จะมีการโหวตเสียงข้างมาก แม้ฝ่ายค้านจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ต้องเป็นเรื่องของเสียงส่วนใหญ่ลงมติเห็นชอบ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในสมัยประชุมนี้
 
 
ส.ว.หนุน กรรมการฯ แก้ไข รธน.ชุดสมบัติ ชี้ต้องเดินหน้าแก้ 
  
นายดิเรก  ถึงฝั่ง  ส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมือง และการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 6 ข้อ ของกรรมการพิจารณาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มีนายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เป็นประธานว่า เห็นด้วย เพราะอยู่ในกรอบแนวทางที่คณะกรรมการสมานฉันท์ได้เคยเสนอไว้ ขณะนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องเดินหน้า คงไม่ต้องมาพูดย้อนหลังว่าควรแก้ไขหรือไม่แก้ไข สิ่งใดที่แก้ไขได้ก่อนก็เดินหน้าไป อะไรที่ยังเป็นปัญหาก็ศึกษาไป ส่วนที่จะทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งใหญ่นั้นตนก็เห็นด้วย เพราะทุกพรรคจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า อย่างไรก็ตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะต้องเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาซึ่งมีกรอบเวลาในการพิจารณากฎหมายอยู่แล้ว
 
เมื่อถามว่า ข้อเสนอให้มีการแก้ไขเขตเลือกตั้งเป็นแบบเขตเดียวเบอร์เดียวซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยนั้น นายดิเรก กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดจากันหลายครั้งซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียเราต้องเอาหักลบกันแบบไหนมีข้อดีมากกว่าก็ควรจะเลือกแบบนั้น ซึ่งในแบบเขตเดียวเบอร์เดียวนั้นจะทำให้คนเก่ง คนดีที่คนในเขตนั้นรักชอบแต่ไม่มีทุนสามารถเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนในเขตนั้นได้ ส่วนที่ระบุว่า เขตเล็กนั้นมีปัญหาซื้อเสียงมาก อยากถามว่า ถ้าเลือกตั้งเขตใหญ่ไม่มีการซื้อเสียงเลยหรือไม่ เขตแบบไหนก็ซื้อเสียงได้ทั้งนั้น เราต้องคำนึงถึงความเป็นจริงดูว่า แบบไหนได้ประโยชน์มากกว่ากันและประเทศชาติสามารถเดินหน้าได้ ซึ่งข้อเสนอทั้ง 6 ประเด็นก็ควรที่จะเดินหน้าต่อไป
 
เมื่อถามต่อว่า เป็นห่วงหรือไม่ที่กลุ่มสีบางกลุ่มประกาศจะชุมนุมเคลื่อนไหวหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายดิเรก กล่าวว่า การชุมนุมต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีทุกครั้ง ตนอยากให้ทุกคนสงบนิ่ง อย่ายึดตัวเองหรือยึดพรรคพวกเป็นหลัก ขอให้ยึดบ้านเมืองและประเทศ เราปกครองประเทศด้วยระบบประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญเป็นแม่บท รัฐธรรมนูญไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของคนทั้งประเทศ เมื่อใช้ไปแล้วเกิดปัญหาก็ควรแก้ไขไม่ใช่แก้ไขหรือแตะต้องไม่ได้ อย่าไปยึดติด หากยึดติดประเทศชาติก็ไม่สงบจะมีปัญหาความวุ่นวายตามมาไม่จบไม่สิ้นและเลิกความคิดที่ว่า แก้ไขเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองเสียที เพราะเรื่องนี้เป็นประโยชน์ของประเทศ
 
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับข้อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ทั้ง 6 ประเด็น ประกอบด้วย 1.มาตรา 237 ให้ยกเลิกการยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเฉพาะตัวผู้สมัครที่กระทำความผิด 2.มาตรา 93-98 ประเด็นที่มาของ ส.ส. ให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 โดยไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำของ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ 3.มาตรา 111-121 ประเด็นที่มาของ ส.ว. ให้กลับไปใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 โดยต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 4.มาตรา 190 ให้คงหลักการเดิม แต่เพิ่มเติมประเภทของหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา 5.มาตรา 265 ให้ ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น ตำแหน่งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรีได้ และ 6. มาตรา 266 ให้ ส.ส. ส.ว. สามารถช่วยแก้ปัญหาประชาชนผ่านส่วนราชการได้
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net