Skip to main content
sharethis

“ยรรยง” พร้อมเปิดโกดังให้ผู้มีความรู้เรื่องข้าวพิสูจน์ ย้ำ ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินชาวนา 17 ก.พ. ยืนยันวิธีระบายข้าวผ่านช่องทางประมูลต่างๆ เหมาะสมที่สุด ธ.ออมสินแถลงพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) กรณีข่าวปล่อยกู้ ธกส.

15 ก.พ. 2557 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังนำคณะสำรวจตรวจสอบโกดังโรงสีข้าวกลางเจี่ยเม้ง และโกดังข้าวทรัพย์เกษตรสยาม อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ทั้ง 2 แห่งเป็นโกดังเก็บข้าวสารสตอกของรัฐบาล ทั้งฤดูเก่าและใหม่ ซึ่งมีปริมาณข้าวสารเก็บฝากอยู่ที่ 24,820.4 ตัน แยกเป็นของเจี่ยเม้ง 13,694.87 ตัน และโกดังทรัพย์เกษตรสยาม 11,125.53 ตัน โดย จ.พระนครศรีอยุธยา มีจำนวนข้าวเปลือกตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนาปีและนาปรัง และแปลงเป็นข้าวสารแล้วทั้งสิ้น 406,631 ตัน โดยมีโกดังกลาง 59 แห่ง

ทั้งนี้ การมาสำรวจครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ทุกฝ่ายเกิดความสบายใจ โดยเฉพาะชาวนาทั่วประเทศได้รับทราบว่า ข้าวสารสตอกของรัฐบาลที่เก็บฝากไว้ยังมีปริมาณครบถ้วน ไม่มีปัญหาการสูญหายในโกดังตามที่มีกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ รวมถึงเพื่อต้องการตรวจวัดคุณภาพข้าวในโกดังทั้ง 2 แห่งด้วยว่า มีคุณภาพข้าวเป็นอย่างไรบ้าง เพราะขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการนำข้าวในสตอกออกมาระบายทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการระบายแบบเปิดประมูลเป็นการทั่วไป การประมูลขายผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) และอีกหลายช่องทาง เพื่อให้ได้เงินจากการขายข้าวครั้งนี้ส่งคืนหน่วยงานต่างๆ เพื่อชำระเงินค่าข้าวให้กับเกษตรกรชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวในการจำนำข้าวกับรัฐบาลต่อไป

นายยรรยง กล่าวว่า รัฐบาลไม่ขัดข้อง หากเกษตรกรชาวนา นักวิชาการ หรือหน่วยงานต่างๆ จะมาดูข้าวของรัฐบาลที่เก็บฝากไว้ในโกดังและไซโล 1,735 คลังทั่วประเทศ ที่มีข้าวกว่า 10 ล้านตัน ยังอยู่ครบถ้วน ไม่สูญหาย ดังนั้น ฝากผู้ที่จะมาดูขอให้เป็นบุคคลที่มีความรู้เกี่ยวกับข้าว เพราะข้าวไทยมีหลายชนิด ซึ่งการดูแลรักษาข้าวของรัฐทุกโกดังมีมาตรการเข้มงวดทุกขั้นตอน และไม่อยากตำหนิสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ออกมาให้ข่าวยืนยันโครงการรับจำนำข้าวมีพฤติกรรมโกงทุกขั้นตอน โดย สตง.มีหน้าที่ตรวจเงิน ไม่ใช่ตรวจข้าว หากมากล่าวหาเช่นนี้ ขอให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้วย และหากจะมาตรวจภาระหนี้ค้างต่างๆ รัฐบาลพร้อมให้มีการตรวจสอบอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ข้าวรัฐบาลที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติและเกิดเพลิงไหม้ มีจำนวน 10 โกดัง กว่า 600 ตัน เป็นมูลค่าเพียง 7.2 ล้านบาท ซึ่งได้ทำประกันไว้ทุกแห่ง และขณะนี้รัฐบาลพยายามที่จะเร่งระบายข้าวทุกช่องทาง โดยยืนยันเกษตรกรชาวนาจะได้รับเงินค่าข้าวที่รัฐบาลค้างอยู่ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป

ส่วนข้อเสนอของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการหาเงินมาจ่ายค่าจำนำข้าวให้กับชาวนา โดยเสนอว่า รัฐบาลควรปล่อยให้ชาวนานำข้าวไปขายให้กับโรงสีราคาตลาด จากนั้นรัฐบาลก็จ่ายเงินค่าปัจจัยการผลิตชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีชาวนาโดยตรง โดยกำหนดราคากลางไว้ที่ตันละ 12,000 บาท เช่น หากชาวนาขายข้าวได้เกวียนละ 8,000 บาท รัฐก็ชดเชยให้ 4,000 บาทเท่านั้น อยากให้ผู้เสนอกลับไปคิดมาใหม่ แล้วใครจะรับผิดชอบกรณีการขนถ่ายหรือขนส่งข้าวออกจากโกดัง ซึ่งปัญหาทางปฏิบัติมีมาก ดังนั้น วิธีการที่ดี คือ การเร่งระบายผ่านช่องทางประมูลต่างๆ จะเหมาะสมที่สุด

นอกจากนี้สำนักข่าวไทยยังรายงานอีกว่าธนาคารออมสิน จะแถลงข่าวเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ให้กับ ธ.ก.ส.วันพรุ่งนี้ (16 ก.พ.) เวลา 14.00 น. ที่สำนักงานใหญ่ หลังมีกระแสข่าวว่า  ธนาคารปล่อยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. นำไปจ่ายให้ชาวนาตามโครงการรับจำนำข้าว โดยมี ก.คลัง ค้ำประกัน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net