'จิราพร' ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ฝาก 'เรืองไกร' ขอข้อมูลประกันรายได้เกษตร เทียบงบ 'จำนำข้าว' ย้ำ เอกสารลับ ประชุม นบข. มีคำสั่งเมินความยุติธรรมชัดเจนไม่ควรพลาด ด้าน 'ภาควัต' ส.ส.ขอนแก่นพรรคเพื่อไทย ชี้ ส.ส.รัฐบาลเหมือนหุ่นยนต์กดปุ่มสั่งได้ อัด ส.ส.รัฐบาลไม่เห็นหัวประชาชนหลังตีตกร่าง พ.ร.บ.เลิกประกาศ คสช.

17 ธ.ค. 2564 จิราพร สินธุไพร ส.ส. จ.ร้อยเอ็ด กรรมการบริหารพรรค และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นขอข้อมูลขาดทุนโครงการจำนำข้าวจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นเรื่องดีที่สมาชิกใหม่ของพรรคพลังประชารัฐให้ความสนใจโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนโยบายสาธารณะ (public policy) โดยข้อมูลดังกล่าวจะช่วยทำให้ประชาชนเข้าใจถึงความคุ้มค่าของโครงการและจะทำให้ทราบว่าที่ต้องใช้งบประมาณมากนั้นเป็นผลมาจากการที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ขายข้าวคุณภาพดีจำนวนประมาณ 18 ล้านตันในราคาต่ำ ซึ่งปรากฎเป็นข่าวกันอย่างอื้ออึงว่าเอื้อการทุจริตด้วยการจัดเกรดข้าวดีเป็นข้าวเสีย

จิราพร กล่าวอีกด้วยว่า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่รอบด้าน ฝากถึงเรืองไกรช่วยขอเอกสารการประชุม (ลับ) ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธาน ระบุสั่งการให้เร่งส่งเรื่องดำเนินการต่อยิ่งลักษณ์ โดย "ไม่ต้องพิจารณาประเด็นยุติธรรม" และนำไปสู่การใช้ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิด พ.ศ.2539 เพื่อยึดทรัพย์ยิ่งลักษณ์ โดยไม่ผ่านกระบวนการทางศาลใดๆ จนยิ่งลักษณ์ ต้องร้องขอความเป็นธรรมจากศาลปกครอง นอกจากนี้ เรืองไกรควรขอข้อมูลการใช้งบประมาณของโครงการประกันรายได้เกษตรกร และโครงการคู่ขนานกับโครงการประกอบของรัฐบาลปัจจุบันที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งรายงานความคุ้มค่าของโครงการด้วย (ถ้ามี)

“หากพรรคพลังประชารัฐจะตรวจสอบความคุ้มค่าของโครงการจำนำข้าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ฝากให้ตรวจสอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ด้วย เพราะใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และเปิดช่องให้เงินรั่วไหลซึ่งอาจจ่ายเงินชดเชยกับผู้ที่ไม่ได้ปลูกข้าวจริงเพราะไม่ต้องนำข้าวมาแสดง และที่สำคัญคือราคาประกันต่ำ ทำให้ชาวนามีรายได้ต่ำ ไม่สามารถยืนยันความคุ้มค่าของโครงการได้” จิราพร กล่าว

ส.ส.ขอนแก่นเพื่อไทย อัด ส.ส.รัฐบาลเป็น 'สภาหุ่นยนต์' ทำตามคำสั่ง 'ประยุทธ์' ไม่เห็นหัวประชาชน

ขณะเดียวกัน ภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประชุมสภามีมติไม่รับหลักการแห่ง ร่าง พ.ร.บ.เลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ. ... ที่เสนอโดยประชาชน หรือ ร่าง พ.ร.บ.ปลดอาวุธ คสช. ของไอลอว์ นั้น ถือเป็นการลงมติที่ไม่เห็นหัวประชาชน ซึ่งทำงานตามสั่งของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องการคงอำนาจของ คสช. ไว้เพื่อปกป้องตัวเองและพวกพ้อง  

ผลการลงมติที่ออกมาชี้ชัดว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับประชาชน และทำลายเกียรติภูมิของสภา ทำให้เป็น 'สภาสั่งได้' และ คสช. ยังคงมีฤทธิ์ควบคุม ส.ส.ได้อย่างชัดเจน สามารถที่จะสั่งสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลได้ แม้หลายประกาศคำสั่ง ของ คสช. ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน

ภาควัตกล่าวด้วยว่าสภาพของสภาในปัจจุบันเป็นเหมือน 'สภาหุ่นยนต์' ที่รัฐบาลสามารถกดปุ่มสั่งการได้ แม้กฎหมายจะมาจาก ประชาชนก็ตาม แต่หากผู้มีอำนาจไม่ให้ค่ากับความต้องการของประชาชน ผลที่ตามมา คือ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลต้องทำตาม ความต้องการของผู้มีอำนาจในรัฐบาล

“ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลทำเช่นนี้ ประชาชนคงหมดความหวังที่จะให้สภาเป็นที่พึ่งหวัง หลังการเลือกตั้งบรรดา ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ไม่เห็นหัวประชาชน เพราะทุกวันนี้ฝ่ายบริหารยึดอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติไปหมดแล้ว สามารถสั่งซ้ายหัน ขวาหันได้ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจสภาส่งผลให้สภาผู้แทนราษฏร ไม่ใช่ที่แก้ปัญหาให้ประชาชน เป็นเพียงตรายางของฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น” ภาควัตกล่าว