ประชาไทลงพื้นที่พูดคุยกับแกนนำนำระดับพื้นที่ในภาคเหนือและอีสาน (อ่านที่นี่) ระหว่างทางก็ได้พูดคุยกับมวลชนเพื่อสอบถามความคิดความรู้สึกด้วยเช่นกัน คนหนึ่งที่น่าสนใจคือ “ป้าแก้ว” ป้าเสื้อแดงในเมืองเชียงใหม่ เธอเป็นอดีตพยาบาลที่เกษียณอายุราชการหลายปีแล้ว เป็นผู้นำชุมชนที่ไม่สังกัดกลุ่มก้อนใด เธอตอบรับมาคุยด้วยพร้อมๆ กับเพื่อนวัยเดียวกันที่มา “ดูแลสถานการณ์” โดยรูปธรรมก็คือ มาช่วยกันตรวจสอบนักข่าวที่จะสัมภาษณ์ และช่วยระมัดระวังไม่ให้ป้าแก้วพูดจารุนแรงเกินไป เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่นั้นยังมีการควบคุมจากหน่วยความมั่นคงอยู่มาก และพวกเธอก็ระมัดระวังตัวในการปฏิสัมพันธ์กับคนภายนอกมากขึ้น
ระหว่างการพูดคุย ป้าแก้วตอบคำถามฉะฉาน ดวงตาแน่วแน่มุ่งมั่นและในช่วงครึ่งแรกไม่ปรากฏร่องรอยแห่งความเป็นมิตร เธอให้สัมภาษณ์ด้วยภาษาท้องถิ่นผสมไทยกรุงเทพฯ เพื่อให้ “คนนอก” สามารถฟังออก เราถอดเสียง “กำเมือง” เท่าที่พอจะทำได้เป็นตัวหนังสือโดยอาจจะไม่ตรงเสียทั้งหมด ส่วนน้ำเสียงท่าทางในการสนทนาของเธอนั้นก็ออกรสอย่างยิ่ง น่าเสียดายที่เธอไม่สะดวกให้บันทึกวิดีโอ นอกจากนี้ยังขอปกปิดชื่อเนื่องจากกังวลถึงผลกระทบที่จะตามมา
0000
สถานการณ์ช่วงนี้ ป้าๆ เป็นยังไงบ้าง
โคตรอึดอัด แล้วมันทำอะไรได้ ถ้าทำอะไรเกิดปัญหาแล้วใครรับผิดชอบ อึดอัดแน่นอน แต่พูดไม่ได้
อึดอัดยังไงบ้าง
ก็ความเป็นอยู่ของเรามันไม่ได้เป็นประชาธิปไตยแบบที่เขาพูด เขามาคืนความสุขหรือเอาความทุกข์มายัดเยียดให้เราก็ไม่รู้ แต่รู้ว่าเราอยู่ลำบาก เศรษฐกิจไม่ดี เราลำบากมาก
ไม่ดียังไง
รายได้มันต่ำลง บ้านเฮาเป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวมันหายไป ความปลอดภัยก็ไม่มี คนยากจนขึ้น ยาบ้าก็เยอะขึ้น
โดนทหารเรียก หรือตามบ้างไหม
ประจำ วันซืนนี้ก็มา เป็นทหารอากาศ ครั้งแรกเป็นตำรวจ ครั้งที่สองเป็นทหาร ครั้งที่สามเป็นทหาร และครั้งที่สี่นี่เป็นทหารอากาศ ถ่ายรูปคู่กันอยู่นี่
ป้าเป็นแกนนำหรือ
ไม่ใช่
แล้วทำไมเขาตาม
เป็นประธานชุมนุมมั้ง
เขาไปทำอะไร
ไปถามเรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งเฮาว่ามันบ่ไจ้ปกติ ไปหาเฮาตลอดแล้วก็หลอกเฮาตลอด ตำรวจเข้าไปก่อนไม่เท่าไหร่ พอทหารเข้าไปครั้งที่สองเห็นรูปทักษิณอยู่ฮั่น ขอให้ป้าเอาลง ป้ายังบ่เอาลงเตื๊อ พออีกครั้ง ไปแหม (อีกที) ขอเอาลงกำ (สักที) คือ ผมทำตามหน้าที่ ป้าก็เอาลงจากข้างบนมาอยู่ข้างล่าง มันทำให้เฮารู้เลย คุณบ่ให้เรายืนเลยก๋า อันนี้มันสิทธิในบ้านเฮานะ ปากคุณว่ามาเยี่ยม มาถามสารทุกข์สุกดิบ สร้างความเข้าใจหื้อมวลชน มันบ่ถูก
นายกคนใหม่เปิ้ลมาศาลากลาง ทหารก็เข้ามาในบ้านป้า มาถามว่ามีความรู้สึกจะใดพ่อง (อย่างไรบ้าง) นายกเปิ้ลมาที่นี่ ป้าก็บอกว่าบ่ฮู้สึกซักอย่าง เขาว่าอะหยังถึงบ่มีความฮู้สึก ป้าไม่มีความฮู้สึกเพราะคนนี้ป้าบ่ได้เลือก ป้าก็เลยบ่ฮู้จั๊ก ก็ยวนตีนเขาไป เขาก็ว่าจะเคลื่อนไหวไหม จะเคลื่อนอะหยังก็ป้าบ่ฮู้จัก ถ้าฮู้จักถึงจะเคลื่อนไหว
เขาโอเคไหม ตอบแบบนี้
โอเค แต่หูเปิ้ลก็แดงพึดๆ ล่ะ ก็มาหาเฮาอันหยังล่ะ แล้วอะหยังต้องมาที่บ้านหลังนี้ตวย สุ่ม สุ่มอย่างใดบ่เข้าใจ ป้าไปยะหยังผิด
ในเครื่องแบบหรือเปล่า
นอกเครื่องแบบคนหนึง ในเครื่องแบบคนหนึ่ง ทหารเข้ามาสองครั้ง สุ่มที่อื่นก็บ่สุ่ม มาสุ่มที่นี่
เขาถามเรื่องการเมืองไหม
ถาม หัน (เห็น) รูปทักษิณในบ้านก็ให้เอาลง ป้าก็เถียงกับทหาร อู้ (พูด) กันเรื่องเอารูปลงน่ะกะ ทหารเขาว่าผมก็อึดอัด ทำตามหน้าที่ อ้าว อึดอัดมันก็เรื่องของคุณ เฮาบ่ได้ฮ้องเรียกคุณมา หื้อที่ยืนชาวบ้านบ้าง อย่าให้มันอึดอัดนักกว่านี้ อึดอัดนักกว่านี้มันบ่ไหวละ บอกเลยเน้อบ่ต้องมาละ แล้วถ้าได้ยินจะมีการเคลื่อนไหวอะหยังก็จะมีพวกนอกเครื่องแบบมานั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้านป้าละ ก็ไอ้หน้าเดิมนั่นแหละ เฮาจำได้ เฮาก็รู้สึกบ่ดีเลย ทำให้เฮาติดลบไปอีก บ่เหลือที่จะยืนแล้ว
กลัวไหม
ไม่นะ มันเป็นความสะใจนะ กูสู้แบบเงียบก็ได้วะ เอามันโตย ลองคิดดู บ้านป้าอยู่แถวคูเมือง วานซืนส่งทหารไปแหม มวลชนสัมพันธ์ ทหารอากาศไปจะสร้างความสัมพันธ์รอบๆ กองบิน บ้านป้ามันอยู่คนละซีกเลย แล้วมันรอบกองบินตรงไหน ป้าบอกว่าว่ามาตรงๆ ดีกว่าจะมายะหยังแหม แหมสุ่มมาอีกแล้วสินะ มาบ้านป้าคนเดียวแถวนี้ มันตลก มีอะหยังอู้มาตรงๆ ป้าบอกว่าคราวหน้าเอาทหารเรือมันจะได้ครบสามเหล่าทัพ
สู้เงียบๆ แปลว่าอะไร
อย่างนี้ไง ต่อต้านมัน มันพยามทำทุกอย่างหื้อเฮาฮู้จักมัน แต่เฮาเฉยๆ บ่ฮู้จัก ไม่สนใจ เวลาจะมีคนสำคัญจะมา มันเข้ามาละ เฮาเลยพอเห็นหนทางจะสู้แบบไหน เฮาบ่มีอาวุธ เฮามีอันนี้ (ชี้ที่หัว) ที่มันกำปืนมา เฮาหันมันกำปืน เงียบได้ก็เงียบ เจียมตัวได้ก็เจียม แต่ที่มันอยู่ในนี้ (ชี้ที่หัว) มันไม่หาย แล้วมันก็สื่อกันแป๊บๆ เดี๋ยวนี้พวกป้านี่ก็เล่นอันนี้กันเก่งแล้ว (หยิบสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่มาโชว์)
เริ่มใช้กันเมื่อไหร่
ตั้งแต่ก่อนอักษะ แต่มันยังใช้ไม่เก่งพอ แต่ตอนนี้แหลมคมทุกคนแหละ คุณบังคับให้ฉันต้องเป็น เราออกไปหาข่าวก็ออกไม่ได้ ต้องหาจากในนี้แหละปลอดภัยที่สุด คุณจะดูดก็ดูดไปเลยเพราะมันไปทั่วแล้ว ถ้ามานั่งรวมๆ กันแบบเก่านี่โดนกันหมด
ลุงๆ ป้าๆ ใช้กันเยอะไหม
ทุกคน แล้วก็เก่งด้วย
ใครสอนป้า
ความจำเป็นสอน ภาคบังคับมันสอน ไอ้รัฐบาลชุดนี้แหละมันสอนให้เรา มันสอนหลายเรื่อง เมื่อก่อนเราไม่สนใจกฎหมาย เดี๋ยวนี้คิดแล้ว จำนำข้าวมันยังไงแน่ จำนำเป็นยังไง ประกันราคาเป็นยังไง ตรงไหนที่ผิด ป้าบ่ได้เก่ง แต่ความจำเป็นมันบังคับจริงๆ คนเสื้อแดงนี่บอกได้เลย ความเป็นจริงเท่านั้นที่ทำให้อยู่รอดมาถึงทุกวันนี้ คุณอย่าโกหก คุณจะมาวอกใส่เฮาบ่ได้ คุณเรียนปริญญาโท ปริญญาเอก สู้ชาวบ้านไม่ได้ เขาคิดเป็น เปรียบเทียบเป็น เขาอยู่กับธรรมชาติกับความเป็นจริงที่สุด
เราเป็นคนที่หาเลี้ยงประเทศ เป็นชาวไฮ่ ชาวนา เสียภาษีเหมือนเขา แบ่งความคิดให้เราบ้าง ให้ความเป็นคนกับเราบ้าง ไม่ใช่คุณจะมาบังคับๆ เฮาถูกบังคับมานักแล้ว จนเฮาคิดได้ว่าที่คุณบังคับนี่เอาเปรียบเฮา
ป้าสนใจการเมืองมานานหรือยัง เคลื่อนไหวทางการเมืองเมื่อไหร่ และอะไรทำให้สนใจ
เพราะความไม่ถูกต้อง ถามว่าสนใจไหม สนใจระดับหนึ่ง บ่ถึงกับต้องมาค้นคว้าใต้ดินขึ้นมา สมัยก่อนอู้อะหยังก็เชื่อ เปิ้ลไปก็ไป แต่ยังไม่ได้คิดว่าไปนี่เฮาได้หรือเฮาเสีย ทำไมเฮาต้องไป มันค่อยๆ ซึมมาเรื่อยๆ เข้าไปในสายเลือด ลึกไปแล้ว คุณทั้งนั้นแหละที่บังคับให้เฮาเป็นจะอี้ จากที่เฮาเป็นคนบ่เอาไหน กินไปเป็นวันๆ ทำจะใดไปเป็นวันๆ เปิ้ลว่าจะใดก็ว่าตามเปิ้ล เขาบังคับให้เฮาละเอียด
เริ่มไปชุมนุมเมื่อไหร่
ไปเมิน (นาน) แล้ว แรกๆ ไม่ถึงกับออกหน้าออกตา ตอนเป็นพยาบาลไม่ได้สนใจการเมืองขนาดนี้ ส่วนมากทางโรงบาลจะเป็นเหลืองเยอะ เฮาเป็นแดง เขาเป็นคนบังคับเราทุกเรื่อง ถ้าไม่โดนบีบเราจะแตกเหรอ คุณทั้งนั้นที่บังคับเรา จากที่แต่ก่อน เออ เอาคิงว่าเถอะ จะเสียยังใดก็เสียไป ว่าใดว่าอั้นกะ แต่เดี๋ยวนี้บ่ไจ้เฮ้ย คิงเอาเปรียบฮานี่ ป้ามองหน้าหนูแล้วยังบ่ไว้ใจ ต้องอาศัยวัดกันที่สายตา ไม่เชื่อที่พูด ใครมาหาถามว่าระแวงไหม ระแวงมาก เพราะเขาทำหื้อเฮาต้องระแวง ไม่ใช่แค่ระวัง
การเมืองพวกเฮาเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ของตัวเอง ปริญญาชาวบ้านนี่แหละ โดนเขกกะบาลทุกวันๆ มันก็เจ็บ วันหนึ่งจะยะจะไดเอามะเหงกออกจากหัวเรา เราก็ต้องสู้บ้าง สู้เรารู้ว่าเขามีปืน ก็ต้องสู้ด้วยวิธีอื่น วิธีไหนก็ทำได้หมด แต่ขอให้เรานึกให้ออกก่อน วันไหนเรานึกออกคุณก็พัง
วันนี้ยังนึกไม่ออก?
นึกออก แต่รอให้มันปืนเยอะกว่านี้ก่อน อย่างมีพ่อค้าแม่ค้าขายของอยู่ข้างถนน ทำมาหากิน คุณเดินเข้ามาบังคับฉันถอดเสื้อ เอาสติ๊กเกอร์ออก ระหว่างที่คุณเดินเข้ามาย่ำยี เฮาก็ต้องนึกหาทางเอาตัวรอดแล้ว ฉะนั้น คุณนั้นแหละสอนให้เฮาแหลมคม แต่ก่อนเราไม่ใช่คนโง่ แต่เราไม่มีปฏิกริยยาโต้ตอบ พอหยวนได้ก็หยวน เพราะมันไม่ได้กระทบเราเยอะ แต่นี่เขาไม่หยวนเลย
ไปชุมนุมนี่ไปยังไง
ทุกครั้ง ไปเองนะ ต้องบอกเลย ไปโดนจับ ล็อครถ 200 คันที่พยุหคีรี ปี 52 หรือ 53 นะ หมู่นี้ไปเขาไปด้วยกัน ถ้าโดนยับ (โดนจับ) ก็โดนกันยับ บุกบุกด้วยกัน
มวลชนมีพัฒนาการไหมในความคิดป้า
จริงๆ เราพัฒนานะ จากที่เฮาเล่นบ่เป็น เฮาก็เป็น แล้วก็ละเอียดโตย คนไหนมาแปลกๆ เฮารู้ก็ส่งกันเลย พัฒนาเยอะมาก เราสื่อกันตลอด มาตรา 112 นะ ระวังนะ
สนใจการเมืองจริงจังเพราะรักทักษิณ หรือเพราะอะไร
นโยบายต่างหากที่ทำให้เราคงทน แล้วเราไม่ตีจาก เพราะเฮาได้ฮับผลประโยชน์จากนโยบายนั้น น้องจะฮื้อสู้อะหยัง เอามือจกกระเป๋าฮื้อเปิ้ลยะทุกวันนี้ ป้าบอกว่าป้าอยากเอาบักกอกนี่มันออก เพราะเราเจ็บทุกวันๆ ทุกวันนี้เราเจ็บไหมก็ยังเจ็บอยู่กับนโยบายเฮงซวยนี่แหละ แล้วยังมาพูดทุกวันศุกร์ (เพื่อนป้าทักว่าให้สัมภาษณ์แรงไป) ไม่เป็นไร เอาลงเลย อ้าว อยากได้ความจริงใช่ไหม ถ้าคุณคิดว่าจะทำให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงได้ ลงไปเลย
ไปร่วมชุมนุมครั้งแรกปีไหน
ป้าเป็นคนปราศรัยอยู่นี่ เขาไปกันก็ไปเลย เมื่อก่อน 51 มันดัง ป้าบ่ได้เป็นดีเจ แต่เพื่อนยุขึ้นไปพูด เฮาก็เฮียนฮู้
สังกัดกลุ่มไหนเป็นพิเศษในเชียงใหม่
เราไปได้หมด ตามหลักแรกเริ่มเดิมทีมีแต่ 51 แล้วมันแตกสาขา แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้ไปแล้ว เขาคงเปลี่ยนไปแล้ว แต่จิตใจเรามันคงเดิม เสื้อแดงมีแต่ความถูกต้อง ถ้าบ่ถูกต้องเฮาถอย แต่เฮาบ่ทำร้ายกัน แต่ถ้าเมื่อใดคุณทำร้ายเฮาก็พังเหมือนกัน ถ้าคุณเปลี่ยนจากเคยเดินเส้นนี้เปลี่ยนเบนไปนิดหนึ่ง เราก็รู้แล้วถอยอกมา เฮาบ่ฆ่ากัน
อยากถามอะไรถามมาเลย จะได้โดนคุกด้วยกัน แต่โอเลี้ยงไม่เอา ข้าวผัดป้าไม่ชอบกิน
(ประชาไท- เพื่อนป้าบอกว่าอันไหน “แฮง” เปิ้ลเอาออกอยู่แล้วเพราะเปิ้ลจะโดนก่อนเฮา..จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการสอบสวนนักข่าวว่าเอาไปลงที่ไหน ทำอะไร คุยกับใครบ้าง จุดมุ่งหมายคืออะไร)
ตอนนี้ท่าแปก็ยังมี ช้างเผือกก็มี ค่ายทหารย้ายมาฮั่นน่ะ แล้วก็อีกหลายที่ วันก่อนที่หน้าสามกษัตริย์ เพลงชาติออก ป้าก็เดินแอ่วแถบนั้นเน้อ ทีนี้เพลงชาติออก ป้าก็ยืนตรง เราคนไทยก็ทำหน้าที่ของเฮาแค่นี้ แต่ทหารมันยกมือตะเบ๊ะแล้วก็ฮ้องเพลงชาติตวย แล้วมันก็แลมาทางป้า ป้าก็บ่ฮู้ว่ามันจะยะหยัง “ป้าเป็นคนไทยก่อ เป็นอะหยังบ่ฮ้องเพลงชาติ” โฮะ!!! มันเกี่ยวอะหยังกับเปิ้ล ป้าอู้กลับ “ป้าก็เป็นคนไทย ป้าฮ้องได้หมดหล่ะ อะหยังต้องมาฮ้องตะโกนโหวกๆ เหวกๆ อันหยังต้องมาบักแบน (เจาะจง) กับป้าต๋วย” คิดดูจะให้ฮ้องปากพะงาบๆ กับมัน แบบนี้มันยวนตีนก่อ ป้าก็สวนกับมัน ป้าบ่ฮ้อง ยืนตรงนี่ก็ดีแล้ว ดูสิ มันทำให้เฮาเก่งขึ้น ฝืนไหม ฝืนนะ เวลาเพลงชาติออกนี่อยากวิ่งเลย ถ้ายะเป็นหมู่เป็นเหล่าก็จะยะอยู่ แต่นี่กลัวมันจับแล้วบ่ปล่อย
ตอนบรรยากาศยังเปิดมีการจัดกลุ่มแลกเปลี่ยนกับคนในชุมชนไหม
ถามว่าทำไหม ด้วยปฏิกริยาและลักษณะของเราเขาก็ตัดสิน บังคับให้เราเป็นผู้นำ แต่ตั้งแต่ไม่มีเสื้อแดงเฮาก็ช่วยกันเรื่องน้ำท่วม เรื่องอื่นๆ มันสื่อสารกันอยู่แล้ว
ในชุมชนเป็นแดงหมด?
เชียงใหม่มันแดง แต่บางคนก็จางไปหน่อย หรืออีกส่วนก็คือเฉยๆ
ไปปราศรัยกลุ่มไหนบ้าง
เชียงใหม่ 51 นี่ไปเรื่อย ใครเขาจัดอะไรที่ไหนก็ไปหมด อย่างดีเจอ้อมเราก็ไม่ชอบนิสัย ไม่ค่อยเห็นหัวใคร คนแก่คนเฒ่า อยากด่าเปิ้ลด่าเลย แต่ว่าเวลามีงานอะไรของเขาเราก็ต้องไป เพราะคนเสื้อแดงแยกแยะได้
เวลาปราศรัยป้าพูดเรื่องอะไร
ด่า (ยิ้ม) ถ้ามีเรื่องอะไรที่จะอู้ได้ก็อู้หมด เรื่องความถูกต้อง ยืนหลังรถกะบะ เป็นแม่หญิงคนเดียว กลางคืนเฮาก็ต้องดูบอลละ ลีกอะหยัง จะได้เอามาอู้ผสมผสานกับการเมือง
ดูบอลด้วย?
อู้เปรียบเทียบไง เฮาต้องเอาเข้าเนื้อให้ได้ คนชอบนะ จากที่บ่เคยดูบอลก็ต้องดู แล้วคาดคะเนฟังจากหมู่ที่เขาเชี่ยวชาญ พยายามจำแล้วเอามาผสมกับการเมือง คนชอบฟังมันเหมือนเป็นคนทันสมัย
ทำไมไม่เป็นดีเจไปกับเขาเสียเลย
ไม่ชอบ ตอแหล ไม่ชอบหลายอย่าง เคยจัดรายการครั้งหนึ่ง เขาให้ไปแจม
(ประชาไท - เพื่อนป้าช่วยเล่าถึงตอนเชียงใหม่ 51 ตั้งเวทีใหม่ๆ ว่าพวกป้าๆ นั้นแอคทีฟขนาดไหน อยู่ที่ไหน ทำอะไรก็จะต้องไปร่วม ขายของอยู่ก็เลิกขาย ไปช่วยงาน ไปฟัง ไปบริจาค และเล่าว่าการบริจาคของชาวบ้านนั้นเป็นกอบเป็นกำมาก)
ถึงบอกว่าหมู่เฮามันมีสายสัมพันธ์ลึกๆ ถ้าถามว่าหมู่เฮาจะยะอะหยัง ตอนนี้เฮาตอบบ่ได้ แต่ถ้าเหตุการณ์มาจริงๆ แล้วเฮาจะบอก เสื้อแดงบ่ไจ้คนขี้กลัว ทุกวันนี้เรานิ่ง เราไม่ใช่หยุด เราพร้อมที่จะสู้ เพียงแต่รอจังหวะแค่นั้นเอง วันหนึ่งข้างหน้าคงจะเป็นโอกาสของเราบ้าง
อีกนานไหม
คุณทำสิ คุณทำอะไรออกมาสิ แล้วโอกาสนั้นจะมาถึง เขามายะเฮาก่อน เฮาจะสู้ เมื่อก่อนถ้าเขาไม่ยะแล้วเฮาจะรวมตัวกันได้ขนาดนั้นเหรอ เมื่อใดมีอะหยังจวนตัวก็เอาไงเอากัน จริงๆ เสื้อแดงบ่มีแกนนำ แต่ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเมื่อใดมันไปกันเองหมด แล้วก็ห้ามบ่ได้ด้วยนะ แกนนำก็ห้ามบ่ได้ เพียงแต่จุดหนึ่งเราอนุญาตให้เขาเป็นตัวประสาน บ่ต้องมาสั่งเฮา ถามว่าเวลาจะเข้ากรุงเทพฯ รถมีก่อ เอาจนมีจนได้ บ่ต้องห่วง
ที่ผ่านมาสู้มานาน เจ็บก็มาก ตายก็เยอะ ...
ถามว่าหยุดไหม ไม่หยุด
มีการนั่งคุยกันบ้างไหมว่าผิดพลาดจุดไหนหรือเปล่า
คิดไปเป็นวันๆ คิดว่าวันนึงต้องเป็นของเราบ้าง เพราะเราขยับปุ๊บ มาตรา... ขยับปุ๊บ มาตรา.... มันถอดบทเรียนได้ว่า อย่าเพิ่ง มันยังไม่ถึงที่สุด จะให้ตอบเดี๋ยวนี๋ว่าจะทำอะไรต่อ ไม่คิด ทำมาหากินไปก่อนเพื่อรอวันนั้น
ที่ผ่านมามองบทบาท นปช. ยังไง โอเคไหม
เขาก็ทำดีที่สุดของเขา ป้าตัวแค่นี้ยิ่งกว่ามดเขายังทำป้าได้ขนาดนี้ ถ้าขนาดตัวใหญ่อย่างนั้นล่ะ ลูกเมียครอบครัวเขาล่ะ จริงๆ เขาอยากเป็นแกนนำไหม ไม่ เขามาเป็นตัวเชื่อม จริงๆ เขาเป็นลูกล่อให้พวกประชาชนด้วยซ้ำไป เขาเป็นตัวล่อ
บทบาทพรรเพื่อไทย ทักษิณ คิดยังไง
ถ้าเขามีโอกาสเขาคงช่วยเราได้เยอะกว่านี้ เราเรียนบทเรียนไปเรื่อยๆ นายกฯ ปูจะโดนอีกแล้ว เรามองแล้ว เอาสิ ลองดูสิ มันเหมือนการท้าทายในด้านความคิดเรา ให้เราฉลาดขึ้น รอบคอบขึ้น อย่าตก ถ้าตกถ้าพลาดเราอาจไม่มีโอกาสได้รอด
ถามมา จะถามอะไรอีก แค่เป็นนักข่าวลองเอียงข้างหน่อย พูดเพื่อไทยมากหน่อย ก็โดนแล้ว แล้ววันก่อนนายกฯ เขาเอาตุ๊กตาอะไรขว้างใส่ล่ะ
(ประชาไท- นักข่าวหัวเราะ)
นักข่าวก็ต้องการอยู่รอด ก็เหมือนป้าตอนนี้ก็ต้องอยู่ให้รอด หนทางบ้านป้าเข้ายากจะตาย เขายังเข้าไปจนได้ ป้าก็อาศัยอ่านส่งข้อมูลในโทรศัพท์นี่ในหมู่เฮากันเอง เครื่องไหนบ่ทันใจเปลี่ยนใหม่เลย หมื่นสองหมื่นซื้อเลย ทำไมอืดวะ บ่ได้คึดถึงเน็ต โอ๊ย บ่ทันใจ ซื้อใหม่ละ ป้านี่มี 7 เครื่องละ
(หัวเราะ) ทำไมมีตั้ง 7 เครื่อง
มันช้า อันที่ซื้อล่าสุดนี่ 23,000 (ยิ้มภูมิใจ)
เร็วทันใจขึ้นมั้ย
เด๋วดูก่อน ถ้ามันช้าอีกก็มองๆ เหมือนกัน “แม่ๆ อย่าๆ พอแล้ว” ลูกมันก็พูดอย่างนี้ เปิ้ลสอนเฮาอะ ทำให้เฮาฉลาดขึ้นแล้วเร็วขึ้น เดี๋ยวนี้บ่ต้องได้ยินเสียงทะเลาะกันนะ ผัวเมีย นั่งเป็นหมู่นี่ก็ก้มหัวละ ขนาดประชุมก็ก้มหัวละ
สังคมก้มหน้าไม่ใช่แค่วัยรุ่นแล้วสินะ
ก้มโคตรก้มเลยล่ะวัยป้านี่ เพื่อนเฮาบ่เคยมีถึง 500 เดี๋ยวนี้จะเป็นพัน โต้ตอบกันดึกดื่นค่อนคืนไม่สน จริงๆ รัฐบาลชุดนี้เฮาก็ต้องขอบคุณเขาทำให้เฮาเล่นเป็น ด่าเขาในไลน์กับหมู่เฮาส่งใส่กัน (หัวเราะ)
ป้าก็อยากจะถามนักข่าวว่า เห็นเสื้อแดงเป็นจะใด
(หัวเราะ) ที่จริงก็ตามเรื่องนี้มานานแล้ว พอเข้าใจอยู่ ทัศนคติกับเสื้อแดงมันก็แล้วแต่นักข่าวแต่ละคน ขอถามนิดหนึ่ง เชียงใหม่นี่แดงเข้มข้นมาก สงสัยว่าประชาชนทั่วไปจะอยู่ยังไงกับคนที่คิดต่าง คิดไม่เหมือนกัน
อย่าพูดเรื่องการเมืองเราก็อยู่กันได้ ถ้าสีเหลืองจะพูดก็ต้องให้คำตอบให้ได้นะเวลาพูดเรื่องโกง แล้วก็ต้องให้เราตอบโต้ได้
(ประชาไท – แม่ค้าที่ร่วมฟังการสนทนาด้วยเล่าแทรกขึ้นมาว่า มีลูกค้าเสื้อเหลืองชอบมาพูดกระแนะกระแหน ทำให้ตอนหลังเวลาเขาขับรถผ่าน แม่ค้าก็ตะโกนเสียงดังว่า “ควาย” จากนั้นลูกค้าและแม่ค้าไม่พูดกันอีก กะว่าจะไม่เผาผีกัน แต่ตอนหลังลูกค้าเข้ามาเริ่มพูดด้วยอีกครั้งก็เลยคุยกัน)
อยู่บ้านเดียวกัน รู้ว่าเป็นเหลือง ก็อย่ามาทำอย่างนี้ เฮายังบ่ได้ไปอู้ต่อหน้าเปิ้ลเลย เฮาบ่เคยไปเยาะเย้ย ไปถากถาง ถ้าไม่ทำอะไรก็อยู่กันได้ แต่บ่สนิท ถ้าอู้กันก็อู้ดีๆ ถ้ามาเยาะเย้ยนี่ของขึ้นเลย ขึ้นทันที ถ้าเขาบ่กระทบเฮาบ่มีปัญหา
ถ้ามีเลือกตั้งพรรคอื่นจะมาหาเสียงได้ไหม
ก็หาไปสิ ถ้าคุณไม่มาทำลาย ใส่ร้ายป้ายสีฉัน
จะไม่ไปไล่เขาใช่ไหม
ถ้าไม่กวนตรงๆ ก็ไม่ไล่ ฉันบ่เลือกและฉันบ่ไล่
ช่วงปีก่อนๆ ที่แรงๆ ไปไล่คนนั้นคนนี้ คนข้างนอกก็วิพากษ์วิจารณ์กัน
มันก็ดูแรง อย่างฮ้านโจ๊ก เสื้อแดงผ่านไป เราก็ไม่ได้ทำอะไร แต่เจ้าของร้านมาโย้ใส่ เฮาก็ลงกันหมดเลย ด่ากัน เฮาบ่เคยยะเขาก่อน ถ้ามาป่วนเราโดนเลย ต้องไปไล่
แค่ไล่เฉยๆ ใช่ไหม
ไล่เฉยๆ แต่คนแรงมันก็มี มันโกรธ ก็ต้องเห็นใจกัน คนเราความโกรธความเกลียดชังมันไม่เท่ากัน บางคนเก็บได้ บางคนก็เก็บไม่ได้ อย่างป้าดูเหมือนผู้ดี๊ผู้ดีอู้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ถามว่าจริงๆ เก็บได้ไหม บางครั้งถึงเวลาก็เก็บไม่ได้เหมือนกัน ยิ่งมีเพื่อนเยอะยิ่งไปกันใหญ่
ช่วยอธิบายความโกรธหน่อย ทำไมไม่พยายามโต้เถียงกันดีๆ ใช้เหตุใช้ผล
คือ เราสู้มาตั้งนาน เราลองมาหมดแล้ว พวกคุณไม่เห็นกันเอง แต่ที่อู้กันตะกี้ สรุปเลยก็คือถ้าคุณไม่แสดงปฏิกริยาอะไรที่แสดงให้รู้ว่า คุณดูถูกฉันนะ ก็ไม่มีอะไร เพราะทุกวันนี้เราเจ็บปวดอยู่แล้วกับเหตุการณ์ มันทับถมเราทุกวัน มันทำฮื้อเฮาเก็บเงียบ เมื่อเก็บเงียบแล้วคุณมาเปิดแผลฉัน ถามว่าน้อง มันจะบ่ลงเลยเหรอ ป้าบ่ได้โง่นะ แต่ป้าอดทนมาตลอด วันนี้ป้าจะบ้าง มันจะเป็นไร แต่ถ้า “บ้าง” ของเราเขาบอกว่าแรงเกินเหตุ เขาก็บ่คึดถึงหัวใจเฮา หมู่นี้มันเจอมาแบบเจ็บปวดทั้งนั้น
(ประชาไท- แม่ค้าคนเดิมเล่าให้ฟังว่าโครงการ 30 บาททำให้น้องชายเขาได้ฟอกไตไม่อย่างนั้นคงตายนานแล้ว และตัวเขาเองจากที่ยากจนก็สามารถกู้เงินในระบบที่ดอกเบี้ยต่ำได้ ครั้งแรกกู้มาสามหมื่น ครั้งที่สองกู้ห้าหมื่น ครั้งที่สามกู้หนึ่งแสน กู้สามครั้งมาลงทุนเปิดร้านขายของจนตั้งตัวได้และไม่ต้องการกู้แล้ว ตอนนี้มีบ้านของตัวเองผ่อนหมดแล้วราคา 3 ล้าน จากที่เมื่อก่อนเช่าบ้านเขาอยู่และกู้นอกระบบดอกเบี้ยร้อยละ 20 )
คนที่ได้สัมผัสนโยบายมันลึกมาก มันเหมือนคืนชีวิตให้เลย พวกคุณไม่เข้าใจ เพราะคุณบ่ได้ยะนา ฉันน่ะที่ลำบากเอาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน พวกรุงเทพมันคนรวยไง ถ้ามึงบ่มีรากหญ้ามึงจะได้กินพริกกินข้าวกินเกลือก่อ อู้แล้วก็ขึ้นละ...อย่างเฮาไปเสื้อแดงนี่นะ เฮาบ่เคยได้ เฮาเสียด้วยซ้ำ แต่เฮาเต็มใจ๋ แล้วไปถึงปู้นก็ฮักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง จากคนละทิศละทาง ตอนนี้ก็ยังติดต่อกัน มีเพื่อนเกือบทุกจังหวัด เฮาสามารถไปนอนบ้านเปิ้ลได้ ถ้าเขามาเที่ยวเหนือเราก็พาเขาเที่ยว เราไปอีสานเขาก็พาเราเที่ยว มันเหมือนพี่เหมือนน้องแล้วจากที่บ่ฮู้จักกัน”
(ประชาไท – ป้าซึ่งเพื่อนป้าแก้วอีกคนเล่าว่า หลังเลิกชุมนุมปี 53 แล้วกลับบ้านไม่ได้ ป้าบอกว่า “มันทำใจบ่ได้ มันอัดอั้นบอกบ่ถูก” ป้าจึงอพยพไปนอนบ้านเพื่อนเสื้อแดงในกรุงเทพหลายต่อหลายบ้าน กว่าจะกลับเชียงใหม่ใช้เวลาเป็นเดือน จนคนแถวบ้านนึกว่าตายไปแล้ว “ทีแรกเฮาก็อยากรู้ว่าอะไรเป็นอะไรตั้งแต่ปี 49 แล้วมันมาจบแบบนี้” ป้ากล่าวพร้อมน้ำตาซึม)
ทำไมหมอพยาบาลส่วนใหญ่อยู่ตรงข้ามกับป้าหมด
ผลประโยชน์เสียไปไง
ใช่หรือ ป้าอคติรึเปล่า
ใช่แน่ เพราะทักษิณทำให้สามสิบบาทดัง แล้วพวกนั้นหากินไม่ได้ จริงๆ พวกหมอพยาบาลน่ะไม่ได้โง่ คิดแค่สั้น พยาบาลนี่บ่เต้าใด แต่หมอนี่ อาชีพเขาเฉพาะตัวมาก มันโดนตัดโอกาสในอาชีพอื่น คนที่เรียนเก่งจริงๆ เท่านั้นถึงจะได้เป็นหมอ แล้วเป็นอาชีพที่ไปทางอื่นบ่ได้เลย ยะอย่างอื่นบ่ได้เลย วิศวะยังไปทางอื่นได้ เปิดบริษัทได้ แต่หมอนี่ทำธุรกิจได้อย่างมากก็แค่โฮงยากับคลินิค แต่พอมีนโยบาย 30 บาท เขาก็เสียผลประโยชน์
คนสงสัยว่าคนเชียงใหม่ยึดติดกับตัวทักษิณอยู่ไหม
อะหยังก็ช่าง ทักษิณมาเป็นตัวที่ทำฮื้อเฮาเห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเท่านั้นเอง แต่เราก้าวไกลกว่านั้น เสื้อแดงไปเยอะแล้ว เอะอะอะหยังก็วกเอาทักษิณเข้ามาเกี่ยวกับเสื้อแดง นายกปูก็บ่เกี่ยวแล้ว อะหยังก็ตามต้องเอาความจริงมาพูดกัน
ป้าพูดแค่ตัวป้าหรือเปล่า มวลชนทั่วไปเขาคิดแบบป้าไหม
มวลชนส่วนใหญ่เขาก็พ้น พ้นมาเมินแล้ว มีอันหยังเฮาอู้กันมาเมินแล้ว ถามว่าแค่ทักษิณเอาเสียงมาอู้แล้วเฮาต้องไปยอมตายแทนเปิ้ลกะ มันบ่ไจ้แล้ว ทักษิณชวนเฮาก็บ่ไจ้ เฮาไปเอง เฮาเต็มใจ เฮาโดนยับ ทักษิณช่วยก่อ ฮึบ่ได้ช่วย เฮาไปเองรับผิดชอบตัวเอง เราสูญเสียอะไรเราพร้อมจะแลกถ้าความไม่ถูกต้องมันเกิด ส่วนมากเป็นอย่างนี้บอกได้เลย แค่คุณคิดว่าเราบ่พ้นทักษิณ คุณคิดผิด คิดผิดมานานแล้ว เฮาถึงบอกว่าเฮาเป็นตัวของตัวเก่าแล้ว (เป็นตัวของตัวเอง) เฮาเป็นคนเชียงใหม่แล้ว คำว่าความถูกต้อง ประชาธิปไตย จากที่เฮาบ่เคยฮู้ว่ามันคืออะหยัง คนที่เป็นคนถอดบทเรียนเฮาเป็นคนแรกคือทักษิณ ทำให้เฮาฮู้ว่าตัวตนเรามีอะไร เราต้องการอะไร คุณกับฉันมีค่าเท่ากันคือคะแนนหนึ่งเสียงเหมือนกัน แต่คุณทำไมมาเหยียบเรา หนึ่งเสียงเฮานี่บ่มีความหมาย แล้วคุณมาอู้ได้อย่างใดว่าคุณกรุงมีความฮู้นัก เหมาะจะเป็นอันนั้นอันนี้ ตอนนี้ทุกอย่างเราก้าวพ้นมานานแล้ว นานจนความชั่วของคุณโผล่มาให้เราเห็น แท้น่ะ ความเกลียดชังเฮาบ่ได้เอาที่ตัวบุคคล ความฮักก็ด้วย เฮาบ่ได้ฮักทักษิณแบบโอ้โห เพราะเปิ้ลบ่ได้ฮื้ออะหยังให้เฮาแล้ว แต่ที่ผ่านมาเปิ้ลฮื้อนโยบายที่ดี ฮื้อความเป็นคน ฮื้อเฮาคิดได้ ได้ใช้สมองเอง คุณยึดไปสิ เงินทักษิณ เฮาบ่ได้ว่า ถ้าคิดว่าอะไรมันถูกก็ทำไป แต่เมื่อเราโต้กลับมันจะเกิดอะไรขึ้น เพราะคุณยัดเยียดทุกอย่างให้เรา เราตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าผิด ชอบก็ว่าชอบ ถึงคุณผิดคุณกลับมาเราก็ให้อภัย แต่คุณไม่ให้อภัยเขาเลยคุณตอกย้ำเขาโกงๆๆๆ โกงพ่อมึงที่ไหน สำหรับคนจนแล้วเขาให้ความเป็นคน ฮื้อศักดิ์ศรีกับคนจน ให้เรายืนอยู่แนวหน้าได้บ้าง เราไม่ได้จะยืนทั้งหมด เราขอยืนบ้าง คุณทำแบบนี้จะไปเหลืออะไร ความเกลียดชังก็สะสม ถ้าคุณยังทำอย่างนี้มันก็ไม่ผ่อน จะหนักขึ้นๆ คุณทำฮื้อฉันทุกวันนี้หายใจยังแทบหายใจไม่ได้เลย ไม่เป็นไร เขาทำให้เรากร่อน แต่อย่าลืม กร่อนไปแต่ที่เหลือมันแหลมคม จนตอนนี้เฮาเริ่มฮู้ว่า เฮาเป็นคน เฮามีศักดิ์ศรีและมีวันเอาคืน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)