เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. เปิดเผยความคืบหน้าในคดีระเบิดที่ศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อกลางเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีนี้ได้เพิ่มเติม มีทั้งคนไทยและต่างชาติ แต่ขณะนี้ยังอยู่ในความควบคุมในต่างประเทศ ซึ่งยังอยู่ระหว่างการประสานงานของอัยการ และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นคดีความมั่นคงและเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับคดีนี้สามารถจับผู้ต้องหาได้เพียง 2 คน คือ นายอะเด็ม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู ซึ่งขณะนี้อัยการอยู่ระหว่างการตรวจสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนส่งให้พิจารณากว่า 8,000 แผ่น ส่วนผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการนี้ ศาลได้อนุมัติหมายจับรวมทั้งหมด 17 คน ซึ่งมีทั้งคนไทยและต่างชาติ รวมอยู่ในจำนวนนี้

มีรายงานข่าวว่า ขณะนี้มีการควบคุมตัว นางวรรณา สวนสัน หรือนางไมซาเราะห์ ชาวจ.กระบี่ หนึ่งในผู้ต้องหา และนายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู (Emrah Davutoglu) ชาวชาวตุรกี สามีนางวรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ และครอบครองวัตถุระเบิดฯ ทั้งนี้ หลังจากทั้งคู่เดินทางไปยังประเทศตุรกีก่อนเกิดเหตุระเบิด โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่า นางวรรณาเกี่ยวข้องในการเปิดห้องพัก-เช่าบ้านให้กลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพื่อนของสามี อย่างไรก็ตาม ตำรวจไทยอยู่ระหว่างการประสานขอตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี

โฆษก กต. เผยยังไม่ได้รับการประสานงาน จากสถานทูตไทยในตุรกี

ขณะที่ วันเดียวกัน( 3 ธ.ค.58) นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ว่าขณะนี้มีการควบคุมตัวนางวรรณา และสามีซึ่งเป็นชาวตุรกี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับกรณีเหตุระเบิดราชประสงค์แล้วว่า ในชั้นนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานอย่างเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และยังไม่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทยในตุรกีเช่นกัน

เรียบเรียงจาก ข่าวสดออนไลน์, Nation TV และกรุงเทพธุรกิจออนไลน์