Skip to main content
sharethis

iLaw รายงาน ศาลทหารกรุงเทพพิพากษาคดีมาตรา 112 ของธารา ให้จำคุกรวม 18 ปี 24 เดือน จากการเอาลิงก์คลิปเสียง 'บรรพต' มาเผยแพร่ต่อ 6 ครั้ง หลังเปลี่ยนใจรับสารภาพ เหตุสืบพยานมากว่า 2 ปี แทบไม่คืบหน้า และไม่ได้รับการประกันตัว

9 ส.ค.2560 วันนี้ (9 ส.ค.60) ศาลทหาร กรุงเทพฯ มีกำหนดอ่านคำพิพากษาของ ธารา (สงวนนามสกุล) วัย 59 ปี มีอาชีพขายสมุนไพร จำเลยคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ฐานนำเข้าและเผยแพร่คลิปข้อความเสียงที่มีเนื้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ดูหมิ่น ใส่ความหมิ่นประมาท แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จำนวน 6 คลิป ซึ่งถูกระบุว่าเป็นคลิปเสียงบรรพต หลังจากเลื่อนมาจากวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

โดย iLaw รายงานว่า ศาลพิเคราะห์การกระทำของจำเลย แล้วว่า เป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระมหากษัตริย์ พระราชินี เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14(1) (3) (5) ให้ลงโทษบทหนัก คือ มาตรา 112

พิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลยกรรมละ 5 ปี เนื่องจากจำเลยให้การรับสารภาพจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือกรรมละ 3 ปี 4 เดือน จำเลยกระทำความผิดคิดเป็น 6 กรรม รวมโทษจำคุกเป็น 18 ปี 24 เดือน

นอกจากนี้ศาลเห็นว่า คดีนี้เบื้องต้นจำเลยให้การปฏิเสธ หลังสืบพยานโจทก์ไปได้ 2 ปาก จำเลยกลับคำให้การเป็นรับสารภาพ คดีจึงรับฟังได้ว่า จำเลยกระทำความผิดจริงตามฟ้อง เหลือปัญหาที่ต้องวินิจฉัยเพียงว่า จะเริ่มนับวันที่จำเลยถูกควบคุมตัวตั้งแต่เมื่อใด จำเลยต่อสู้ว่า จำเลยถูกทหารจับกุม และควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2558 ควรต้องนับวันควบคุมตัวเริ่มตั้งแต่วันที่ถูกจับ ไม่ใช่วันที่ 30 ม.ค. 2558 ซึ่งเป็นวันที่ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำ ศาลทหารพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานโจทก์ทั้งสองปากที่เบิกความไปแล้วต่างก็ยืนยันว่า ธาราถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 25 และถูกนำตัวไปควบคุมที่ค่าย มทบ.11 แม้จะเป็นการควบคุมตัวตามกฎอัยการศึกไม่ใช่การควบคุมตัวตามอำนาจของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ก็เป็นการควบคุมตัวอันเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินคดีนี้ และทำให้จำเลยสูญเสียอิสรภาพเช่นเดียวกัน จึงให้เริ่มนับวันถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2558 เป็นต้นมา

ที่จำเลยเขียนคำร้องประกอบคำรับสารภาพขอให้ลงโทษสถานเบา และให้รอการลงโทษ ศาลเห็นว่า จำเลยกระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ซึ่งกระทบความรู้สึกประชาชนอย่างร้ายแรง คดีนี้ศาลกำหนดโทษสถานเบาอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษอีก

ก่อนหน้านี้้ ธารา ถูกคุมขังมากว่า 2 ปี ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เนื่องจาก ธารา ถูกตั้งข้อหาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) (3) (5) เนื่องจากการนำลิงก์คลิปเสียงของบรรพตที่อาจมีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ มาฝังไว้บนเว็บไซต์ www.okthai.com ที่เขาเป็นเจ้าของ เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2558 เบื้องต้นเขาปฏิเสธ และต้องการต่อสู้คดีว่า เขาทำเว็บไซต์ด้านสุขภาพเพื่อหารายได้จากโฆษณา ซึ่งเขาเอาลิงก์คลิปเสียงมาใช้เพราะมีเรื่องสุขภาพอยู่ด้วย และไม่ได้ฟังทุกคลิปก่อนเอามาใช้ แต่ธาราไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และการสืบพยานใช้เวลานานกว่าสองปี ธาราจึงเปลี่ยนใจรับสารภาพ เนื่องจากการสืบพยานแทบไม่คืบหน้า ศาลทหารพิจารณาคดีแบบไม่ต่อเนื่อง พยานโจทก์ไม่มาศาลและต้องเลื่อนนัดพิจารณาหลายครั้ง ล่าสุดสืบพยานไปได้เพียงสองปากจากพยานกว่า 10 ปาก ธาราจึงกลับคำให้การเป็นรับสารภาพเพื่อหวังว่าคดีจะสิ้นสุดโดยเร็ว และจะได้ออกจากเรือนจำเร็วกว่า

iLaw  อธิบายถึง การนับโทษจำคุก 24 เดือน ไว้ด้วยว่า จะแตกต่างกับการนับโทษคิดรวมเป็น 2 ปี เพราะการนับโทษจำคุกหากใช้หน่วยเป็นเดือน 1 เดือนมีค่าเท่ากับ 30 วัน 24 เดือนจึงมีค่าเท่ากับ 720 วัน แต่หากใช้หน่วยเป็นปี 1 ปีมีค่าเท่ากับ 365 วัน 2 ปีจึงมีค่าเท่ากับ 730 วัน

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ธารา: นักสุขภาพในเรือนจำ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net