'เพื่อไทย' ขู่ฟ้องกลับเพื่อปกป้องสิทธิหากตั้งข้อหาแรงเกินจริง ยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ย้ำ คสช.ทำไม่ดี ต้องถูกวิจารณ์ ขณะที่ ตร.เรียก 8 แกนนำเพื่อไทยรับทราบข้อกล่าวหา 22 พ.ค.นี้

ภาพการแถลงข่าว 3 คน (ที่มาภาพ เว็บไซต์พรรคเพื่อไทย)
18 พ.ค.2561 จากกรณีที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฟ้องดำเนินคดีกับแกนนำพรรคเพื่อไทย หลังแถลงข่าวเรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำประเทศไปสู่ความมืดมนและอันตราย ณ ที่ทำการของพรรคเพื่อไทย ย่าน ถ.เพชรบุรี ในวาระครบรอบ 4 ปี คสช. 4 ข้อหา ได้แก่ ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 57/2557 ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีการไลฟ์สด ในเฟสบุ๊ค และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ยุยงปลุกปั่น นั้น
ล่าสุดวันนี้ ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ได้แถลงเรื่อง 4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และคสช.ของสมาชิกพรรคเพื่อไทย และวันเดียวกันนั้นตัวแทน คสช.ได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องรวม 4 ข้อหานั้น การที่สมาชิกของพรรค ออกมาแสดงความเห็น วิจารณ์ผลงานของรัฐบาล และคสช.นั้น ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพแสดงความเห็นตามปกติที่รัฐธรรมนูญได้รับรองและคุ้มครองไว้ เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไปที่วิจารณ์รัฐบาล
ภูมิธรรม กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นหน้าที่สำคัญทางการเมืองในฐานะตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลและคสช.เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ไม่มีการกระทำใดเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศ คสช.หรือคำสั่งหัวหน้า คสช. และตลอด 4 ปี แกนนำที่เป็นสมาชิกของพรรคได้แสดงความคิดเห็น วิจารณ์รัฐบาลและคสช.มาตลอด แต่พรรคไม่เคยจัดประชุมหรือทำกิจกรรมการเมืองใดที่จะฝ่าฝืนข้อห้ามของ คสช. แม้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำพรรค แต่พรรคเพื่อไทยยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบและวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและ คสช.ต่อไปเช่นเดียวกับพรรคอื่นๆ ที่ทำตามหน้าที่ในลักษณะเดียวกัน
ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ คสช.ส่งตัวแทนไปแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับการแถลงการณ์นั้น ตนไม่หนักใจ เพราะถือว่าตนและสมาชิกพรรค ทำหน้าที่ในฐษนะประชาชนคนหนึ่ง พรรคการเมืองก็ถือเป็นตัวแทนของประชาชน เมื่อ คสช.และรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน เมื่อทำงานไม่ดีและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ ย่อมต้องถูกวิจารณ์เป็นธรรมดา
ชูศักดิ์ กล่าวว่า การแถลงเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อสื่อ เป็นการทำโดยเจตนาสุจริต ไม่ถือว่ามั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองที่ขัดต่อคำสั่งหรือประกาศของ คสช. และไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน หรือยุยงปลุกปั่นประชาชน อันจะเป็นความผิดตามมาตรา 116 และมิใช่นำข้อความอันเป็นเท็จมากล่าวที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามที่ตัวแทน คสช.อ้าง ก็ย่อมไม่มีการกระทำที่ขัดคำสั่ง คสช.หรือผิดกฎหมายอาญา ตนจะรอพนักงานสอบสวนว่าจะตั้งข้อหาอะไรบ้าง หากเห็นว่ามีการตั้งข้อหาที่รุนแรงเกินจริง จะใช้สิทธิทางกฎหมาย ดำเนินคดีกลับเพื่อปกป้องสิทธิของตนเช่นกัน
ตร.เรียก 8 แกนนำเพื่อไทยรับทราบข้อกล่าวหา 22 พ.ค.นี้
โลกวันนี้ รายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีที่ คสช. ส่งตัวแทนเข้าแจ้งความดำเนินคดีแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่เปิดแถลงข่าวประเมินผลงาน คสช. ในวาระครบรอบ 4 ปี ใน 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. เรื่องการห้ามดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมือง เพราะพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเก่า ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ประชุมพรรค 2.ความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมที่มีการมั่วสุมเกิน 5 คน 3.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการไลฟ์สดเฟสบุ๊คการแถลงข่าว 4.ความผิดฐานยุยงปลุกปั่น
พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า พนักงานสอบสวนพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำพรรคเพื่อไทย จำนวน 8 คน มาดำเนินคดี คือ
วัฒนา เมืองสุข จาตุรนต์ ฉายแสง ชูศักดิ์ ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คน ขึ้นไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. และความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตามกฎหมาย อาญา มาตรา 116 ส่วน นพดล ปัทมะ ชัยเกษม นิติสิริ ภูมิธรรม เวชยชัย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ในความผิดฐาน ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช.
นอกจากนี้ยังดำเนินคดีแอดมินเพจเฟสบุ๊คของพรรคเพื่อไทย ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยหมายเรียกนัดหมายให้ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 22 พ.ค. นี้ แต่ถ้าแกนนำพรรคเพื่อไทยจะเดินทางมาพบก่อนในวันที่ 21 พ.ค. ตามที่ประกาศไว้ทางตำรวจก็ไม่ขัดข้อง ส่วนข้อหาทำกิจกรรมพรรคการเมืองนั้น พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งไว้เพื่อทำการสอบสวนในเบื้องต้นเท่านั้น