ปัตตานี: ทหารพรานบุกอุ้มนักสิทธิ์ อ้าง กม.พิเศษ

ทหารพรานไม่ทราบสังกัดบุกเข้าทำการจับกุมชายชาวไทยมุสลิมจำนวน 5 คน แต่เช้ามืด โดยไม่แจ้งสาเหตุหรือข้อหาอ้างใช้กฎหมายพิเศษ พบ 2 ใน 5 เป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชนซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยถูกจับกุมตัวมาแล้ว ซึ่งพบว่ามีการบาดเจ็บทางร่างกายและจิตใจหลังได้รับการปล่อยตัว 

1 ส.ค. 2561 เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานไม่ทราบสังกัดและจำนวน ได้เข้าทำการรปิดล้อมที่พักและจับกุมตัวประชาชนชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 5 ราย โดยแบ่งเป็นพื้นที่อำเภอสายบุรี จำนวน 4 รายและอำเภอไม้แก่น 1 ราย โดยทั้ง 4 ราย ที่มีภูมิลำเนา อำเภอสายบุรี ได้ส่งต่อไปยัง สภ.สายบุรี  เมือเวลา 06.30 น.ก่อนที่จะส่งต่อไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี ส่วนอีกรายซึ่งถูกควบคุมตัวที่อำเภอไม้แก่น ถูกส่งตัวไปยังค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาสเมื่อเวลา 08.30 น. 

การเข้าทำการปิดล้อมจับกุมชาวไทยมุสลิมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้อ้างว่าใช้กฎหมายพิเศษในการควบคุมตัว ไม่มีการแจ้งเหตุผลให้ทราบว่าเป็นการจับกุมจากเหตุหรือข้อหาใด 


บูรฮาน บือราเฮง

ผู้ถูกจับกุมตัว 2 ราย ทำงานอยู่ องค์กรเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ (JASAD) ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ รวมถึงให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบด้วย นอกจากนั้นพวกเขาทั้งสองเคยถูกควบคุมตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง ทำให้ยังคง้ได้รับผลกระทบทางด้านสภาพจิตใจที่ยังคงต้องได้รับการฟืนฟูเยียวยา แต่กลับต้องมาถูกควบคุมตัวซ้ำอีกครั้ง

นายบูรฮาน บือราเฮง อายุ 32 ปี เลขาฯ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ (JASAD)  1 ในผู้ถูกจับกุม มีการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังซึ่งมีใบรับรองแพทย์ยืนยันหลังการถูกควบคุมตัวโดยกฎหมายพิเศษครั้งแรก 

เพื่อนของบูรฮานกล่าวว่า "กฎหมายพิเศษที่ทางเจ้าหน้าที่อ้างถึงมี 2 ตัว ตัวแรกคือกฎอัยการศึก ตัวที่สอง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทุกครั้งในพื้นที่จะใช้ว่า ปฏิบัติตามกฎหมายพิเศษ จะปิดล้อม จับกุม เมื่อไหร่ เวลาไหนก็ได้"

เธอกล่าวต่อว่า "จากสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่มีการแจ้งสาเหตุการจับกุม สร้างข้อสงสัย และสร้างคำถามกับเครือญาติ ครอบครัว และเพื่อน ของผู้ถูกจับกุม ตลอดจนมีการตั้งคำถาม ถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้กฎหมายพิเศษว่าการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่มีความชอบธรรมหรือไม่ และที่ผ่านมายังไม่เคยมีองค์กรอิสระใดที่สามารถตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้ จึงเป็นปัญหาคาใจของประชาชนในพื้นที่ ที่ไม่เคยได้รับความกระจ่างในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างเสมอมา 

สำหรับอีก 4 รายทางครอบครัวไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อ เนื่องจากเกรงปัญหาด้านสวัสดิภาพความปลอดภัยทั้งในส่วนของผู้ถูกจับกุมตัวและครอบครัวเอง 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท