Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


ชาวแอฟริกาใต้ชุมนุมเรียกร้องให้การใช้กัญชาเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
ที่มา: 
https://www.efe.com/efe/english/varios/south-african-court-rules-to-legalize-private-cannabis-use-at-home

นับตั้งแต่การแจ้งความดำเนินคดี เดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยข้อหาผลิตและครอบครองกัญชาเพื่อการแพทย์ มาจนถึงเหตุการณ์ที่ตำรวจบุกงานอบรมการสกัดน้ำมันกัญชาเพื่อการแพทย์ที่จังหวัดนครปฐมในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอว่าจะมีนักการเมืองคนใดออกมาแสดงจุดยืนเรื่องนี้บ้าง และก็เป็นไปตามคาด นักการเมือง นักวิชาการและข้าราชการฝ่ายขวาไม่ว่าจะเป็น รสนา โตสิตตระกูล ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ หรือแม้แต่ฝ่ายการเมืองที่ไม่แสดงจุดยืนชัดเจนอย่าง อนุทิน ชาญวีรกุล และเนวิน ชิดชอบ ต่างพากันออกมาแสดงความช่วยเหลือ และโจมตีการกระทำของฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐกันอย่างแข็งขัน ในขณะนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยกลับเงียบเป็นเป่าสาก

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ฝ่ายประชาธิปไตยควรจะต้องออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องดังกล่าว มิเช่นนั้นสิทธิ์ในการพูดเรื่องกัญชาเสรีอาจจะตกไปอยู่ในมือของฝ่ายขวาเพียงฝ่ายเดียวตลอดไป

ในการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา พรรคที่ออกมาชูนโยบายกัญชาเสรีชัดเจนที่สุดคงหนีไม่พ้นพรรคภูมิใจไทย ผลของนโยบายดังกล่าวคือพรรคภูมิใจไทยได้เสียงมากขึ้นกว่าหนึ่งล้านเสียงเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ถามว่าเสียงเหล่านี้มาจากไหน? จากเหล่าสายเขียวที่พี้กัญชาเป็นชีวิตจิตใจหรือ? คำตอบคือไม่ใช่ ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ใช้กัญชาเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้เลือกภูมิใจไทย เพราะคิดว่ากัญชามันยังไม่ได้มีสำคัญต่อชีวิตผมมากเท่ากับวาระที่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยนำเสนอ แต่คนที่เลือกเพื่อไทยคือผู้ป่วย ที่ต้องทุกข์ทรมานกับโรคไม่มีทางรักษาตามแพทย์แผนปัจจุบัน เช่นมะเร็ง เบาหวาน พาร์กินสัน ลมชัก ฯลฯ


อนุทินกับเด็กผู้ป่วยโรคสมองพิการในงานแถลงข่าว "พันธุ์บุรีรัมย์" เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562
ที่มา: 
Facebook Buntoon Niyamabha

จริงอยู่ที่ประสิทธิภาพทางการแพทย์ของกัญชาในการรักษาโรคเหล่านี้ยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่สำหรับผู้ป่วยที่ลองมาแล้วหมดทุกทาง หรือไม่มีเงินพอจะเข้าถึงบริการทางการแพทย์ชั้นเลิศ กัญชาจึงเป็นความหวังสุดท้ายของพวกเขา อ้างอิงจากคำพูดของนายบัณฑูร นิยมาภา หรือน้าตู้ หนึ่งในตัวแทนเครือข่ายที่เคลื่อนไหวเรื่องกัญชาทางการแพทย์ในประเทศไทย มีผู้ที่แอบใช้น้ำมันกัญชารักษาโรคอยู่ไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคนก่อนที่กฎหมายกัญชาจะผ่าน สนช. เสียอีก คนเหล่านี้รู้ดีว่ากัญชาที่พวกเขาใช้ไม่ได้ใกล้เคียงระดับคุณภาพทางการแพทย์ (medical grade) เลยแม้แต่น้อย หน่ำซ้ำยังมีโอกาสปนเปื้อนสารเคมียาฆ่าแมลงและเสี่ยงต่อการถูกตำรวจสุ่มตรวจปัสสาวะตลอดเวลา แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเสี่ยงดีกว่านั่งรอความตาย

บางรายที่โชคดีก็สามารถหายขาดจากโรคได้ ในรายที่ไม่หายก็ยังพอจะทะลุความเจ็บปวดทรมานลงได้บ้างเพื่อรอการจากไปอย่างสงบ แน่นอนว่าผู้ป่วยเหล่านี้ก็มีครอบครัว มีญาติ ที่ได้เฝ้าสังเกตุพัฒนาการที่ดีขึ้นของผู้ป่วยหลังการใช้กัญชาด้วยตัวเอง พวกเขาย่อมอยากให้คนที่พวกเขารักเข้าถึงกัญชาได้ง่ายขึ้นกว่าที่เป็นอยู่และได้รับการยอมรับจากรัฐมากกว่านี้ คนพวกนี้คือคนที่เทคะแนนเสียงให้ภูมิใจไทย ยังไม่นับรวมเกษตรกรที่มองว่าการปลูกกัญชาในเชิงพาณิชย์จะช่วยแก้ปัญหาปากท้องของพวกเขาได้ดีกว่าการปลูกข้าวหรือยางพาราไปวันๆ นี่คือกลุ่มคนที่ฝ่ายประชาธิปไตยมองข้าม แต่ฝ่ายขวาไม่เคยทอดทิ้ง จะมีก็แต่พรรคสามัญชนแต่ก็เป็นพรรคเล็กและก็ไม่ได้ซักที่นั่งเดียวในสภา

อันที่จริงในช่วงระหว่างการเลือกตั้ง ตัวแทนเครือข่ายกัญชาหลายคนพยายามอย่างยิ่งในการวิ่งเขาหาฝ่ายการเมืองประชาธิปไตย เพราะผู้เสพพืชแห่งเสรีชนย่อมไม่อยากจำนนต่อเผด็จการ แต่ก็มิได้รับการตอบรับใดๆ ข้าพเจ้าเคยประเคนเบอร์ติดต่อตัวแทนเครือข่ายกัญชารักษาโรคให้ผู้ที่ทำงานในพรรคคนรุ่นใหม่พรรคหนึ่งเองกับมือ แต่สุดท้ายมันก็หายไปกับสายลม มีแต่ภูมิใจไทยพรรคเดียวเท่านั้นที่ขานรับและยกระดับให้กัญชากลายเป็นวาระแห่งชาติ แม้ในช่วงเวลาหลังเลือกตั้ง ที่แต่ละพรรคต่างตั้งเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลกันไปต่างๆ นาๆ ว่าจะไม่เอาสืบทอดอำนาจก็ดี จะไม่เอาทักษิณก็ดี ภูมิใจไทยกลับบอกว่าร่วมกับใครก็ได้ แต่ต้องผลักดันกัญชาเสรี แบบนี้จะไม่ให้เราสนับสนุนเขาได้อย่างไร

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็ต้องขอพูดให้ชัดเจนว่า ตัวผมนั้นอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยและเกลียดรัฐประหารเข้าไส้ ผมจึงเจ็บปวดใจทุกครั้งที่เห็นกัญชากำลังงอกเงยอย่างงดงามในภูมิทัศน์ทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายการเมืองที่ผมศรัทธากลับไม่คิดจะทำอะไร การพูดเรื่องกัญชาในช่วงเลือกตั้งของฝ่ายประชาธิปไตยเท่าที่ผมจำได้ (ซึ่งอาจจะจำผิด) เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว คือเฉลิม อยู่บำรุง แห่งเพื่อไทย ที่ออกมาพูดว่าตนไม่เห็นด้วยกับการผ่านกฎหมายกัญชาของ สนช. แถมยังพูดในเชิงว่ารัฐบาลควรเข้มงวดเรื่องการปราบปรามยาเสพติดมากขึ้นเสียอีก ฟังแล้วมันจุกอกยิ่งนัก

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ฝ่ายประชาธิปไตยจะเสียรางวัดสายเขียวให้กับฝ่ายขวาไปเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่กัญชากับประชาธิปไตยเป็นของคู่กันมาตลอดประวัติศาสตร์ กัญชาเคยเป็นสัญลักษณ์ของเหล่าบุพพาชนยุคฮิปปี้ที่ร่วมกันต่อต้านสงครามเวียดนาม กัญชาคือสัญลักษณ์ที่บ๊อบ มาร์เลย์ใช้เชื่อมโยงคนแอฟริกันที่กระจายอยู่ทั่วโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกัน และต่อต้านอิทธิพลจักรวรรดินิยมอเมริกาผ่านบทเพลงของเขา ล่าสุดในปี 2018 ศาลรัฐธรรมนูญแห่งประเทศแอฟริกาใต้ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้การใช้กัญชาเป็นสิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ

ในทางกลับกัน เราเห็นแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากปล่อยให้กัญชาตกอยู่ในเงื้อมมือเผด็จการ คนไทยเกือบจะต้องใช้กัญชาจากบริษัทยาข้ามชาติแม้เราจะเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตกัญชาที่ดีที่สุดของโลก โชคดีที่เครือข่ายภาคประชาสังคมด้านกัญชาทางการแพทย์สามารถกดดันให้รัฐบาลถอนคำร้องขอจดสิทธิบัตรจากบริษัทต่างชาติได้สำเร็จ มิเช่นนั้นคนไทยอาจไม่มีวันได้ใช้กัญชาจากผืนแผ่นดินไทย และแน่นอน นี่ก็เป็นผลงานของบรรดาฝ่ายขวาอีกเช่นกัน

หากพรรคอนาคตใหม่เชื่อว่าประชาชนไม่ควรถูกริดรอนสิทธิในการกำหนดอัตตานัติของเราจริง คุณต้องออกมาปกป้องประชาชนที่ถูกจับกุมคุมขังจากการใช้หรือผลิตกัญชาเพื่อรักษาโรค หากเพื่อไทยเชื่อว่าปากท้องของคนไทยเป็นสิ่งสำคัญ คุณต้องออกมาสนับสนุนการปลูกกัญชาเสรีเพื่อความกินดีอยู่ดีของเกษตรกร หาไม่แล้ว หลักการสวยหรูที่พวกคุณเคยพูดมาก็ไม่ต่างอะไรจากควันในกระบอกไม้ไผ่ หาไม่แล้ว เผด็จการก็จะกลายเป็นนักบุญผู้หยิบยื่นความสุขและยาอายุวัฒนะให้กับประชาชน ส่วนพวกคุณก็คือผู้อยู่เฉยและไม่คิดจะทำอะไร

แน่นอน คุณอาจจะบอกว่ามีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า ไม่ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ หรือป้องกันการสืบทอดอำนาจ คสช. ซึ่งผมเห็นด้วยทุกประการ แต่พึงระลึกไว้เถิดว่ามีคนป่วยตายทุกวัน มีคนติดคุกเพียงเพราะเอาควันเข้าปอดทุกวัน มีคนติดคุกเพียงแค่อยากจะกินแกงไก่อร่อยๆ ทุกวัน หากมันยังสำคัญไม่พอ ผมคงต้องบอกว่า “เสียดาย” หนึ่งกากบาทที่หลงมอบให้พวกคุณไป

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net