กษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.พลังประชารัฐ ดีเบต ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.อนาคตใหม่ โดยกษิดิ์เดชเสนอว่าคนเราเกิดมาไม่มีทางเท่ากัน หน้าตาไม่เหมือนกัน การศึกษาไม่เท่ากัน มนุษยสัมพันธ์ไม่เท่ากัน เพียงแต่เราอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตยที่เป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด ข้ามผ่านเผด็จการเรียบร้อยแล้ว ส่วนปิยบุตรตอบว่าหากจะเชื่อว่าคนไม่เท่ากันก็เป็นสิทธิของท่าน ส่วนพรรคอนาคตใหม่และพรรคร่วมเชื่อมั่นว่าคนไทยเท่าเทียมกัน

ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 62 เวลา 20.30 น. กษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ พาดพิงปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ยืนยันพวกตนเป็นเพียงกลุ่มประชาชน ที่หาทางคิดว่าจะทำอย่างไรให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป จึงมีพรรคพลังประชารัฐไปเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีสิ้นสุดแล้วตั้งแต่วันรับสมัครเมื่อ 8 ก.พ. และตอนนี้อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน การเลือกตั้งก็จบลงแล้ว ทันทีที่ กกต. ประกาศรายชื่อ ส.ส. ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือทำให้เกิดประชาธิปไตยเต็มใบ

กษิดิ์เดช กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่สมาชิกไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนการกล่าวหา ไม่มีข้อเท็จจริง ส่วนธนาธร และปิยบุตร ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครไม่เคยติดตามสื่อสังคมออนไลน์ที่พวกท่านเคยโพสต์ไว้ ทั้งมุมมอง วิสัยทัศน์ ที่อยากให้ประเทศไทยไม่ต้องเคารพผู้ใหญ่ เรียก ไอ ไอ ยู ยู ไม่ต้องพูดลุงป้ากันแล้ว เรียกร้องความเท่าเทียมกัน แต่คนเราเกิดมาไม่มีทางเท่าเทียมกัน หน้าตาก็ไม่เหมือนกันแล้ว และสิ่งที่เรียกร้องกันว่าอยากเท่าเทียมกัน แต่การศึกษาก็ไม่ได้เท่ากัน การมีมนุษยสัมพันธ์ก็ไม่เท่ากัน ไม่มีอะไรเท่ากันในโลกนี้ เพียงแต่วันนี้เราอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตย ที่คิดว่าเป็นระบอบการปกครองที่ดีที่สุด ซึ่งวันนี้เราข้ามผ่านเผด็จการไปเรียบร้อยแล้ว การเลือกตั้งจบสิ้นแล้ว วันนี้ผมมองว่า ถ้าให้ผมสรุปวันนี้ ผมสรุปแทนพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า หลายท่านที่รวมกันสนับสนุน

ส่วนปิยบุตร ขออนุญาตในที่ประชุม กล่าวตอบโต้ว่า หากไม่เอ่ยชื่อของตนก็จะจบกันลงด้วยดี และบอกอีกว่า หากสงสัยอะไรเกี่ยวกับตนก็สามารถคุยนอกรอบได้ ซึ่งตนไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายก และไม่เคยกล่าวอภิปรายถึง ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ หรือ ส.ว. เลยสักคน จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวพาดพิงถึงตัวเขา เพราะเขาอยากให้การเมืองมีความสร้างสรรค์ ไม่ใช่แอบมาชกกันใต้เข็มขัดแบบนี้

นอกจากนี้ ปิยบุตร ยังกล่าวถึงประเด็นที่กษิดิ์เดช ไม่สนับสนุนเรื่องความเสมอภาคอีกว่า หากจะเชื่อว่าคนไม่เท่ากันก็เป็นสิทธิของท่าน แต่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคร่วมทั้ง 7 พรรค จำนวน 246 เสียงนี้ เชื่อมั่นว่าคนไทยเท่าเทียมกัน ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีความเป็นมนุษย์ มีความเสมอภาคเท่ากัน