Skip to main content
sharethis

เพจเฟสบุ๊ค 'Gossipสาสุข' แฉเพจรัฐบาลสร้าง “Fake News” ระบุค่าใช้จ่ายสุขภาพของไทย “สูงที่สุดในโลก” ทั้งที่ไม่มีข้อมูลรองรับ 

ที่มาภาพ เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'Gossipสาสุข'

30 ก.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊คแฟนเพจ 'Gossipสาสุข' เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊ค “ข่าวจริงประเทศไทย” ของรัฐบาล ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์เป็นผู้รับผิดชอบ ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “ทำไมระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าไทย จึงเป็นที่ยอมรับในเวทีโลก” เนื้อว่าด้วยความสามารถของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งสามารถเปลี่ยน “ความเลวร้าย” ของ “30 บาทรักษาทุกโรค” ให้เป็น “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” ที่สหประชาชาติชื่นชม

เฟสบุ๊ค 'Gossipสาสุข' ระบุว่า เพจดังกล่าวสร้าง Fake News ประกอบด้วย 1. ตัวเลขโรงพยาบาลขาดทุน 2. ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของไทยที่อ้างว่าสูงที่สุดในโลก โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

เริ่มต้นจากการอ้างถึงการจัดอันดับของนิตยสาร CEOWorld ที่ให้ระบบสุขภาพของไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

แต่ในย่อหน้าต่อมา กลับ “ด่า” โครงการนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยบอกว่าที่ผ่านมาโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนและเกือบทำให้ระบบสาธารณสุขเสียหาย ประชาชนอาจได้ประโยชน์ แต่ส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาว

แน่นอน นี่เป็น “ความรู้สึก” ซึ่งไม่มีตัวชี้วัด ไม่มีแหล่งอ้างอิง ว่า 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนคืออะไร และเกือบทำให้ระบบสาธารณสุขเสียหาย ส่งผลกระทบต่อประเทศในระยะยาวอย่างไร

คนทั่วไป อาจมีสิทธิ์คิดแบบนี้ได้ แต่ในฐานะที่ “รัฐบาล” เป็นผู้ดูแลเพจนี่ ก็ควรมีข้อมูล ตัวเลข ผลการศึกษา ที่บอกว่า 30 บาทรักษาทุกโรคส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างไร เช่น ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนเท่าไหร่ หรือมีตัวเลข “ติดลบ” มากขนาดไหน

เท่าที่ Gossipสาสุข ติดตามมาอย่างละเอียด มีการเผยแพร่ตัวเลขโรงพยาบาลขาดทุน และติดลบมาก่อนหน้านี้ แต่กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้ดูแลโรงพยาบาล “ปฏิเสธ” มาตลอดว่าไม่ใช่เรื่องจริง

เพราะฉะนั้น นี่คือ “Fake News” ข้อแรก

หลังจากย่อหน้าปัญหาดังกล่าว ย่อหน้าถัดไป กลับเปลี่ยนมาชื่นชม “30 บาทรักษาทุกโรค” โดยระบุว่า เป็นบัตรที่ให้สิทธิประโยชน์กับผู้ถือบัตร ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และประชาชนสามารถ รับบริการตรวจรักษาได้หลายโรค ตั้งแต่ ผ่าตัด ทำคลอด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยสามัญได้สิทธิ์ ค่าห้อง ค่าอาหาร และคุ้มครองเด็กตั้งแต่แรกเกิด

แต่เพจ “ข่าวจริงประเทศไทย” กลับโกหกอย่างร้ายแรงอีกครั้ง

ด้วยการระบุว่า “สถิติที่ผ่านมา โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ได้ทำให้ประเทศไทยมีค่าใช้จ่ายด้านระบบสาธารณสุข มากเป็นอันดับ 1 ของโลก”

แน่นอน นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ “ตู่” ขึ้นมาเอง เพราะปัจจุบันค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของไทย แม้จะสูงขึ้นหลังมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่ก็ไม่เคย “สูงที่สุดในโลก”

ปัจจุบัน ตัวเลขจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของไทยในปี 2561 อยู่ที่ 388,976 ล้านบาท หรืออยู่ที่ประมาณ 4.9% ต่อค่าใช้จ่ายครัวเรือนทั้งหมด (GDP)

และหากย้อนไปในสมัยทักษิณ ชินวัตร ช่วงปีแรกๆ ของโครงการ มาจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่มีปีไหนที่ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข จะขึ้นไปสูงเกิน 5.5% ของ GDP เพราะในสมัยนั้น งบประมาณเหมาจ่ายรายหัว อยู่ราว 1,200 - 2,000 บาทเท่านั้นเอง และยังไม่ครอบคลุมการรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูงบางโรคเช่นการ “ฟอกไต” ด้วยซ้ำ

ต่างจากในญี่ปุ่น ซึ่งค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข ขึ้นไปถึงราว 10% ต่อ GDP ในสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 17% ต่อ GDP ส่วนตัวเลขจากองค์การอนามัยโลก ระบุว่า ค่าเฉลี่ยทั่วโลก อยู่ที่ 10%

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพไม่สูง ก็เพราะการเกิดขึ้นของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ในปี 2545 และหลังจากนั้นเป็นต้นมา ได้สร้างระบบการ “ต่อรอง” ราคายา หรือระบบการเหมาจ่ายรายหัว ไม่ใช่รักษาไปก่อนแล้วเบิกทีหลัง เหมือนสวัสดิการข้าราชการ ที่พบ “เงินรั่ว” จำนวนมาก

เอาชัดๆ อีกสักตัวเลขหนึ่ง ปี 2561 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก จัดอันดับ “ความคุ้มค่า” ด้านระบบดูแลสุขภาพ และค่าใช้จ่ายที่ใช้ ระบุว่าไทย ใช้ค่าใช้จ่ายต่อหัวในการดูแลสุขภาพต่อประชากร 1 คน นั้นอยู่ที่ 219 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7,086 บาท ต่อปี โดยไทยถือเป็นประเทศที่มีระบบสุขภาพดีเป็นอันดับ 7 ของโลก

เพราะฉะนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ตามข้อมูลที่รัฐบาลระบุว่า 30 บาทรักษาทุกโรคนั้น ทำให้ “ค่าใช้จ่ายด้านระบบสาธารณสุข” สูงที่สุดในโลก

และเป็น Fake News อีกประการ ที่คิดขึ้นมาเองอย่างน่ารังเกียจ ซึ่งไม่น่าอยู่ในวิสัยผู้ที่รณรงค์เรื่อง “ข่าวจริง” อย่างกรมประชาสัมพันธ์อย่างยิ่ง

ถามว่า 30 บาทรักษาทุกโรค มีปัญหาหรือไม่ ก็ต้องตอบว่ามี ไม่ว่าจะปัญหาเรื่อง “เงินไม่พอ” ปัญหาเรื่องคิวยาว โรงพยาบาลล้น หรือปัญหาการทำงานหนักของบุคลากร ที่รอการแก้ไข

แต่ไม่ใช่ปัญหาว่า ระบบนี้ “ทำลาย” โครงสร้างสาธารณสุข หรือทำให้ค่าใช้จ่ายสูง “ที่สุดในโลก” อย่างแน่นอน

และว่ากันตามตรง ตั้งแต่ปี 2557 ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจเข้ามา ปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังคงอยู่

ทางที่ดี คนในรัฐบาลนี้ ควร “เปิดใจรับ” บ้าง ว่า 30 บาทรักษาทุกโรค ส่วนหนึ่งเป็นผลงานของทักษิณ และในมุมมองของประชาชน ที่ผ่านมา โครงการนี้ให้คุณมากกว่าให้โทษ

แบบเดียวกับที่อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุขให้สัมภาษณ์แบบแมนๆเมื่อวันก่อน

ไม่ใช่มองว่าเป็นเรื่องการเมือง เอาดีเข้าตัว ด้วยการไปกล่าวถึงข้อดีที่นิวยอร์ค แล้วพอกลับมาในไทย ก็เอาชั่วให้คนอื่น เพียงอย่างเดียว

แน่นอน ปัญหาของโครงการนี้ ช่องโหว่ของโครงการนี้ ยังมีอีกมาก ให้รัฐบาลประยุทธ์พัฒนา

แต่หากเราตั้งต้นปัญหาจากข้อมูลปลอม ข้อมูลมั่ว และการใช้การเมืองน้ำเน่า สาดใส่ผู้อื่น ประเทศนี้ก็จะไม่สามารถไปไหนได้พ้น

แล้วเราก็จะสูญเสียโอกาส พัฒนาระบบนี้ให้ดียิ่งขึ้น ไปอย่างน่าเสียดาย

สำหรับ เพจเฟสบุ๊ค “ข่าวจริงประเทศไทย” นั้นเป็นส่วนหนึ่งของกรมประชาสัมพันธ์ โดยมีเว็บไซต์รวมอยู่ที่ http://realnewsthailand.prd.go.th/ ซึ่งลิงค์ไปทั้งเพจเฟสบุ๊ค “ข่าวจริงประเทศไทย” ที่มี url https://www.facebook.com/realnewsthailand/ รวมทั้ง line ID : @realnewsthailand

ที่มา : https://www.facebook.com/realnewsthailand/photos/a.247431929422878/504934273672641/ บันทึกไว้เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 30 ก.ย.2562

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net