Skip to main content
sharethis

นักศึกษาหลายกลุ่มผุดล่าชื่อ ถอดถอน ส.ว. ที่มาไม่มีความชอบธรรมและไม่ทำเพื่อประชาชน ด้าน ส.ว.เสรี สวน นักศึกษามีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ไม่ใช่มาเคลื่อนไหว

27 เม.ย.2563 จากกรณีที่กลุ่มนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยออกมารณรงค์ ผ่าน #MobFromeHome "โควิดหายมาไล่รัฐบาลกันไหม?" รวมทั้ง วิจารณ์การทำหน้าที่ของส.ว. ถึงขั้นไล่ส.ว.ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน ไม่ให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญนั้น

ต่อมามีผู้ตั้งแคมเปญรณรงค์ล่ารายชื่อทาง Change.org เพื่อถอดถอน ส.ว.250 ผู้ตั้งแคมเปญ ระบุว่า เหตุที่ ส.ว.250 ท่าน ไม่ควรดํารงตําแหน่ง ส.ว. เพราะ 1. ที่มาไม่มีความชอบธรรมเหตุเพราะถูกเลือกโดยคณะรัฐประหาร 2. ไม่มีผลงานที่ทำเพื่อประชาชน 3. ใส่ร้าย นิสิต/นักศึกษา ที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมคืนแก่ประเทศ 4. ภาษีของประชาชนไม่ควรสูญเปล่าเพราะความเห็นแก่ตัวของ ส.ว. 250 ท่าน

ทั้งนี้การที่ มศว คนรุ่นเปลี่ยน ทำการล่ารายชื่อถอดถอนท่าน ส.ว.250 ท่าน เป็นแค่จุดเริ่มต้นของการเรียกร้องประชาธิปไตยคืนสู่ประเทศไทยเพียงเท่านั้น รายชื่อทั้งหมดพวกเรานิสิตนักศึกษาจะนำไปยื่นถึงสภาเพื่อให้นำไปพิจารณาต่อไป

โดยระบุด้วยว่า กลุ่มที่ร่วมกิจกรรมนี้ประกอบด้วย  1.มศว คนรุ่นเปลี่ยน 2.ภาคีนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ 3.มอกะเสด 4.พะยอมเก๋า 5.กลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย 6.ลูกพ่อขุนฯโค่นล้มเผด็จการ 7.ฟันเฟืองประชาธิปไตย อาชีวะปกป้องประชาธิปไตยแห่งประเทศไทย 8.ขอนแก่นพอกันที 9.ภาคีนักศึกษาศาลายา 10.กลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย และ 11.กลุ่มประชาคมมศวเพื่อเสรีภาพ

พร้อมระบุด้วยว่า ทั้งนี้องค์กรใดสนใจร่วมแคมเปญของพวกเราแจ้งได้ที่ เพจ มศว คนรุ่นเปลี่ยน

ส.ว.เสรี สวน นักศึกษามีหน้าที่เรียนก็เรียนไป ไม่ใช่มาเคลื่อนไหว

มติชนออนไลน์ รายงานปฏิกิริยาฝั่ง ส.ว. อย่าง เสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ออกมาตอบโต้กลุ่มนักศึกษาว่า ส.ว.ทำตามหน้าที่อยู่แล้ว ตามอำนาจที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ ซึ่งทุกอย่างก็ต้องทำตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ดังนั้นนักศึกษาก็ต้องดูว่าส.ว.เขาทำอะไร และต้องเข้าใจว่างานแต่ละงานมีเนื้อหา มีภารกิจ มีความรับผิดชอบที่ต้องทำเป็นอย่างไร การที่จะบอกว่าคุ้มหรือไม่คุ้มกับเงินเดือน ขึ้นอยู่กับเนื้อหางานที่ทำออกไป ส.ว.จะไปพูดอะไรมากกว่านี้ หรือทำอะไรเกินกว่ากฎหมายกำหนดไม่ได้ เหมือนนักเรียน นักศึกษาเขาให้เรียนหนังสือ หาความรู้ ไม่ใช่ให้มาไล่คนโน้นคนนี้ ดังนั้นทุกคนต้องรู้หน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่มาไล่ ส.ว.มาไล่รัฐบาล

“เข้าใจว่านักศึกษาที่เคลื่อนไหว พยายามแสดงบทบาทเลียนแบบนักศึกษารุ่นปี 2516 และ 2519 ซึ่งไม่เหมือนกัน นักศึกษายุคนั้นเกิดจากบ้านเมืองมีปัญหารัฐบาลใช้อำนาจไม่ชอบธรรม นักศึกษาก็ออกมารวมตัวเรียกร้อง แต่ในปัจจุบัน ไม่ปรากฏว่ารัฐบาลทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น และการออกมาไล่ใครต้องมีเหตุผล จะเป็นเครื่องมือทางการเมืองไมได้ ดูเหมือนนักศึกษาออกมากลายเป็นเครื่องมือของอีกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ดังนั้นนักศึกษาต้องไม่เป็นเครื่องมือของใคร แต่ตอนนี้ชัดว่าไม่มีเหตุผล ถ้าจะมีบทบาทในทางการเมือง ทางสังคม ต้องมีเหตุผลมากกว่านี้ ถึงจะทำให้ประชาชนเชื่อได้ มาไล่แบบนี้ทำให้เสียกับนักศึกษามากกว่า” เสรี กล่าว

ปธ.สนท. ย้ำ รบ.ควรรับฟังข้อเสนอและการวิพากษ์วิจารณ์

ขณะที่ จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนท.)  โต้ ส.ว. และโฆษกวิปรัฐบาล ด้วยว่า ตนเห็นว่าการจะนำเสนอประเด็นเช่นนั้นดูขัดกับความรู้ความเข้าใจของตนเรื่องประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมที่ว่า ประชาชนทุกคนควรมีสิทธิในการมีส่วนร่วม ตามที่ประชาชนที่ดีในระบอบประชาธิปไตยควรทำในการเสริมสร้างวัฒนธรรม check and balance เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เวลาเรียนหนังสือตนก็เข้าเรียนไม่เคยขาดตกบกพร่อง เวลาว่างก็เสาะหาความรู้ อ่านหนังสือที่สนใจเพื่อพัฒนาตัวเอง ตามหน้าที่ และช่วงวัยแห่งการแสวงหาความรู้ ตนมีความรู้ความเข้าใจที่เพียงพอต่อการตั้งคำถามและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลและนำเสนอข้อวิพากษ์ภายใต้หลักการและเหตุผลที่อิงตามหลักสากลที่มีมาตรฐาน

ประธาน สนท. ระบุอีกว่า ตนไม่เห็นว่า การกระทำของเหล่านักเรียน, นักศึกษา หรือประชาชนทั่วไปจะเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำตรงไหน ประชาชนควรมีส่วนร่วมตามหลักประชาธิปไตย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ควรได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมกันและคุยกันด้วยเหตุผล

รัฐบาลกล่าวว่าต้องการความร่วมมือและช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน แต่ยังปฏิเสธการร่วมมือกับฝ่ายค้านในการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพูดคุยหารือวิธีแก้ปัญหาวิกฤตร่วมกันด้วยเหตุผลนานับประการที่ฟังไม่ขึ้น เพราะไวรัสไม่ได้กระทบแค่ด้านสาธารณสุขอย่างเดียว ผลกระทบได้ส่งผลไปถึงเรื่องเศรษฐกิจที่อาจจะต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวอีกด้วย 

"นักศึกษาไม่ได้สร้างความวุ่นวายหรือความไม่สงบแม้แต่นิดเดียว เรามีความรับผิดชอบต่อสังคมมากพอในการป้องกันการระบาดของไวรัส รัฐบาลควรรับฟังข้อเสนอและการวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน และนำไปปรับแก้ไขในการทำงานนั้นคือหน้าที่ของท่าน ๆ ไม่ใช่การบอกว่าเราควรทำอะไร ประชาชนรู้หน้าที่และสิทธิของตนเองดีแล้ว และจบวิกฤตโควิดเมื่อไหร่ เจอกันเมื่อชาติต้องการ" จุฑาทิพย์ ระบุ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net