นักเรียนมัธยมอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย นัดรวมตัวจัดม็อบ แต่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐเข้ากดดัน นักเรียนรายหนึ่งต้องถอนตัวเพราะ จนท. ไปพบผู้ปกครอง กลุ่มผู้จัดถูกผู้อำนวยการโรงเรียนเรียกคุย ห้ามใช้ชื่อโรงเรียน และสั่งให้แสดงออกด้วยความสุขภาพ สุดท้ายถูกกดดันเรื่องใช้สถานที่ตลาด จนต้องย้ายไปจัดม็อบในป่าช้า

2 พ.ย. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า ที่อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย มีรายงานว่า กลุ่มนักเรียนมัธยมปลายจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอ ได้นัดหมายจัดกิจกรรม #เวียงป่าเป้าบ่เอาเผด็จการ ในบริเวณตลาดสดแม่ขะจาน แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ากดดัน จนต้องมีการย้ายสถานที่ไปจัดในป่าช้าของชุมชนแทน

เดิมนั้น ผู้จัดระบุว่าได้พูดคุยกับผู้ดูแลตลาดสด และได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่ในการทำกิจกรรมแล้ว โดยพื้นที่ตลาดนี้ก็เคยใช้เป็นที่ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในอดีต และยังเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ทำให้คิดว่าสามารถจัดกิจกรรมได้ และผู้จัดก็ได้ประชาสัมพันธ์ถึงกิจกรรมนี้ในโลกออนไลน์

แต่ในวันนี้ ผู้จัดระบุว่าได้มีนักเรียนที่จะร่วมขึ้นปราศรัยในกิจกรรมนี้ รายหนึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปที่ทำงานของผู้ปกครอง เข้าใจว่ามีการพูดคุยถึงการออกไปทำกิจกรรมทางการเมือง ทำให้ผู้ปกครองมีการสั่งห้ามไม่ให้นักเรียนไปร่วมกิจกรรม และนักเรียนคนดังกล่าวต้องถอนตัวจากการทำกิจกรรม ขณะที่นักเรียนอีกรายหนึ่ง ทราบว่ามีตำรวจไปพบถึงที่บ้าน แต่ก็ยังยืนยันมาร่วมกิจกรรมอยู่

นอกจากนั้นยังมีนักเรียนที่ร่วมจัดถูกผู้อำนวยการของโรงเรียนเรียกพูดคุย โดยไม่ได้มีการห้ามจัดกิจกรรม แต่ระบุว่าทางโรงเรียนกังวลเรื่องการใช้ชื่อโรงเรียนไปทำกิจกรรม จึงขอไม่ให้ไปทำกิจกรรมในนามโรงเรียน และขอให้แสดงออกด้วยความสุภาพอีกด้วย

ก่อนเริ่มกิจกรรม ได้มีเจ้าหน้าที่รัฐไม่ทราบหน่วย นำบันทึกประจำวันของ สภ.แม่เจดีย์ที่ระบุว่าเจ้าของตลาดสดแม่ขะจานได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ว่าได้ทราบว่ามี “กลุ่มราษฎร” จะเข้ามาจัดชุมนุมชูสามนิ้วในตลาด ซึ่งตนไม่ได้ยินยอมให้เข้ามาทำกิจกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด จึงมีการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับทาง ร.ต.อ.สุธรรม ใหม่คำหล้า รองสารวัตรสอบสวนสภ.แม่เจดีย์

ผู้จัดระบุว่าไม่ทราบว่าเหตุใดทางเจ้าของตลาดจึงไปลงบันทึกไว้เช่นนั้น แต่เป็นไปได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่รัฐแจ้งเรื่องไปที่เจ้าของตลาด ทำให้มีการไปลงบันทึกในลักษณะนี้ไว้

เมื่อมีหนังสือในลักษณะดังกล่าวจากทางตำรวจ นักเรียนผู้จัดจึงต้องตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่จัดกิจกรรม โดยตกลงกันย้ายไปจัดในพื้นที่ลานฌาปนสถานของตำบลแม่เจดีย์แทน และยืนยันจะจัดตามกำหนดการเดิม

ในเวลาประมาณ 17.30 น. กิจกรรมของนักเรียนจึงได้จัดขึ้น มีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบที่เข้ามาติดตามกิจกรรมอีกด้วย โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบพยายามเข้าสอบชื่อสกุลของนักเรียนที่มาร่วมด้วย

กิจกรรมมีการสลับกันปราศรัยและแสดงออกของนักเรียน ใช้เวลาประมาณ 40 นาที พร้อมกับผู้จัดแถลงข้อเรียกร้อง 2 หัวข้อใหญ่ ได้แก่ หนึ่ง เรียกร้องให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ เนื่องจากเห็นว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเผด็จการ และสอง เรียกร้องให้มีการยุบสภา เนื่องจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาล