Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

การชุมนุมบนถนนของผู้คนมหาศาลเพื่อต่อต้านรัฐประหารของกองทัพพม่า เริ่มมาตั้งแต่วันเสาร์ที่  6 กุมภาพันธ์ ณ ใจกลางเมืองนครย่างกุ้ง ก่อนที่ในตลอดสองสามวันที่ผ่านมา การชุมนุมลักษณะเดียวกันได้ปรากฏในเมืองอื่น ๆ อีกด้วย เช่น มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ทวาย มิตจีนา พะสิม พุกาม เมียวดี พะอัน ตองยี เชียงตุง ท่าขี้เหล็ก เป็นต้น กิจกรรมหลักที่เห็นกันตลอดคือการตะโกนสิ่งที่ต้องการพร้อม ๆ กัน โดยจะมีผู้นำหนึ่งคนในกลุ่มตะโกนวลีหน้านำไปก่อน และมวลชนที่เหลือจะตอบรับวลีหลังตาม  ซึ่งการตะโกนวลีต่าง ๆ เหล่านี้ ยังปรากฏในการประท้วงของชาวเมียนมาในกรุงเทพฯด้วย  โดยวลีหลักๆ ได้แก่ 


•    ဒီမိုကရေစီရရှိအရေး .... ဒို့အ‌ရေး  ဒို့အ‌ရေး ဒို့အ‌ရေး
/เด่ โหม่ เกร่ สี่ ยะ ชิ อะ เย/  ...... /โด้ะ อะเย โด้ะ อะเย/
การได้มาซึ่งประชาธิปไตย .... คือจุดประสงค์ของเรา จุดประสงค์ของเรา

•    စစ်အာဏာရှင်ကျဆုံးရေး .... ဒို့အ‌ရေး  ဒို့အ‌ရေး ဒို့အ‌ရေး
/ซิ่ด อ่า หน่า ฉิ่น จ้ะ โซง เย/  ...... /โด้ะ อะเย โด้ะ อะเย/
ความพินาศของเผด็จการทหาร .... คือจุดประสงค์ของเรา จุดประสงค์ของเรา

•    စစ်အာဏာရှင်အစိုးရ .... အလိုမရှိ  အလိုမရှိ အလိုမရှိ
/ซิ่ด อ่า หน่า ฉิ่น อะโซ ยะ/  ...... /อะโหล่ มะชิ  อะโหล่ มะชิ /
รัฐบาลเผด็จการทหาร .... เราไม่ต้องการ เราไม่ต้องการ

•    စစ်အာဏာရှင်စနစ် .... အလိုမရှိ  အလိုမရှိ အလိုမရှိ
/ซิ่ด อ่า หน่า ฉิ่น ซะนิ่ด/  ...... /อะโหล่ มะชิ  อะโหล่ มะชิ /
ระบอบเผด็จการทหาร .... เราไม่ต้องการ เราไม่ต้องการ

•    စစ်အာဏာရှင်စနစ် ... ကျဆုံးပါစေ 
/ซิ่ด อ่า หน่า ฉิ่น ซะนิ่ด/  ...... /จ้ะ โซง บ่า เส่ /
ระบอบเผด็จการทหาร .... ขอให้พินาศ

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่าวลีหลัก ๆ ในการตะโกนต่อต้าน จะเน้นไปที่การต่อต้านเผด็จการทหาร ส่วนวลี  “ဒို့အ‌ရေး”  /โด้ะ อะเย/ เป็นการย้ำให้เห็นว่า สิ่งที่ออกมาเรียกร้องเป็นจุดประสงค์สำคัญของประชาชน วลีเหล่านี้จึงไม่ได้มีความหมายเพียงการพุ่งเป้าหมายไปที่การล้มล้างระบอบเผด็จการทหารเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงความเป็นเนื้อเดียวกันของมวลชนที่มีความต้องการตรงกัน และช่วยปลุกใจให้ทุกคนตระหนักถึงเรื่องเร่งด่วนเหล่านี้ 

นอกจากการตะโกนวลีร่วมกัน สิ่งที่รวมใจและดึงอารมณ์ของผู้คนในที่ชุมนุมได้อย่างลึกซึ้งก็คือการร้องเพลง “กะบ่า มะเจ่ บู”   (ကမ္ဘာမ‌‌ကြေဘူး Kaba ma kyei buu) ซึ่งเป็นเพลงประจำการชุมนุมประท้วงตั้งแต่สมัย 1988  จึงถูกเรียกว่าเป็นเพลงปฏิวัติ เพลงนี้แต่งโดย “หน่ายน์ เมียนมา” ซึ่งยืมทำนองมาจากเพลง Dust in The Wind ของวง Kansas  

ความหมายของชื่อเพลงคือ จะไม่มีวันจำนนจนกว่าโลกสิ้นสลาย ซึ่งในที่นี้ก็คือ ไม่จำนนต่อเผด็จการทหาร และไม่ยอมแพ้ที่จะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนั่นเอง  สิ่งที่น่าสนใจของชื่อเพลงอีกประการนั่นคือ ชื่อเพลงในการประท้วงนั้นตั้งให้คล้ายกับเพลงชาติของประเทศเมียนมา “กะบ่า มะเจ่ เหมี่ยน หม่า ปหยี่”   (ကမ္ဘာမကြေ မြန်မာြပည် Kaba ma kyei Myan mar pyi) 

จากเนื้อเพลง ความหมายหลักมุ่งเน้นไปถึงความเสียสละเพื่อประชาธิปไตยของเหล่าวีรชน และมีลักษณะที่ปลุกใจมวลชนโดยตรงเพราะเนื้อเพลงเรียกร้องให้ผู้คนสำนึกถึงวีรชนเหล่านี้ และอย่านิ่งเฉย ขอให้ออกมาต่อสู้เหมือนวีรชนที่สูญเสียเลือดเนื้อไปในสงครามเพื่อประชาธิปไตย นอกจากนี้ในเนื้อเพลงยังอ้างอิงถึงบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ชาตินิยมพม่าสองคน นั่นคือ “โก่ด่อมาย” และ “นายพลอองซาน” 

คนไทยที่ติดตามเรื่องราวของประเทศเมียนมาคงรู้จักนายพลอองซาน บิดาของนางอองซานซูจีดีอยู่แล้ว ส่วน “โก่ด่อมาย” นั้น เขาคือนักชาตินิยมในยุคอาณานิคมที่ปลุกระดมให้คนพม่าในยุคนั้น ออกมาต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากอาณานิคมอังกฤษ เขาใช้วรรณกรรมเป็นเครื่องมือหลักในการสื่อสารกับมวลชน ในเนื้อเพลงจึงพูดถึง “โก่ด่อมาย” เพื่อฟ้อง “โก่ด่อมาย” ว่าประวัติศาสตร์ที่เขาสร้างไว้ได้ถูกทำลายโดยทหารไปแล้ว 

นัยยะของเพลงและวลี “ဒို့အ‌ရေး”/โด้ะ อะเย/ จึงมีลักษณะที่เหมือนกันในแง่ของการกระตุ้นความทรงจำร่วมกัน เพลง “กะบ่า มะเจ่ บู”  ตอกย้ำความทรงจำทางประวัติศาสตร์ที่คนพม่าฟังแล้วก็รู้สึกจุกในอก ส่วนการตะโกนวลีต่างๆ ก็เป็นการปลุกให้จดจำสาเหตุสำคัญของการออกมาประท้วงในครั้งนี้ สร้างความทรงจำในการต่อสู้ครั้งใหม่ของประชาชน

เพลง “กะบ่า มะเจ่ บู”

ကမ္ဘာ...မကြေဘူး
ไม่จำนนจนกว่าโลกสลาย

ငါတို့သွေးနဲ့ရေးခဲ့ကြတဲ့ မော်ကွန်းတွေ  
บันทึกประวัติศาสตร์ที่จารึกไว้ด้วยเลือดของเรา

တော်...လှန်...ရေး
การปฏิวัติ 

ဒီမိုကရေစီတိုက်ပွဲတွင်းမှာကျဆုံးသော ဪ...သူရဲကောင်းတို့ရေ
โอ้...บรรดาวีรชนที่เสียชีวิตไปในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเอ๋ย

အာဇာနည်တွေနေတဲ့ တိုင်းပြည်
ประเทศที่มีเหล่าผู้ยอมสละชีพสถิตอยู่ 

ရဲရဲတောက်တို့ပြည်သူတွေ
เหล่าประชาชนผู้กล้าหาญ

ကိုယ်...တော်...မှိုင်း ရာဇဝင်တွေလည်းရိုင်းခဲ့ရပြီ အဖိုးရေ...
ปู่โก่ด่อมายเอ๋ย  ประวัติศาสตร์ทั้งหลายกลายเป็นความป่าเถื่อนไปแล้ว 

သခင်...အောင်ဆန်း နိုင်ငံတော်လည်း သွေးစွန်းခဲ့ပြီ အဘရေ
ท่านตะขิ่นอองซานเอ๋ย ประเทศแปดเปื้อนไปด้วยเลือดแล้ว

ဪ...လုပ်ရက်ကြပေ
โอ้...ทำกันได้ลงคอหนอ

ပေတစ်ရာပေါ်မှာ ပြည်သူအလောင်းတွေ
ศพของประชาชนบนถนน 

အတုံးအရုန်းလဲပြိုကာနေ
ศพเกลื่อนกระจาย

ညီ...အစ်ကိုတို့ ပေတစ်ရာပေါ်မှာစီးတဲ့သွေးတွေ မခြောက်သေးဘူး
เลือดของพี่น้องที่เปื้อนบนถนน ยังไม่แห้ง

မတွေဝေ..နဲ့
อย่าลังเล

ဒီမိုကရေစီတိုက်ပွဲအတွင်းမှာကျဆုံးသော ဪ...သူရဲကောင်းတို့လို ခိုင်မာပီပြင် တော်လှန်ပစ်မလေ
ที่จะต่อต้านอย่างแข็งขันและพร้อมเพรียง โอ้ ดังวีรชนที่เสียชีวิตไปในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

အမျိုးချစ်တဲ့တို့ဇာနည်တွေ
พวกเราเหล่าผู้ยอมสละเพื่อชาติ

 

 

วลีอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น

  • သပိတ် သပိတ် .... မှောက် မှောက်

คว่ำบาตร คว่ำบาตร (สื่อถึงการไม่ยอมรับเผด็จการอย่างรุนแรง)

  • ‌ဒေါ်အောင်ဆန်းစုကြည်နှင့် နိုင်ငံခေါင်းဆောင်များ .... ချက်ချင်းလွတ်ပေး ချက်ချင်းလွတ်ပေး

ดอว์อองซานซูจี และ เหล่าผู้นำประเทศ .... ปล่อยตัวทันที ปล่อยตัวทันที

  • ပြည်တောင်စုလွှတ်တော်ခေါ်ယူ‌ရေး ....ဒို့အ‌ရေး  ဒို့အ‌ရေး

การเปิดประชุมสภา ....คือจุดประสงค์ของเรา จุดประสงค์ของเรา

  • အရေးတော်ပုံ .... အောင်ရမည်  အောင်ရမည်

การลุกฮือ .... ต้องสำเร็จ ต้องสำเร็จ

  • และยังมีวลี ပြည်သူ့ရဲ /ปหยี่ ตุ้ แย/  “ตำรวจของประชาชน”  ที่ตะโกนให้กับตำรวจคุมฝูงชน เพื่อเรียกร้องให้ตำรวจยืนอยู่ข้างประชาชน

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net