Skip to main content
sharethis

วีโวตั้งโต๊ะแถลงข่าวเหตุการณ์ตำรวจจับกุมสมาชิกวีโวเมื่อวันที่ 6 มี.ค.64 พร้อมเปิดภาพกล้องวงจรปิด ยืนยันไม่มียุทธภัณฑ์และสมาชิกของกลุ่มก็ไม่ได้หลบหนีตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งภายหลังก็เดินเข้ามอบตัวเอง สมาชิกหญิง 2 คนยืนยันถูกทำร้ายมีการเอาปืนจ่อ จับแล้วรถห้องขังก็ไม่ได้ล็อกแถมวิ่งเข้าพื้นที่ชุมนุม จากนี้จะปรึกษาทนายความเพื่อดำเนินคดีกลับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม

จากซ้ายไปขวา อภิวัชร์ สุขแสวง, รัฐภูมิ เลิศไพจิตร, ทัชชา และฟากฟ้า ตามลำดับ

จากซ้ายไปขวา อภิวัชร์ สุขแสวง, รัฐภูมิ เลิศไพจิตร, ทัชชา และฟากฟ้า ตามลำดับ

11 มี.ค.2564 ที่เดอะ คอนเนคชั่น MRT ลาดพร้าว กลุ่ม We Volunteer (วีโว) นัดแถลงข่าวเหตุการณ์ที่ปิยรัฐ จงเทพหรือโตโต้ รวมถึงสมาชิกคนอื่นๆ ของกลุ่มถูกจับกุมที่เมเจอร์รัชโยธินเมื่อวันที่ 6 มี.ค.2564 ที่ผ่านมา ในการแถลงมีการเปิดคลิปกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ ยืนยันไม่ได้หลบหนีและของที่ถูกยึดไม่ได้มีสภาพเป็นยุทธภัณฑ์ตามกฎหมายเสื้อเกราะก็เป็นของทำกันเองไม่มีแผ่นเพลท อีกทั้งตอนนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินคดีในข้อหาครอบครองอาวุธและยุทธภัณฑ์

รัฐภูมิ เลิศไพจิตร หรือ เติร์ด โฆษก WeVo เริ่มการแถลงข่าวด้วยการเปิดคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่ปิยรัฐและเพื่อนถูกควบคุมตัวซึ่งไม่ปรากฏในคลิปว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือแสดงหมายจับ หมายค้นต่อผู้ที่ถูกควบคุมตัว แต่ปิยรัฐไม่ได้มีภาพของการขัดขืน และเจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าจะมีการนำตัวไปพบ “นาย”

คลิปขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวปิยรัฐ

รัฐภูมิได้ลำดับเหตุการณ์ว่าปิยรัฐกับเพื่อนเดินทางไปที่ห้างเมเจอร์รัชโยธินโดยมีการตรวจวัดไข้ก่อนเข้าห้างและขึ้นไปทานอาหารที่ชั้น 4 ของห้าง จนกระทั่ง 17.45 น. เมื่อปิยรัฐกับเพื่อนทานอาหารเสร็จได้เดินไปที่ลานจอดรถของห้างและพบกับเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบและในเครื่องแบบ ซึ่งรัฐภูมิระบุว่าในการจับกุมเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้มีการแจ้งสาเหตุ แสดงหมายค้นหมายจับ ก่อนจับกุมปิยรัฐ ทั้งนี้ปิยรัฐไม่ได้ยินยอมเนื่องจากไม่มีการแสดงหมาย จนมีตำรวจที่แต่งกายเหมือนชุดปฏิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธเข้ามาทำการค้นตัวปิยรัฐและเพื่อนไปพบนาย และมีการปัดมือถือเพื่อไม่ให้มีการไลฟ์ต่อ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำปิยรัฐถูกนำตัวไปพบกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่ถูกจับก่อนแล้วที่ลานจอดรถชั้นห้าก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่แยกตัวไปคนเดียว แต่เมื่อจะมีการไลฟ์อีกครั้งเจ้าหน้าที่ก็ใช้กำลังเพื่อหยุดการไลฟ์ แล้วจากนั้นปิยรัฐก็ถูกคุมตัวไปกองบัญชาการตำรวจตระเวณชายแดน ภาค 1 (ตชด.ภาค 1)

“หากคุณบริสุทธิ์ใจจริงๆ คุณต้องทำให้การไลฟ์สดดำเนินต่อไปได้” รัฐภูมิกล่าวถึงความพยายามของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ให้มีการไลฟ์ทั้งการจับกุมและการตรวจค้นสิ่งของ อีกทั้งได้ตั้งคำถามว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ถือเป็นการละเมิดสิทธิและแสดงถึงความไม่บริสุทธิ์ใจของเจ้าหน้าที่หรือไม่

รัฐภูมิกล่าวว่าในการจับกุมยังมีการใช้อาวุธบังคับตรวจค้นและยึดทรัพย์สินของผู้ที่ถูกจับกุมทั้งเงินสด บัตรประชาชน เขาระบุว่ามีผู้ที่ถูกจับกุมราว 10 คนที่ถูกทำร้ายร่างกายระหว่างตรวจค้นและได้ยกตัวอย่างผู้ที่ถูกจับกุม 2 คนในการแถลงข่าวว่า มีหนึ่งคนที่ถูกปัดโทรศัพท์ระหว่างไลฟ์ล็อกตัวและจับกดลงกับพื้น เจ้าหน้าที่ใช้เท้ากระทืบลงที่ไหล่ซ้าย ใช้หมวกกันน็อกฟาดหน้า ใช้ถุงลูกแก้วฟาดหัว และใช้พลุควันยัดปากก่อนที่เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจะถ่ายรูปส่งให้นาย และบอกว่า “นายเราชอบ” ผู้ที่ถูกจับกุมอีกหนึ่งคนถูกเจ้าหน้าที่ใช้ปืนจ่อหัวไว้ตลอดกดให้นอนลงกับพื้นใช้เข่ากดค้นตัวยึดของและกระเป๋า ซึ่งอีก 8 คนที่เหลือก็ถูกเจ้าหน้าที่กระทำในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนั้นยังสั่งให้คนที่ถูกจับกุมคลานไปกับพื้นทั้งที่มีการมัดเคเบิลไทร์ไว้ และอ้างว่าของที่ยึดไว้เป็นของกลางทั้งหมดแม้กระทั่งบัตรประชาชนและไม่ได้มีการคืนบัตรให้กับผู้ถูกจับกุม และผู้ที่ถูกจับกุมบางคนถูกใช้ถุงสีดำครอบหัว

ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ณ วันนี้(11 มี.ค.64) ทางตำรวจได้มีการเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหาเกี่ยวกับยุทธภัณฑ์แล้วหรือไม่ รัฐภูมิระบุว่ายังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหานี้ และของที่ถูกยึดก็ถูกนำไปวางรวมกันทำให้ไม่รู้ว่าของที่ตรวจยึดมาจากของบุคคลใดบ้าง แต่ของที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นอาวุธ อย่างหนังสติ๊ก น้ำปลาร้า มันก็ไม่ได้ถือว่าเป็นอาวุธอีกทั้งชุดเกราะที่ถูกยึดก็เป็นของทำกันเองไม่ได้มีแผ่นเพลท และเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งข้อหาว่ามียุทธภัณฑ์ด้วย

วินาทีที่ 0.57-2.47 เป็นภาพขณะเจ้าหน้าที่ในชุดปฏิบัติการพิเศษและนอกเครื่องแบบวางกำลังบริเวณลานจอดรถของห้างซึ่งเป็นช่วงเวลาประมาณ 17.41 น. และมีรถที่ข้างรถติดเครื่องหมาย SWAT อยู่ด้วย

วินาทีที่ 2.47-4.03 ช่วงปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมและตรวจค้น ที่เห็นว่ามีการนำสิ่งของที่ยึดได้ไปวางรวมกัน

อภิวัชร์ สุขแสวง อายุ 20 ปี ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์หลังจากผู้ถูกจับกุมถูกนำตัวขึ้นรถคุมขังออกจากด้านหน้าห้างว่า ตอนนั้นก็ไม่ทราบว่ารถขังทั้ง 4 คัน จะนำตัวผู้ที่ถูกจับกุมไปที่ใดแล้วก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจการจับกุมล้อมรถไว้ แต่ขณะที่รถกำลังออกจากห้างก็ไม่มีตำรวจที่เป็นชุดจับกุมคุ้มกันรถห้องขังทั้ง 4 คัน ก็มแต่เพียงเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่ขับรถนอกจากนั้นยังมีรถห้องขัง 1 คันยังขับเข้าไปในเส้นทางที่มีผู้ชุมนุมอยู่ทั้งที่มีเส้นทางอื่นๆ ที่ไป ตชด.ภาค 1 ได้เลย

รัฐภูมิกล่าวว่าคนที่ถูกจับกุมไม่ได้มีแต่ทีมวีโว แต่ยังมีประชาชนอื่นๆ ด้วย นอกจากนั้นเขายังปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเจตนาชิงตัวผู้ต้องหาแต่อย่างใด อีกทั้งผู้ที่ถูกจับกุมก็เข้าไปพบตำรวจสน.พหลโยธินในภายหลังเองด้วย

นักข่าวถามเกี่ยวกับเหตุการณ์สกัดรถห้องขังตั้งแต่ก่อนออกจากเมเจอร์รัชโยธินว่าก็มีสมาชิกวีโวร่วมด้วยหรือไม่ รัฐภูมิยอมรับว่ามีบางส่วนกับมวลชนด้วย

“เราไม่ทราบจริงๆ ว่าเขาจะพาเพื่อนเราไปที่ไหนซึ่งตามกฎหมายเขาต้องแจ้งว่าจะพาไปที่ไหน ดังนั้นความกังวลเกิดขึ้น ณ ตอนนั้นแน่นอน” รัฐภูมิยืนยันว่าไม่มีเจตนาพาตัวผู้ต้องหาหลบหนีแน่นอนสุดท้ายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ถูกต้องตามหลักกฎหมาย

รัฐภูมิกล่าวว่า แต่เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าคนที่มาทุบรถห้องขังเป็นใครบ้าง ก็เป็นไปได้ทั้งว่ามีบุคคลอื่นมาแทรกแซงทำให้เกิดเหตุการณ์หรือเป็นผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่ผ่านๆ มาไม่ใช่เฉพาะเหตุการณ์นี้ แต่ยังรวมไปถึงการสลายการชุมนุมหรือการไม่ได้รับความยุติธรรม

“คำถามก็เกิดกับประชาชนว่ากับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือกลุ่มวีโวที่ไม่มีอาวุธมามือเปล่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่ที่หน่วยที่เป็นหน่วยรบมาจับประชาชนมือเปล่า แทนที่จะเอาหน้าที่ตรงนี้เวลาตรงนี้ ภาษีที่ประชาชนเสียไปไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์มากกว่าหรือเปล่า ที่มาวันนี้คืออยากให้ประชาชนตั้งคำถามว่าการจับกุมมันไม่ชอบธรรมหรือไม่ สองการจับกุมครั้งนี้มันเกินกว่าเหตุหรือเปล่า” รัฐภูมิตั้งคำถามต่อปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่

ทัชชา(ซ้าย) และ ฟากฟ้า(ขวา)

ทัชชา(ซ้าย) และ ฟากฟ้า(ขวา)

ฟากฟ้า อายุ 25 ปี และทัชชา อายุ 26 ปี สมาชิกหญิงของวีโวที่ถูกจับพร้อมกันมาเล่าเหตุการณ์ที่พวกเธอถูกจับกุมในห้างเมเจอร์รัชโยธินพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆ พร้อมโชว์ภาพบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างจับกุมของเจ้าหน้าที่

ฟากฟ้าบอกว่าหลังจากที่กินข้าวและสูบบุหรี่ที่ลานจอดรถเสร็จเธอเดินไปเข้าห้องน้ำก็เจอบุคคลที่ลักษณะเหมือนเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ 10 กว่านายวิ่งไล่จับกุม จนเธอหนีไปเจอตำรวจพร้อมโล่เหล็กถือปืนวิ่งไล่และถูกจับกุมในที่สุด เธอไลฟ์เหตุการณ์ไว้ตลอดแต่เมื่อถูกจับกุมและถูกยึดไปก็ถูกลบ เจ้าหน้าที่ที่จับกุมเธอไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอะไร

“นอกเครื่องแบบก็บอกว่า ทำอะไร เอาโทรศัพท์มาห้ามถ่าย ผมไม่ให้ถ่าย หนูก็เลยพูดกลับไปว่าพี่คะถ้าพี่ไม่ผิดอะไรหนูถ่ายก็ไม่ผิดเหมือนกันค่ะถ้าพี่บริสุทธิ์ใจเช่นกัน” ฟากฟ้าเล่าเหตุการณ์ตอนที่กำลังถ่ายไลฟ์อยู่ก่อนถูกยึดมือถือไป เจ้าหน้าที่ก็ผลักเธอไปรวมกับคนที่ถูกจับคนอื่นๆ แล้วเตะขาให้ฟุบคว่ำหน้าลงไปกับพื้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังใช้เท้าเหยียบที่ข้อขาซ้ำ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ใช้กระบองเหล็กมาเขี่ยตรงกระเป๋าข้างขากับกระเป๋าที่บั้นท้ายของเธอ และจากที่ต้องนอนคว่ำหน้าก็ทำให้เจ็บหน้าอกแต่เมื่อขอลุกขึ้นนั่งกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตและบอกว่าพวกเธอเรื่องมาก

ผู้สื่อข่าวได้ถามเธอว่าในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงเลยใช่หรือไม่ เธอบอกว่าชุดที่เข้าจับกุมพวกเธอที่ลานจอดรถชั้นบนข้างห้างไม่มีผู้หญิงเลย และเธอมาเห็นทีหลังว่าเจ้าหน้าที่ผู้หญิงมีเฉพาะที่อยู่ชั้นล่างห้างเท่านั้น

ฟากฟ้าเล่าต่อว่าพวกเธอถูกเอาตัวขึ้นรถห้องขังไปและถูกมัดมือไว้ด้วยเคเบิลไทร์ทั้งนี้ไม่มีการแจ้งว่าจะถูกนำตัวไปที่ใด และตอนที่เจ้าหน้าที่จะปิดประตูเจ้าหน้าที่ก็พูดขึ้นมาว่า “เฮ้ย ประตูมันล็อกไม่ได้” แล้วก็เอากุญแจมือเหล็กคล้องไว้โดยที่ไม่ได้ล็อก อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมบนรถก็มีแค่หน้ากับท้ายรถจุดละคน แล้วรถคันที่เธอนั่งก็ถูกวนไปทางที่มีผู้ชุมนุมตรงแยกรัชโยธิน แล้วรถที่นั่งมาก็ถูกล้อมพอประตูรถเปิดเธอก็วิ่งลงจากรถไป แต่ก็มีคนบอกว่าให้กลับไปรถห้องขังเพราะเดี๋ยวจะถูกหาว่าหลบหนี เธอก็เลยกลับไปที่รถรอมอบตัว

คลิปเหตุการณ์ที่พวกเขาเดินเข้ามอบตัวที่สน.พหลโยธิน

"หนูพร้อมสู้คดีทุกอย่างเพราะว่าหนูไม่ได้ผิดอะไรผิดก็ว่าไปตามผิด หนูโอเคหมด แต่เจ้าหน้าที่เขาไม่จริงใจกับพวกหนูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อยู่ดีๆ มายัดคดีอย่างนี้พวกหนูเสียอนาคต" ฟากฟ้ากล่าวยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดแต่กลับถูกจับกุมดำเนินคดี

ฟากฟ้าบอกว่าได้แจ้งความเรื่องที่ถูกทำร้ายร่างกายกับตำรวจด้วย แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความและยังถูกถามกลับว่าจำหน้าเจ้าหน้าที่อรินทราชที่จับกุมได้หรือไม่ เธอบอกว่าจะจำได้อย่างไรในเมื่อเจ้าหน้าที่ปิดหน้าไว้เห็นแค่ตาเท่านั้น

หลังการแถลงข่าว รัฐภูมิระบุว่าเบื้องต้นจะมีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ แต่ว่ายังต้องปรึกษากับทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนก่อน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net