กลุ่มพลเมืองโต้กลับ จัด #ยืนหยุดขัง หน้าศาลฎีกาวันที่ 22 เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนที่อยู่ในเรือนจำและเรียกร้องสิทธิการประกันตัว พร้อมเปิดเรื่องราวความยากลำบากของ 'ณัฐชนน ไพโรจน์' นศ.ธรรมศาสตร์ ผู้ต้องขังที่เป็นคนพิการ
6 ก.ย.2564 ช่วงเย็นวันนี้ (6 ก.ย.64) ที่หน้าศาลฎีกา หรือ ลานอากง กลุ่มพลเมืองโต้กลับ Resistant Citizen จัดกิจกรรม #ยืนหยุดขังDay22 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนที่อยู่ในเรือนจำและเรียกร้องสิทธิการประกันตัว
โดยกลุ่มพลเมืองโต้กลับระบุด้วยว่า
ได้รับทราบจากบันทึกของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนว่า “ณัฐชนน ไพโรจน์” นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสมาชิกแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ซึ่งถูกฝากขังที่เรือนจำชั่วคราวรังสิตในคดี #ม็อบ2สิงหา มาตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม และศาลยืนคำสั่งไม่ให้ปล่อยตัว แม้จะยื่นคำร้องขอประกัน 3 ครั้งแล้ว
แม้ว่าณัฐชนนเป็นเพื่อนเราเพียงคนเดียวที่ยังตรวจไม่พบการติดเชื้อโควิด แต่เขาก็ต้องใช้ชีวิตในเรือนจำอย่างยากลำบาก ดังที่หลายคนคงทราบว่า ณัฐเป็นผู้พิการสูญเสีย ‘ขาขวา’ จากอุบัติเหตุเมื่อครั้งยังเรียนอยู่มัธยมตอนปลาย เขาต้องใส่ ‘ขาเทียม’ ตั้งแต่นั้นมา
ณัฐเล่าว่า “คนปกติใช้ชีวิตในเรือนจำมันก็ยากอยู่แล้ว แต่มันยิ่งยากขึ้นไปอีกสำหรับคนพิการ อย่างแรกเลย ผมเข้าห้องน้ำได้ลำบากมาก เพราะที่นี่เป็นส้วมแบบนั่งยอง ไม่ว่าผมจะใส่หรือถอดขาเทียมก็ล้วนแต่ลำบากทั้งนั้น
“ทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ คือความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ …ผมลื่นล้มจนเท้าด้านซ้ายได้แผลมา”
ส้วมแบบนั่งยองต้องใช้กำลังของทั้งสองขาพยุงร่างกาย ณัฐชนนจึงมักมีปัญหากับการเข้าห้องน้ำ ซึ่งจะดีกว่าหากห้องน้ำในเรือนจำเป็นแบบชักโครกหรือมีอุปกรณ์ช่วยอื่นๆ ที่เอื้อต่อการใช้งานของผู้พิการ
“อย่างที่สอง เวลาต้องอาบน้ำ ซึ่งก็จำเป็นจะต้องถอดขาเทียมที่ใส่อยู่ออก แต่เมื่อถอดออกก็เสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อีกเช่นกัน เพราะห้องน้ำที่นี่ไม่มีฟังก์ชั่นสำหรับผู้พิการ มีพื้นที่ทั้งลื่น และไม่มีราวจับ
“ถ้าพูดสรุปง่ายๆ ให้ฟังก็คือ ‘ห้องน้ำกับผมเป็นของที่ไม่ถูกกันเลย’
“แต่ถามว่าอยู่ได้มั้ย มันก็ต้องอยู่”
ในขณะที่ประเทศเจริญแล้ว เรือนจำไม่ใช่เรือนจำ แต่เปลี่ยนไปเรียกว่า Correction Centers ในความหมายว่าเป็นสถานที่แก้ไขพฤติกรรมให้ผู้ต้องโทษเปลี่ยนแปลงตนเอง เพื่อกลับเข้าสู่สังคมได้อีกครั้ง
แต่สังคมไทยเรายังดักดานล้าหลัง พยายามทำให้เรือนจำเป็นเหมือนนรกให้มากที่สุด ทว่าคุกของเราไม่ใช่นรกที่มีไว้ลงโทษคนชั่ว แต่มีไว้ลงโทษคนจนต่างหาก
รัฐทรราชของประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังใช้ประโยชน์จากเรือนจำอีกแบบหนึ่ง นั่นคือใช้เรือนจำเป็นเสมือนค่ายทรมานนักโทษการเมือง เป็นวิธีการอันแยบยลในการทำร้ายผู้คิดต่างโดยอาศัยเงื้อมมือกฎหมาย มีตำรวจ ศาลและกรมราชทัณฑ์เป็นกลไกจัดการ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)