Skip to main content
sharethis

หัวหน้า พท. เผยผ่านรายการ ‘เจาะลึกทั่วไทย’ จุดยืนของพรรคต่อการแก้ ม.112-116 ว่าพรรคจะไม่ยกร่างแก้กฎหมายเอง แต่หากมีผู้ยื่นแก้เข้ามา ยินดีช่วยผลักดันเข้าสภา พร้อมย้ำต้องแก้ที่กระบวนการบังคับใช้กฎหมายโดยมิชอบ โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ที่ดึงสถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง ก่อนเผยด้วยว่า โพสต์ของ ‘โทนี่’ ไม่ขัดแนวทางพรรคแต่แรก  

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

4 พ.ย. 64 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรคต่อการแก้ ม.112 และ 116 ในรายการถ่ายทอดสด “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand 04 พ.ย. 64” เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น. 

เบื้องต้น นพ.ชลน่าน กล่าวถึงจุดยืนของพรรคเพื่อไทยว่า เจตนารมณ์และจุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่ออกแถลงการณ์เป็นจดหมายเปิดผนึก วันที่ 31 ต.ค. 64 จากประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ระบุชัดเจนว่าแถลงการณ์ระบุว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมรับข้อเสนอ และข้อร้องเรียนของทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม เช่น ม.112 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันกษัตริย์ จนต้องการเป็นนักโทษทางความคิด และจะนำข้อร้องเรียนนี้เข้าสภา เพื่อให้เกิดการแก้ไข 

ทั้งนี้ พิธีกรรายการ “เจาะลึกทั่วไทย” ถามย้ำว่า เพื่อให้เกิดความแน่ใจ ทางทีมงานรายการได้ทบทวนอ่านจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าวหลายรอบ จนได้ข้อสรุปและเห็นตรงกันว่า “ไม่ว่าจะมองในมุมไหน ไม่ว่าจะถอดรหัสอย่างไร แปลว่า พรรคเพื่อไทย ประกาศเป็นสัญญากับประชาชน จะใช้ความเป็นพรรคการเมืองที่มี ส.ส. มากที่สุดในสภา ขับเคลื่อนการแก้ปัญหา ขับเคลื่อนการแก้ไขกฎหมาย ม. 112 และ 116”

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สามารถตีความอย่างนั้นได้ เนื่องจากมันมีกระบวนการรัฐสภาที่จะแก้ไขกฎหมายได้ ถ้าคนรุ่นใหม่เขาเห็นว่า กฎหมายไม่เป็นธรรม และต้องการแก้กฎหมายหรือยกเลิก ก็สามารถยื่นข้อเรียกร้องเข้ามา เพื่อให้พรรคผลักดันเข้าสู่สภา ส่วนจะแก้ไขได้หรือไม่ให้เป็นกระบวนการของรัฐสภาจะพิจารณากันต่อไป แต่พรรคไม่สามารถประกาศได้เลยว่า จะแก้กฎหมาย ม.112 เพราะอยู่นอกเหนืออำนาจของพรรคที่จะทำได้ 

“ถ้าคนรุ่นใหม่ ยื่นเรื่องกฎหมายมา เราก็ยินดีรับเข้าสู่กระบวนการแก้ไขกฎหมาย ส่วนว่าจะแก้ไขอย่างไร ก็อยู่ที่รายละเอียดวา่เขาจะยื่นการแก้ไข หรือประเด็นอะไรเข้ามา และสภาเห็นเป็นอย่างไร อันนี้ขึ้นกับกระบวนการของสภา พรรคการเมืองไม่สามารถสัญญาให้ว่า ผมแก้ให้ได้นะ เพราะเป็นการพูดเกินหน้าที่” ชลน่าน กล่าว

ชลน่าน กล่าวด้วยว่า เรื่องที่พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนคือ การระงับการบังคับใช้กฎหมายโดยไม่ชอบ และคนที่มีส่วนร่วมกับการบังคับใช้กฎหมายต้องได้รับโทษ โดยเฉพาะรัฐบาลชุดนี้ดึงสถาบันกษัตริย์ลงมาเป็นอาวุธทางการเมือง ซึ่งขัดกับจุดยืนพรรคเพื่อไทย คือ การปกป้องสถาบันกษัติรย์ ไม่ให้กลายเป็นเครื่องมืออาวุธทางการเมือง ซึ่งตามหลักของระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สถาบันต้องอยู่เหนือการเมือง 

“จุดยืนเพื่อไทย คือปกป้องการเอาสถาบันมาเป็นอาวุธทางการเมือง ซึ่งในระบอบประชาธิปไตย อันทรงมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทรงอยู่เหนือการเมือง แต่รัฐบาลชุดนี้มันชัดเจนมาก จนกระทั่งทำให้เกิดปัญหา กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถาบันดึงมาใช้เป็นเครื่องมือ ต้องให้กฎหมายใช้ปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างจริงๆ อะไรที่มันคลุมเคลือต้องไปดู” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุ 

พิธีกร ถามว่า ขอสั้นๆ ตรงๆ ให้เข้าใจตรงกัน ไม่ซับซ้อน สรุป คือ พรรคเพื่อไทยจะเสนอแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายอาญา ม.112 และ ม.116 หรือไม่ 

นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า “เราเองไม่เคยคิดที่จะเป็นผู้ยกร่างในเรื่องนี้” เพียงแต่ว่า ถ้าเห็นว่ามีฝ่ายไหนส่งเข้ามา เช่น ฝ่ายประชาชนเข้ามา ก็ถือว่าเป็นปัญหา เพราะเรามองในมุม ที่จะปกป้องคุ้มครองสถาบัน มันมีทั้งแรงสนับสนุนแรงต่อต้าน ซึ่งถ้าเราไปกระทำเองเราในฐานะตัวแทนประชาชน มันเหมือนกันไม่ฟังเสียงรอบด้าน พร้อมยืนยันฟังทุกเสียงในรัฐสภา

ชลน่าน กล่าวว่า ในกระบวนการเร่งรับข้อเสนอของทางกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่อการแก้ ม.112 นั้น ขึ้นอยู่กับสารตั้งต้นที่คนรุ่นใหม่ส่งมา ขณะนี้เขารวบรวมรายชื่อแก้ไข ม.112 อันนี้ก็คือสารตั้งต้น กระบวนการก็ต้องดำเนินการไปตามนั้น เพราะมันมีช่องทางของการนำเข้าสู่สภา แน่นอนการผลักดันเข้าสู่สภา ถ้าไม่ได้ ส.ส. ช่วยในการผลักดันเข้าสู่ระเบียบวาระ มันก็ไม่เป็นผล เบื้องต้น จะผลักดันเข้าสู่ระเบียบวาระก่อน พิจารณาอย่างไรก็ว่ากันไปตามกระบวนการของรัฐสภา 

สำหรับคำถามของพิธีกรที่ว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทยล่าสุดนั้น เป็นผลจากโพสต์ของทักษิณ ชินวัตร หรือไม่ 

ชลน่าน ระบุว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็นแบบเดิม ซึ่งเป็นสืบเนื่องจากแถลงการณ์เมื่อกลางดึกวันที่ 31 ต.ค. 64 เพียงแต่มันเน้นย้ำในนามของพรรค และพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า เรามีความเห็นร่วมกันเช่นนี้ จุดยืนโดยรวม ภาพใหญ่เป็นอย่างนี้ 

“เพื่อไทยยังมีจุดยืนอย่างเดิม ความเห็นของอดีตนายกรัฐมนตรี มุมมองของท่านในมุมที่ท่านประสบ ข้อเท็จจริงที่ท่านประสบ สมัยก่อนตัวกฎหมายฉบับนี้ไม่เคยมีปัญหามาเลย เพราะการบังคับใช้ไม่มีปัญหา ไม่ใช่ตัวสาระ แต่ตัวกฎหมายฉบับนี้ในสมัยก่อนไม่เคยมีปัญหาเช่นนี้  ตัวบทไม่มีปัญหา” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว 

พิธีกร ถามว่า “พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับมุมมองของ ทักษิณ ใช่ไหม” 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ข้อคิดเห็นของทักษิณ ไม่ได้ขัดแย้งต่อเจตนารมณ์ของพรรคเพื่อไทย ที่เน้นเรื่องปัญหากระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนกระบวนการแก้กฎหมายเป็นหน้าที่ของรัฐสภาต้องเข้าไปดู ซึ่งขึ้นอยู่กับข้อร้องเรียนยื่นแก้กฎหมายของแระชาชนที่ส่งเข้ามาว่า เขาท้วงติงประเด็นอะไร  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net