AOC นักการเมืองอเมริกันสายก้าวหน้าวิจารณ์บรรษัทพลังงานใหญ่อ้างสถานการณ์โลก 'โก่งราคาน้ำมัน'

'อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ' นักการเมืองสายก้าวหน้าจากพรรคเดโมแครต วิจารณ์กลุ่มบรรษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ที่ 'โก่งราคา' น้ำมันในช่วงที่ผ่านมาด้วยการอ้างเรื่องสถานการณ์โลก คำวิจารณ์นี้ออกมาในช่วงที่รัฐสภาสหรัฐฯ เพิ่งจะเสนอเก็บภาษีกำไรลาภลอยของบรรษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ ขณะที่ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในสหรัฐฯ ลดลงบ้างแล้วด้วยหลายปัจจัย

16 มี.ค. 2565 อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เทซ หรือ AOC ส.ส.สายก้าวหน้าจากพรรคเดโมแครตวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มบรรษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ที่อ้างเรื่องเงินเฟ้อและวิกฤตสงครามในยูเครนเพื่อขึ้นราคาน้ำมันก่อนหน้านี้ โดยที่ในวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมาราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมาบ้างในช่วงที่มีการเจรจาระหว่างรัสเซียกับยูเครน โอคาซิโอ-คอร์เทซโต้ตอบกับสเตฟานี รูห์ พิธีกรรายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ MSNBC เกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นมาก่อนหน้านี้ว่าเป็นเพราะ "การขูดรีดกำไรเกินควร และควรจะมีผลตอบโต้กลับต่อพวกเขาในเรื่องนี้"

โอคาซิโอ-คอร์เทซและอิลฮาน โอมาร์ ส.ส.จากพรรคเดโมแครตอีกรายที่อยู่ในกลุ่มผู้หญิงก้าวหน้าของพรรคโพสต์ข้อความผ่านทางทวิตเตอร์ว่า "กลุ่มซีอีโอบรรษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ควรจะต้องถูกทำให้รับผิดชอบต่อเรื่องการขูดรีดกำไรเกินควร"

 

 

สัปดาห์ที่แล้ว เชลดอน ไวท์เฮาส์ ส.ว.จากพรรคเดโมแครตเสนอมาตรการเก็บภาษีผลกำไรจากลาภลอยของบรรษัทน้ำมันขนาดใหญ่โดยเน้นตั้งเป้าที่บริษัทพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ค้ากำไรเกินควรในช่วงที่รัสเซียประกาศบุกยูเครน โดยที่ร่างมาตรการใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว.พรรคเดโมแครต คือ เจฟฟฟ์ เมอร์คลีย์, เอลิซาเบธ วอร์เรน และ เบอร์นี แซนเดอร์ ซึ่งในปัจจุบันเป็น ส.ว.ผู้ไม่สังกัดพรรคใด โดยที่โร คานนา ส.ส.จากรัฐแคลิฟอร์เนีย สังกัดพรรคเดโมแครตได้เสนอร่างมาตรการแบบเดียวกันในฉบับของสภาผู้แทนฯ

โอคาซิโอ-คอร์เทซเน้นย้ำว่าที่ผ่านมา นักการเมืองในสหรัฐฯ ล้มเหลวในการทำให้บรรษัทพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาทำ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่หาผลกำไรจากอุตสาหกรรมนี้

 

 

สื่อคอมมอนดรีมส์วิเคราะห์ว่าคำวิจารณ์ของโอคาซิโอ-คอร์เทซน่าจะเป็นการตั้งเป้าวิจารณ์โจ แมนชิน ส.ว.จากพรรคเดโมแครต ผู้ต่อต้านรัฐบาลเรื่องการให้ทุนสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ในขณะเดียวกันก็ได้รับเงินสนับสนุนหาเสียงทางการเมืองจากกลุ่มบรรษัทที่สร้างมลภาวะทางอากาศ และทำกำไรอย่างงามจากบริษัทถ่านหินของครอบครัวเขาเอง โอคาซิโอ-คอร์เทซระบุอีกว่ามันเป็นเรื่อง "ประหลาดอย่างแท้จริง" ที่ทำไมถึงปล่อยให้มีการหาผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ได้แต่ไม่ยอมให้มีการเปิดเผยความจริงและตั้งคำถามต่อความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

สัปดาห์ที่แล้วสื่อคอมมอนดรีมส์เคยรายงานเรื่องผลสำรวจจากกลุ่มไฟต์คอร์ปอร์เรตโมโนโพลี (Fight Corporate Monopolies) ระบุว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 82 จากทั้งหมด 1,000 รายเชื่อว่าการที่ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการที่บรรษัทยักษ์ใหญ่โก่งราคาเพื่อผลักภาระให้ผู้บริโภคและต้องการให้รัฐบาลจัดการกับกลุ่มซีอีโอที่มีอำนาจ ลดความโลภของกลุ่มบรรษัท ทำให้ราคาลดลง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันของสหรัฐฯ ก็เริ่มปรับตัวลดลง และในวันที่ 15 มี.ค. ก็ปรับตัวลดลงอีก ซึ่ง CNN รายงานว่าลดลงร้อยละ 30 ภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่มสูงขึ้นมาก

รีเบกกา บาบิน ผู้ค้าด้านตลาดพลังงานของบริษัทจัดการความมั่งส่วนบุคคล CIBC ในสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่าการปรับราคาลดลงของราคาพลังงานน่าจะมาจากปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการที่รัสเซียและยูเครนหันกลับมาเจรจากันเมื่อวันที่ 14 มี.ค. ความต้องการพลังงานในจีนลดลงเนื่องจากการล็อกดาวน์ COVID-19 ครั้งใหม่ในเดือน มี.ค. นอกจากนี้ยังอาจจะมาจากกรณีที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กับซาอุดีอาระเบียประกาศว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท